ตั้งหัวเรื่องได้โคตรจืดเลย 55555555
คือ เดี๋ยวนี้ผมแทบเลิกฟังเพลงไปโดยสิ้นเชิงเลยครับ
ที่ผ่านมา ผมและเมียเป็นคนฟังเพลงด้วยวิธีโบราณ คือซื้อซีดีมา เสียบแผ่นไปกับเครื่องเล่นในรถยนต์ ตอนที่ขับรถไปไหนต่อไหนก็ฟังแล้วร้องงึมงำตาม หรือเอามือข้างที่ว่างจากการจับพวงมาลัย ไปเคาะกระจกบ้าง ประตูรถด้านขวาบ้าง เป็นพฤติกรรมปกติที่ทำมาตลอด
หรือสมัยที่ทำงานในออฟฟิศ ก็จะรู้จักเพลงใหม่ๆ จากน้องๆ ที่ทำงาน ที่สลับกันเป็นดีเจ พาทุกคนไปสู่พรมแดนใหม่ๆ ตามรสนิยมของตัวเองอยู่เสมอ
แต่พอมาถึงทุกวันนี้ ลูกสาวคนโตพ้นวัยแบเบาะมาสู่วัยอนุบาล เริ่มเรียนรู้สิ่งรอบตัวอย่างบ้าคลั่ง ตามมาด้วยน้องอีกคนที่คลอดตามกันมา ทุกวันนี้ทีวีเครื่องข้างล่างถูกวางไว้ให้ฝุ่นเกาะ นับได้เป็นปีแล้ว ส่วนเครื่องข้างบนบ้าน ถ้าไม่เอาไว้เปิดเพลงเด็กอนุบาลจากยูทูบ ก็คือเมียยึดไปเปิด T25 แล้วเต้นตามฝรั่งในนั้น
อันนี้ไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะโดยปกติวิถีชีวิตแทบไม่ได้คลุกคลีกับทีวีอยู่แล้ว จะดูข่าวดูอะไรก็พึ่งอินเทอร์เน็ตตลอด (วันก่อนมีคนมาเปิดประเด็นวิวาทะด้วย เลยทำให้นึกได้ว่าผมดูสรยุทธ์เป็นประจำครั้งสุดท้ายก็สมัยพิธีกรคู่ชื่ออรปรียา)
แต่กับความสุนทรีย์ทางหูนั้น ตอนนี้เรียกว่าเราแยกทางกันเดินไปเลย
อย่างตอนขับรถ ไม่ว่าจะออกไปธุระประเดี๋ยวประด๋าว หรือนั่งกันไปไกลๆ ยันต่างจังหวัด ล่าสุดก็เพิ่งขับไปเที่ยวอีสานแล้วอ้อมไปเกือบๆ เหนือ… เสียงดนตรีที่เกิดขึ้นในรถคือเพลงจากการ์ตูนดอร่า “ชึดชึดๆๆ ชึด ดอร่า ชึดๆๆ ชึดๆ ด๊อรา” หรือเทเลทับบี้ส์ “ทิ้งกี้วิงกี่ ดิ๊บสี่ ล้าหล่า โพ (โพ่!)” และล่าสุดคือโพโรโร่ (อันนี้ยังจำไม่ได้ มันร้องเร็ว กลัวพิมพ์เนื้อผิด) ตลอดการเดินทาง สลับกับเพลงเด็กอนุบาลที่วนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่กับสิงสาราสัตว์
ไม่ใช่แค่ขับรถ แต่ทุกเช้าที่ตื่นนอน ก็มาละ ปลุกลูกด้วย “แมงมุมลายตัวนั้น ฉันเห็นมันซมซานเหลือทน” (เปิดจากยูทูบ) อาบน้ำก็ “ก้าบก้าบก้าบ เป็ดอาบน้ำในคลอง” ยิ่งตอนขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียนนี่ยิ่งหนักใหญ่เลย ซีดีใหม่ที่ซื้อมามันมี 21 เพลง อลังๆ ทั้งนั้น ก็เปิดวนรอระหว่างรถติด ส่วนตอนบ่าย เวลาไปรับลูกก็จะเปิดการ์ตูน ตามกติกาที่กำหนดกันเอาไว้ว่าตอนเช้าฟังเพลง ตอนกลับจากโรงเรียนให้ดูการ์ตูนได้ ส่วนที่บ้านนี่ วันไหนยุ่งๆ (แต่ไม่บ่อย) ก็จะเปิด Nursery Rhymes ในยูทูบให้ดูแล้วร้องตาม (แนะนำช่อง Mother Goose Club, LittleBabyBum ® และ Super Simple Songs ส่วนถ้าเมื่อก่อนที่ยังขวบกว่าๆ แนะนำช่องนี้ของญี่ปุ่น 東京ハイジ TOKIOHEIDI)
ฉะนั้นเวลาเปิดเพลงเด็กทีนึง คุณลูกก็ร้องตามเสียงใสแน้ว โยกหัวโยกตัวทำท่าทำทาง ส่วนอีพ่อก็แปลเป็นไทยให้แบบงูปลางูปลา ถ้าฟังตอนขับรถก็จะเคาะเป็นจังหวะกันทั้งพ่อทั้งลูก
จนมันติดน่ะครับ ทุกวันนี้เหมือนโดนค่ายเพลงโปรโมตกรอกหูเลย ไม่ว่าจะอาบน้ำสระผม นั่งทำงาน หรือกินข้าวอยู่ดีๆ เพลงพวกนี้ก็จะวนมาหลอนในหัวอยู่ทั้งวัน ทุกวัน
ผลคือนึกไม่ออกแล้วว่าเพลงแบบที่ผู้ใหญ่เขาฟังกันแล้วมันติดหูครั้งล่าสุดของเราคือเพลงอะไร นี่พยายามนึกถึงเพลงหลังๆ ก็มีแต่แสตมป์ / สิงโตนำโชค / โรส / ละอองฟอง / กรูฟไรเดอร์ส / แพรว / ลุลา / 25 Hours / Slot Machine (ตอนนี้นึกออกเท่านี้) หรือแผ่นรวมฮิตเพลงหากินซ้ำซากของค่ายใหญ่ที่พอหาซื้อแผ่นได้ตามร้านเครื่องเขียนและเซเว่น ซึ่งท้งหมดที่ว่ามานี้ถ้าสำหรับคนที่ฟังเพลงและติดตามศิลปินก็จะพบว่ามันเก่ามากละนะ
นอกนั้นที่ออกมาใหม่ๆ คือบอดใบ้ ไม่รู้จักเลย อย่าง POLYCAT หรือ Cocktail หรืออะไรเทือกนี้นี่สารภาพว่าเคยฟังอย่างละครั้งสองครั้ง ชอบ แต่ไม่สนิท คงเพราะยังเปิดกล่อมหูไม่พอ เลยแทบไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันอีกเลยหลังจากนั้น
ส่วนที่น่าสังเกตก็คือ เวลาเจอสาวตึงในยูทูบเขามาร้องคัฟเวอร์กันผ่านหูผ่านตาเวลารูดไทม์ไลน์ ก็จะสงสัยว่านี่มันเพลงในยุคเดียวกะที่เราห่างหายไปเลยนี่หว่า
จึงสงสัยอยู่เหมือนกันว่าอย่างปี 2558 ที่ผ่านมาครึ่งปีแล้วเนี่ย มันมีเพลงที่ดังไปทุกหย่อมหญ้าโดยศิลปินไม่จำเป็นต้องดัง แบบที่ชอบระบาดมาเป็นระยะๆ ในทุกปีบ้างไหม ถ้านึกไม่ออกก็ยกตัวอย่างเพลงสมัยก่อนๆ อย่าง แอบเหงา / แค่บอกว่ารักเธอ / อะไรอีกวะ เก่ามากๆ หน่อยก็ ขอใจเธอคืน / มุม / รักเดียว / แน่นอก (ของ 3-2-1 ที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นของใบเตยมากกว่า) / ขอใจเธอแลกเบอร์โทร / คันหู / กังนัมสไตล์ / กาโว (นับไหม ไม่นับละกัน ถ้าไม่ได้ดูเฟ็ดเฟ่ก็คงไม่รู้จัก 5555)
ก็พบว่า นอกจากเพลงคืนความสุขฯ แล้ว ปีนี้แม่งไม่มีเพลงไหนที่ดังถล่มทลายโดยบังเอิญขนาดที่แม้แต่คนไม่ฟังเพลงก็ต้องฮัมตามได้เลยแฮะ
เลยสงสัยว่ามันเป็นที่ตัวเราเอง ที่กะลาแคบลงเพราะห่างจากการฟังเพลงอยู่คนเดียว หรือว่าวงการเพลงมันแห้งแล้งลงจริงๆ
ภาวนาขอให้เป็นเพราะสาเหตุอย่างแรกทีเถอะ
ช่องทางที่เคยติดตามทุกวันอย่างแฟตเรดิโอก็หายไปแล้ว (มาเป็นแคตก็ไม่ค่อยสะดวก) หมุนไปคลื่นอื่นอย่างชิลล์เอฟเอ็ม หรือคูลอะไรสักอย่างก็โอเค แต่ก็ไม่ค่อยได้ฟังในรถด้วยเหตุผลข้างต้น เพราะเอาเข้าจริงเวลาว่างขับรถไปรับลูกมันเป็นช่วงรายการ อ.วีระ ด่าท่านผู้ฟังพอดี ก็เลยฟัง (เฮ้ยไม่ได้เพิ่งมาเป็น นี่เป็นมาตั้งนานแล้ว ถ้ามีแฟตกะวีระ ผมเลือกวีระ เพราะฮากว่า) จนล่าสุดเพิ่งเห็นพี่เลย์แชร์เพลงใหม่ล่าสุดของนักร้องชื่ออะตอมโผล่มา เฮ้ย เพราะอ้ะ ดีอะ นี่เราไม่รู้จักเลยนะ แต่พอกดดูเพลงก่อนหน้าที่ไม่รู้จักและไม่เคยได้ยินเหมือนกัน ก็พบว่ามีคนดูไป 33 ล้านวิวแล้ว!
เออ สบายใจแล้วว่ากะลาเราแคบจริงๆ
การได้บังเอิญเจอเพลงที่ไม่รู้ว่าดังหรือไม่ดัง ที่แน่ๆ คือไม่ได้ถูกโปรโมตมาจากค่ายเพลงหรือคลื่นวิทยุ แต่ฟังแล้วชอบเอง ถูกใจได้ด้วยตัวเองแบบนี้มันดีนะ เมื่อก่อนเป็นบ่อย แต่เดี๋ยวนี้นานๆ จะมีมาที ขนาดเฝ้าหน้าจอโซเชียลวันละหลายๆ ชั่วโมงเลยนะ
จนรู้สึกอยู่หน่อยๆ เหมือนกันว่านี่มันวิกฤตชีวิตช่วงที่พ้นวัยรุ่นมาแล้วรึเปล่าวะ จะเป็นแบบพ่อเราไหมที่หยุดทุกอย่างไว้กับชาตรี อรวี สัจจานนท์ เพลงลูกกรุงสมัย Nick Karaoke และเพลงโฟล์กซองฝรั่งยุคเซเว่นตี้ส์
ถ้าใช่นี่ก็น่ากลัวเลย เพราะเซเว่นตี้ส์ปลายๆ เป็นปีเกิดของพี่ชายคนโต นั่นแปลว่าชีวิตชิลของพ่อก็หมดอายุลงเพียงเท่านั้น
ส่วนผมและเมีย ตอนนี้ทุกๆ วันก็ตกอยู่ในภาวะชุลมุนกับภารกิจจับเด็ก เฮ้ย นี่กูจะซ้ำรอยพ่อรึเปล่าวะเนี่ย แต่เอาเถอะ ตอนนี้สนิทกับแอป MixRadio แล้ว (เจ๋งมาก!) ถึงจะยังวนเวียนอยู่กับเพลงเดิมๆ ที่เคยฟัง ยังไม่ก้าวเข้าสู่พรมแดนใหม่ๆ แต่ก็ถือว่าเริ่มต้นอีกครั้งในยุคสมัยปัจจุบันได้ดี รอให้ลูกสาวคนเล็กเข้าอนุบาลตามพี่มันไปก่อน จะกลับมาสนุกกับการค้นหา
นะ สัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน… (เพลงนี้ก็เลิกฮิตไปแล้วเพราะโปรโมตบ่อยเกิน)