ประสบการณ์การสอบใบขับขี่ของข้าพเจ้า

สอบใบขับขี่ ตอนที่ 1

สอบใบขับขี่ ตอนที่ 1

สอบใบขับขี่ ตอนที่ 1

สอบใบขับขี่ ตอนที่ 1

เรียกว่าเพจโหดสัสนี่เด็กๆ ไปเลยนะครับ

สอบใบขับขี่ ตอนที่ 1

สอบใบขับขี่ ตอนที่ 1

สอบใบขับขี่ ตอนที่ 1

ตัดจบเพียงเท่านี้ครับ เพราะแบต Galaxy Note ทำท่าจะหมด เลยต้องสงวนไว้ วาดต่อไม่ได้ละ :30:
ที่จริงหลังจากนั้นผมก็แวบออกไปเอาที่ชาร์จมาเสียบ แล้วเริ่มวาดต่อจนได้แค่เท่าที่เห็นนั่นแหละ เพราะหลังจากนั้นก็หลับครับ คงเพราะตัวเองบาปหนามากหรือไงไม่รู้ เลยไม่สามารถฟังคำพระท่านสอนรัวๆ นานกว่าชั่วโมงได้ แต่ก็ใช่ว่าจะน่าเบื่อนะครับ เพราะแบบนี้ก็มี


(*บางทีข้อความจากทวิตเตอร์มันจะขึ้นเป็นลิงก์แทน ไม่รู้เป็นปัญหาของระบบบล็อกหรือเปล่า เดี๋ยวค่อยแก้ กดเองไปก่อนเด้อ)

คืออึ้งมากครับ อยากจะจดกลอนของหลวงพ่อไว้ทั้งบทเลย มีข้อความอินดี้ๆ แบบที่เห็นนี่เยอะมาก จนรู้สึกว่าการฟังพระด้นคำกลอนนี่เป็นเรื่องบันเทิงสุดๆ เลยครับ

เออ อันนี้ก็เจ๋ง คือตอนฟังบรรยายจะมีวิดีทัศน์ (ใช้คำนี้แล้วดูราชการดี) เรื่องการระมัดระวังเวลาใช้รถใช้ถนน ซึ่งวิธีการนำเสนอของเขาโคตรน่าสนใจ (พอๆ กะอีป้ายสมองไหลหน้าห้องบรรยายนั่น) เลยครับ ดังนี้

ผมนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่กับโต๊ะ คือในห้องมีคนที่มาเข้าสอบร่วมฟังอยู่ประมาณร้อยคนกว่าๆ ก็มีทั้งร้องเหยด ทั้งทำท่ากระอักกระอ่วน และทั้งบ่นๆ เหมือนกันว่าเฮ้ย นี่มันอะเมซิ่งไทยแลนด์ไปไหม นึกภาพออกเลยว่าตอนราชการเขาทำสัญญาจ้างทีมงานรายการนี้ไปถ่ายทำสารคดีเรื่องจริงผ่านจอแบบนี้ แล้วต้องมีคณะกรรมการตรวจรับ และคอมเมนต์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะต้องออกแนววิสัยทัศน์สุดคัลต์แบบที่เราอยากเข้าไปนั่งฟังในห้องประชุมเลยทีเดียว

ตอนเช้ามีสอบข้อเขียน เขาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ครับ มีโปรแกรมสุ่มข้อสอบ สุ่มคำถามคำตอบจากคลังมา 30 ข้อให้ทำ ถ้าจะผ่านต้องได้ 23 คะแนนขึ้นไป (คงเดาคอนเซปต์โปรแกรมประเภทนี้กันออกใช่มะ) แต่ผมสอบทั้งรถยนต์รถเครื่อง เลยต้องทำ 30+30=60 ข้อ .. ซึ่งพอทำเสร็จก็จะเห็นเฉลยทันที เลยรู้ว่าไอ้ข้อที่ผิดนี่ผิดอย่างน่าหงุดหงิดครับ เพราะคำถามมันถามไม่เคลียร์เลย (ว่าจะเอามาเปิดเผยแต่คิดว่าไม่น่าจะได้ ไปหาอ่านที่อื่นเอาละกันนะ) ส่วนอีกข้อก็ผิดเพราะภาพกราฟิกเข้าข่ายห่วยแตก ดูไม่รู้เรื่องจนอยากจะไปอาสาวาดให้ฟรีๆ เลยนะ .. ก็เข้าใจแหละว่าระบบจัดซื้อจัดจ้าง…… (จบ บ่นซ้ำ) แต่ก็ทำคะแนนได้ 27/30 ซึ่งข้อที่ผิดเพราะไม่รู้จริงๆ ก็คือเรื่องอายุการต่อทะเบียนรถยนต์ ซึ่งไม่มีในบรรยายแหละ

เอาเป็นว่าตัดฉับมาช่วงบ่าย ซึ่งก็เพิ่งรู้ว่าสนามสอบปทุมธานีนี่ปราบเซียนจริงๆ (อันนี้จากเสียงของกองเชียร์ที่อยู่ในสนามสบครับ แกบอกว่าที่ปทุมนี่สอบสี่ครั้งไม่ผ่าน ไปกาญจน์ทีเดียวผ่านสบาย) ..และผมออกตัวไว้ก่อนเลยว่าตัวเองเสียเปรียบพอดู เนื่องจากไม่ได้ขับรถยนต์มานานมาก (วีออสคันปัจจุบันให้แม่ยายไปพักใหญ่แล้ว ทุกวันนี้เดินทางไปทำงานด้วยการขี่แว้นไปต่อรถเอา) เลยต้องขับออกไปหน้าขนส่ง ลองซ้อมจอดเบียดขอบกระทงนากันแป๊บนึงก่อนจะเข้ามาต่อคิวสอบ

ผลคือตอนสอบปฏิบัติรถเครื่อง ผมไม่ได้เอารถไป เพราะทราบว่าลุงยามแกมีบริการให้เช่าขี่ ก็มีสองคัน คือฟีโน่กับแว้นเกียร์ปกติอีกคันที่ผมไม่ได้เลือก (ที่เลือกฟีโน่เพราะเห็นมีพวงมาลัยคล้องอยู่ ก็กะว่าเออ แม่ย่านางคงเฮี้ยนใช้ได้) ค่าเช่า 50 บาทครับ .. ปรากฏว่าสอบตกในด่านที่จะต้องขี่ผ่านไม้กระดานหน้ากว้าง 30 ซ.ม. ยาวประมาณ 25 เมตรได้มั้ง เขาให้เวลาต้อง “ไม่ต่ำกว่า 10 วินาที” นั่นคือขี่ชะลอๆ แต่ห้ามตกกระดานนะ.. ซึ่งแม่งโคตรยากเลยครับ!! ผู้สอบฮันเตอร์หลายสิบคน มีผ่านประมาณสิบคนเท่านั้นเอง

ไอ้คนที่่สอบตกนี่ก็รวมถึงผมด้วยนะ :05: คือมารู้ตัวว่าซวยเอาตอนที่ขึ้นไปนั่งขี่ รถลุงยามแกดันลูกบิดคันเร่งหลวม (นึกออกมะ พอบิดคันเร่งปั๊บ ช่วงแรกจะฟรีเป็นเกียร์ว่างก่อน แต่พอขยับถึงระยะเกียร์ก็พุ่ง! เลย) ซึ่งอีแม่ย่านางคันนี้แหละทำให้ทุกคนที่เช่ารถลุงแก สอบตกกระดานหมดเลย เลี้ยงไข้นี่หว่า!!! ให้คนเช่ารถตกๆ ไปซะ เพื่อจะได้มาสอบซ่อมใหม่!!! .. ฉะนั้นถ้าใครจะมาสอบ ขอให้ซ้อมมือกับรถที่ตัวเองถนัดนะครับ อย่ามาลองผิดลองถูกแบบผม เพราะถ้าเจอรถไม่ดี ก็จบเห่เลย (แน่ล่ะ เราไม่โทษตัวเองอยู่แล้ว เด็กสมัยโพสต์โมเดิร์นก็งี้ครับ)

ส่วนรอบที่เป็นรถยนต์ ผมมั่นใจว่าสอบครั้งแรกต้อง “ไม่ผ่านแน่นอน” จึงไม่ได้กดดันอะไร (แต่ตอนต่อคิวนี่หัวใจเต้นแรงมาก) ..ที่มั่นใจว่าตกแน่เพราะว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องการกะระยะซ้ายครับ ปกติตัวเองก็เป็นพวกจอดไม่ค่อยชิดฟุตปาทอยู่แล้ว เมียบ่นหลายทีแต่ก็นะ คือรถคันนี้เราไม่ได้เป็นคนเริ่มซื้อ แต่เป็นของโบว์ที่ซื้อมาตั้งแต่สมัยเรายังเป็นทหารเกณฑ์อยู่เลย แล้วก็มาช่วยกันผ่อนด้วยกัน ฉะนั้นเวลาขับก็เลยไม่กล้า กลัวเบียด กลัวสารพัด แต่ตอนสอบ ..ด่านแรกที่เขาให้ขับเลี้ยวและตรงเข้าไปจอดชิดฟุตปาท ก็ไม่ผ่านอย่างที่คิดไว้เลย แต่เป็นการไม่ผ่านที่มีค่ายิ่ง เพราะรู้ว่าเราทำได้นี่หว่า! แค่ตอนจอดดันหักล้อหน้าเลี้ยวออกมานิดนึงเพราะคิดว่าพอแล้ว เลยพลาดไปเฉพาะล้อหน้า 2 ซ.ม.ได้ อันนี้โง่เองครับ ยินดีๆ

ส่วนด่านสองด่านสามก็มีถอยจอดเข้าช่อง คล้ายๆ จอดรถขวางๆ ในที่จอดรถตามห้าง และด่านสุดท้ายคือขับตรงไปในซอยยาวๆ แล้วถอยกลับห้ามชนหมุดด้านข้าง ซึ่งอันนี้ไม่ยาก ผ่านฉลุย ใครขับมานานๆ ก็น่าจะทำกันได้อยู่แล้ว (แต่เห็นไม่ผ่านกันเยอะเลย แม่ยายผมมาสอบก่อนหน้านี้สักพักก็ยังไม่ผ่านครับ)

สรุปคือวันนี้พลาด 2 ถ้วยเลย แต่ได้รับความทรงจำที่ทั้งโคตรง่วง โคตรคัลต์ และโคตรตื่นเต้นในวันเดียวกัน ก็นับว่าคุ้มครับ… คุ้มที่ไหนวะ กูง่วงจะตายห่า วงการนี้มันอะไรกันนักนะ!

ส่วนใครที่กำลังจะไปจะสอบใบขับขี่ แล้วอยากเอาให้ให้รวดเดียวผ่านแน่นอนนะครับ พอดีผมสอบเสร็จแล้วเพิ่งหันมาเห็นเคล็ดลับง่ายๆ ที่มีผู้นิยมใช้กันอย่างล้นหลามมานำเสนอด้านล่างนี้ครับ

C360_2012-06-14-15-25-03

ป.ล.
มีเรื่องสงสัยอย่างมาก คือ การสอบภาคปฏิบัตินั้นไม่ใช่ง่ายๆ เลยครับ แล้วคนที่มาสอบก็จำเป็นต้องเชี่ยวชาญในการขับขี่มากๆ ด้วย (เห็นน้องแว้นหลายๆ คนตกไม้กระดานเหมือนกันทั้งที่ดูโชกโชนสุดๆ) ผมเลยสงสัยว่าถ้าไม่ใช่เป็นคนที่ชำนาญอยู่แล้ว ใครมันจะซื้อรถ-เรียนขับรถ-แล้วมาสอบได้เลย? ผมว่ามันยากนะครับเนี่ย (ตูเองประสบการณ์เจ็ดปียังตกเล้ยยยยย)

ป.อ.
ตามกติกาแล้ว การสอบใบขับขี่เนี่ย ถ้าไม่ผ่านด่านไหน ก็มาซ่อมเฉพาะด่านนั้นได้ในอีก 2 วันทำการข้างหน้า ภายใน 90 วันครับ นั่นแปลว่าผมต้องลางานมาสอบอีกครั้งครับ (เผื่อพี่เม่นอ่านเจอ :27: เดี๋ยวจะเขียนใบลากิจอีกทีนะจ๊ะ แผล็บๆ)

ป.ฮ.
อ้อ พรุ่งนี้จะได้มีรถใหม่เป็นของตัวเอง 100% ซะทีครับ พอดีเก็บตังค์กะเมียมานานจนได้มาสด้าสองคันนึง ขอบคุณนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลเพื่อไทย จากใจสลิ่ม.. ที่ปากก็ด่าโครงการนี้มาตลอดครับ เย้!

//เพิ่ม 22 มิ.ย.55
ไปสอบซ่อมปฏิบัติมาครับ คราวนี้พอเข้าใจธรรมชาติของการสอบปั๊บ ผ่านฉลุยหมดเลยแบบง่ายๆ หันไปเห็นมีครูสอนขับรถพาลูกศิษย์มาสอบเพียบเลย คือเก็งปฏิบัติกันมาแล้ว (โห วงการนี้ก็มี) ดังนั้นเราเลยเห็นว่าบนท้องถนนนี่ บางคนที่สอบได้ มีใบขับขี่แล้ว ก็อาจจะขับไม่เก่งก็ได้นะครับ

คอมเมนต์

One thought on “ประสบการณ์การสอบใบขับขี่ของข้าพเจ้า”

Comments are closed.