สารจาก(อดีต)เฟลาธิการ

ตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ลงในบล็อกส่วนตัว ไม่ลงในเว็บหลักละกันนะครับ ใครที่พอจะรู้จักผมอยู่บ้างจะได้นึกภาพออกว่ามันอะไรยังไงบ้าง ส่วนใครที่ไม่รู้ก็ช่างมัน :30:

ที่จริงก็นึกอยู่นานว่าจะเขียนยังไงดี สุดท้ายก็เอาเป็นว่าเขียนไปเรื่อยๆ อย่างเคยละกันนะ

คืองี้ครับ จะขอเล่าเรื่องเว็บเฟลสักหน่อย

ภาพแรกสุดเลย จากเว็บ Fail.in.th ภาพแรกสุดเลยที่ลงเว็บเฟล (สมัยนั้นดูเนิร์ดมาก)

เว็บเฟล (Fail.in.th) เป็นเว็บสนุกๆ ที่ผมสร้างมันขึ้นมาเป็นงานทดลองเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2552 เพื่อนำมาประกอบการบรรยายในงาน WordCamp Bangkok 2009 เพื่ออธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกใช้ปลั๊กอินของ WordPress และตัวอย่างวิธีการกระจายเนื้อหาจากเว็บหลัก ไปสู่เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ แถมยังมีโมเดลลิขสิทธิ์ที่ใช้สัญญาอนุญาตที่ดูแล้วเป็นมิตรกับทุกฝ่าย ถ้าสังเกตให้ดี ตรงท้ายเว็บผมจะเขียนไว้ว่า “ทุกผลงานที่ปรากฏใน FAIL.in.th ใช้สัญญาอนุญาต Creative Commons แสดงที่มา 3.0 ประเทศไทย นั่นแปลว่าคุณสามารถนำผลงานนี้ไปเผยแพร่ต่อได้ แต่ต้องให้เครดิตกันนะจ๊ะ ของ่ายๆ เท่านี้แหละ” นั่นก็เป็นหนึ่งในอุดมการณ์ที่ตั้งใจแน่วแน่ไว้ว่าตัวเองจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเขาเผยแพร่สัญญาอนุญาตชนิดนี้ให้คนเข้าใจ และจริงจังกับการ “ให้เครดิต” กัน

ซึ่งทั้งเรื่องการเผยแพร่เนื้อหาผ่าน Social Media และทั้งเรื่องเครดิตผลงานนั้น ในสมัยปี 2552 ยังถือเป็นเรื่องใหม่มากๆ ในสังคมออนไลน์บ้านเรา (เอาจริงๆ คือสันดานเราแย่มานานอะไรงี้แหละ) พอมาถึง พ.ศ.นี้ ทั้งสองเรื่องก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ใครที่เป็นพวกขี้ก็อป ขี้ขโมย ไม่ให้เครดิตอะไรต่ออะไรก็เริ่มโดนสังคมประณามไปตามสมควร ซึ่งทุกอย่างที่จริงมันก็เป็นไปตามเวลาของมัน และความเข้าใจในวิถีชีวิตแบบออนไลน์ของคนในบ้านเราก็เริ่มจะมีมากขึ้นแล้ว (ขนาดเน วัดดาวยังใช้ Social Cam ท้ายิงกัน เจอเคสนี้ผมแทบกราบ)

ในช่วงแรกๆ เว็บเฟลถูกครหามากมายเลยครับ บางเสียงก็บอกว่าไปก็อปของฝรั่งมา บางคนก็บอกว่าทำไมก็อปแล้วไม่เหมือนวะ บรรยากาศมันไม่ใช่ (กูอยากจะเอาอีสองพวกนี้ไปต่อยกันเองจริงๆ เสร็จแล้วใครชนะผมจะยอมทำตามเลยสัส) หรือแม้แต่สไตล์ของมุกมันไม่ใช่แบบที่เขาคุ้นชินกันจากเฟลของฝรั่ง หรือระบบการส่งผลงานเข้ามาซึ่งดูยุ่งยาก ฯลฯ ผมในฐานะเจ้าของเว็บ (ที่จำไม่ได้ว่าไปเรียกตัวเองว่าเฟลาธิการตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกจะในหน้าหมายเหตุสักอย่างแหละมั้ง) ก็ค่อยๆ ปรับปรุงทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังไปพร้อมๆ กับเฝ้าดูการเจริญเติบโตของเว็บไปอย่างใกล้ชิดบ้าง ห่างๆ บ้าง

ที่จริงมีเรื่องราวมากมายที่ผมอยากบอกอยากเล่าอยากอวดเกี่ยวกับมันนะครับ เอาที่พอนึกได้ตอนนี้ละกัน

มีคนสงสัยเยอะเลยว่าอีโลโก้เป็ดนี่ ทำไมต้องเป็นเป็ดด้วยวะ? ถ้าตอบแบบหล่อๆ คือ “เป็ดมันทำอะไรก็น่ารัก จะพลาดยังไงก็ดูตลก” อะไรงี้ไง แต่ถ้าตอบแบบจริงๆ ก็คือเวลาเราทำอะไรพลาด ก็มักจะอุทานว่า “เย็ดเป็ด” เป็นต้น.. ที่ฮาคือผมนั่งออกแบบทั้งเว็บแล้วเอามายื่นให้เมียดูในคืนก่อนที่จะต้องไปพรีเซนต์ในงานฯ แล้วนั่นแหละ เหลือแค่โลโก้ก็เลยเอาตีนปาดๆ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง จึงได้เป็ดตัวนั้นมา และอยู่มาจนทุกวันนี้ (เออ ทีแรกกะจะมีแค่หัว แต่มันดูไม่เป็ด)

ในช่วงแรกๆ เว็บเฟลนั้นสนุกและสดใหม่ มีอะไรให้เล่นเป็นสีสันมากมายครับ เช่นไปร่วมกะ GTH เขาทำกิจกรรมโปรโมตหนังงี้ หรือเอามารวมเล่มเป็นหนังสือก็มีงี้ และภาระหน้าที่ที่ปรากฏผ่านหน้าเว็บกลายเป็นภาพจำอันใหม่ของผมสำหรับคนที่เพิ่งรู้จักกัน (ก่อนหน้านี้สมมติถ้ารู้จักน่ะนะ จะรู้ว่าไอ้แอนฯ เป็นคนทำฟอนต์ แต่หลังๆ จะมีคนมาเรียกเป็นท่านเฟลาฯ มากกว่า ..แหงล่ะ ทิ้งเว็บฟอนต์ไปนานมากๆ) และอีเฟลาฯ ก็ขยันเขียนขยันพบปะประชาชนเหลือเกิน ฟิตน่ะ พอดีว่างมาก

เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 ปี ผมก็มีโครงการจะรื้อเว็บใหม่เพื่อต่อสู้กับกระแสเฟซบุ๊กที่ทำให้หลายๆ เว็บที่เกิดตามๆ กันมาแม่งทยอยล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว :30: รวมถึงโลโก้เป็ดน้อยอันใหม่ที่คิดมาไว้นานแล้ว ปั้นเป็นทรงไว้ด้วย นี่ๆ

เป็ดเฟลมินิ

แต่ก็ไม่ได้ทำซะที เพราะติดปัญหาใหญ่มากครับ นั่นคือตัวเอง “ไม่มีเวลา” เลยในแต่ละวันครับ เพราะตั้งแต่อยู่ดีๆ ก็โดดกลับเข้ามาสู่วงจรชีวิตมนุษย์เงินเดือน ต้องทำงานประจำแล้ว วันหนึ่งๆ เลยหมดไปกับการเดินทางสุดโหดในกรุงเทพฯ พอกลับถึงบ้านก็ดึกแล้ว นั่งอัปเฟลตุนแล้วล้มตัวลงนอน ทำแบบนี้เป็นกิจวัตรมาโดยตลอด เลยไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย รวมถึงเสาร์อาทิตย์ก็หมดแรงบันดาลใจที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรใหญ่ๆ โบ้มๆ อย่างการรื้อระบบการนำเสนอทั้งหมดของเว็บให้มันดูเนื้อหาได้เยอะและหลากหลายกว่าแบบบล็อกปัจจุบัน ก็เป็นได้แค่ฝัน เพราะเวลาว่างก้อนใหญ่ๆ แบบที่มีคุณภาพนั้นแทบไม่เหลือแล้ว (ส่วนอันนี้ความจริงแบบไม่หล่อ: ถ้ามีเวลาว่างยิบย่อย ผมจะให้ความสำคัญไปกับการอ่านการ์ตูนเป็นลำดับแรก คือถ้าอ่านการ์ตูนจนจบแล้วหมดวัน นั่นถือว่าไม่เสียเปล่าละ)

พอภาระงานบริษัทมันเริ่มกัดกินเนื้อที่ความชิวของชีวิตไป ผมก็มีเวลาให้เว็บเฟลน้อยลงมากๆ เรียกว่าช่วงปีสองปีที่ผ่านมานี่ ในเฟซบุ๊กเพจของเฟลนี่ผมไม่ได้ไปทำอะไรกะมันเลย ย้ำว่าไม่ได้ทำเลย เข้าไปดูก็ไม่ได้เข้า (ผมแทบไม่เล่นเฟซบุ๊ก ถ้าเทียบกะคนทำงานวิชาชีพสายนี้ถือว่าบาปมากนะครับ) กว่าจะมารู้สึกผิดเข้าจริงๆ ก็เป็นยุคที่แทบทุกคนรอบกายคิดว่า “อินเทอร์เน็ตคือเฟซบุ๊ก และฉันต้องหมั่นไปกดไอ้ตุ่มแดงๆ นั่นเพื่อดูว่าโลกไปถึงไหน” กันหมดแล้ว และแม่งถ้ามันมาเร็วกว่านี้สักสามปี กูจะเปิดเป็นเพจไปเลยดีกว่า ง่ายดี ไม่ต้องลงทุนสักบาท (แต่ก็จะไม่ได้อารมณ์บางอย่างที่มันมีในเว็บที่เป็นเว็บจริงๆ ล่ะเนอะ) แต่ก็มีคนกดไลก์กันแสนกว่าๆ นะ กดกันทำไมวะ มาดูเนื้อหาแห้งๆ ที่รันอัตโนมัติมาจากเว็บเนี่ยนะ :05: ในขณะที่ทวิตเตอร์ @failinth นี่ก็มีคนตามแสนนิดๆ เหมือนกัน เอออันนี้ค่อยใช้สื่อสารหน่อย เพราะผมเสพติดทวิตเตอร์น่ะครับ

ทั้งหมดนี้ ผมเลยรู้สึกว่า แม่งไม่ใช่แล้วว่ะ เราสร้างของเล่นชิ้นนึงขึ้นมา แต่ตัวเองดันไม่ได้ดูแลมันเลย วันๆ ก็แค่เปิดเมล นั่งคัดกรองเนื้อหาใส่เว็บไปเรื่อยๆ เป็นงานประจำวันแบบนี้ มันจะดีเหรอวะ มันควรจะใส่ใจ ทำอะไรให้มันครื้นเครงอยู่เสมอเหมือนกับที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ไม่ใช่เหรอวะ

เรารู้สึกผิดมากเลยว่ะ..

อีตอนที่ทำก็ไม่ได้นึกหรอกว่ามันจะมาไกลได้ขนาดนี้ พอมันมาไกลแล้วก็รู้สึกว่าเราอยากหาทางลงเสียที เราอยากวางมือจากการเป็นเฟลาธิการล่ะ

ขนาดการนั่งทำฟอนต์เล่นๆ และเว็บฟอนต์อันเป็นที่รักมาจะสิบปีแล้ว เรายังปล่อยทิ้งไว้ให้หญ้าขึ้นรกชัฎเลยล่ะคิดดู ความชิวและเวลาของชีวิตมันหดหายไปถึงขนาดที่ต้องตั้งเป็นปณิธานปีใหม่ 2556 ไว้เลยว่า ยุทธศาสตร์ปีนี้กูต้องทำตัวให้ว่าง และกลับมาทำฟอนต์เล่นเป็นงานอดิเรกให้ได้!

เรื่องเหลือเชื่อก็คือ อยู่ดีๆ ในช่วงนั้นเอง ก็มีคนติดต่อขอเข้ามา ทั้ง “ขอซื้อและจ้างให้ทำต่อ” และแบบแปลกๆ อย่างการขอ “ร่วมทุน” นั่นแปลว่าเราจะได้มีทีมงานมาช่วยกันทำงานอะไรต่ออะไรให้หนุกหนาน แต่ก็ต้องมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งผมไม่ถนัดและไม่สนุกเอาเสียเลย (ขอไม่พูดรายละเอียดละกันเนอะครับ เกรงใจพี่เขา) เลยปฎิเสธไป เพราะที่จริงแล้วเราอยากได้เวลาในชีวิตคืนมามากกว่า เผื่อเอามาทำอะไรใหม่ๆ ตามฝันของมนุษย์ชิวได้มากขึ้น

สรุปคือเราเราขี้เกียจมาก เราอยากได้เวลาชีวิตคืนมา และไม่อยากเพิ่มงานอีกแล้ว

แล้วอีกุ้งก็เข้ามา

อีกุ้งเป็นใครผมขอไม่บอกเองละกันนะครับ คิดว่าต่อไปถ้ามีโอกาสคุณคงจะได้รู้จักกับเขาด้วยตัวเอง เพราะอีนี่อยู่ดีๆ ก็วิ่งหัวฟูหอบความบ้าระห่ำเข้ามาแนะนำตัว และเสนอไอเดีย และขอรับช่วงเฟลไปดูแลต่อ!

หลังจากพิจารณาหน่วยก้านหัวจดตีนแล้ว อีกุ้งนั้นโหวงเฮ้งมันโอเค เซนส์มันใช้ได้ มันมีเวลาว่างมากๆ และที่สำคัญคือมัน “รู้จักเว็บเฟลดี” ตรงที่พูดคีย์เวิร์ดอันนึงขึ้นมาว่า “เว็บพี่แม่งโคตรเวรี่ไทยเลย” ซึ่งเป็นคำพูดเดียวกะคุณโน้ตอุดมที่กล่าวไว้งี้เหมือนกัน ซึ่งมันคือกลิ่นหลักที่ผมพยายามประคบประคองให้มันได้บรรยากาศนี้ แบบที่ไม่ได้บอกใครเลยนะ ดังนั้นคนที่เห็นและพูดมันออกมาได้ ถือว่ามึงมองทะลวงมาถึงแก่นจริงๆ

ผมตัดสินใจตอบตกลงตามข้อเสนอของมัน แม้จะอดห่วงไม่ได้ว่าหลังจากเราปล่อยมือแล้ว เว็บมันจะเป็นไงต่อวะ มันจะไปกดลบทุกอย่างทิ้งเปล่าวะ (เนื้อหาตอนนี้มีเกือบๆ 7000 โพสต์ละนะ ถ้าลบกูจะฆ่ามึง) ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมา คนที่เข้าเว็บเฟลเป็นประจำอาจจะสังเกตได้ว่า บางทีบางเนื้อหามันจะมึนๆ หรือวิธีตั้งชื่ออาจจะมีหลุดๆ บ้าง หรือเครื่องหมายวรรคตอนดูเกินๆ บ้าง หรืออยู่ดีๆ แม่งเอามุกซ้ำมาลงเฉยเลยอะไรงี้ ก็อยากขออภัยในบางลีลาด้วยนะครับ ความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ผมโทษอีกุ้งและน้องๆ ที่มาช่วยงานกันเป็นคนทำทั้งหมด :30:

ในระยะแรกๆ อาจจะมีผิดมีพลาดบ้าง ก็ถือว่าเป็นการจูนกันครับ ผมเห็นพัฒนาการของ “เฟลาธิการคนใหม่” ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด (คือแรกๆ มันเหี้ยมาก แต่ตอนนี้พัฒนาคุณภาพตัวเองและอัดสปีดผลงานขึ้นมาเยอะละ) จนผมเริ่มรู้สึกไว้วางใจ และปล่อยให้เขาเป็นผู้รับไม้ต่อ เอาเว็บเป็ดเหลืองนี้ไปดูแล และทำให้มันกลับมาครื้นเครงอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นเร็วๆ นี้อาจจะมีอะไรใหม่ๆ มาให้ติดตามกันก็คอยดูเอาเลยนะครับ

และเมื่อสิ้นสุดเสียงพลุในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ผมก็ได้ปล่อยมือจากเว็บเฟลโดยสมบูรณ์ ที่ผ่านมาเว็บเฟลนั้นอาจจะฮามากบ้างน้อยบ้าง กริบบ้าง ดราม่าบ้าง แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยกันสร้างเสียงหัวเราะร่วมกันมาโดยตลอดนะครับ ต่อจากนี้ไปคอยดูฝีมือของเฟลาธิการคนใหม่ ว่าจะ WIN หรือ FAIL แค่ไหน ก็คอยดูกันต่อไปนะ

ขอบคุณจริงๆ ครับ

แอน – @iannnnn
(อดีต)เฟลาธิการ
2009-2012

คอมเมนต์

One thought on “สารจาก(อดีต)เฟลาธิการ”

Comments are closed.