เวลาใครถามผมว่าจะให้ลง “ตำแหน่ง” ว่าอะไร ผมก็จะงงๆ ไม่รู้จะตอบว่าไงดีครับ
คือไม่ค่อยจะรู้สึกอินเท่าไหร่ว่าคนเราต้องเรียกกันด้วยชื่อ และตามด้วยหน้าที่การงาน
อาจจะเป็นเพราะสังคมเราชินกับการที่ถามกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” ล่ะมั้ง
.
..ซึ่งไอ้ที่เกริ่นมาข้างบนนั่นไม่เกี่ยวกับเนื้อหาของบล็อกวันนี้เลยครับ
.
คือก่อนที่ผมจะหายจากการเขียนบล็อกมาปีนึงเนี่ย เรื่องอาชีพการงานมันก็เปลี่ยนไปตามเวลา
เอาไว้จะมาเล่าให้อ่านอีกทีว่าตัวเองทำ “ตำแหน่ง” อะไรอยู่บ้าง
แต่คราวนี้ขอโหมดนี้หน่อยนะครับ.. ผมเป็นตากล้องจำเป็นให้กับร้านเสื้อของคุณแม่ยายจ้ะ
แม่ยายผมชื่อเพราะครับ ชื่อนลินฟ้า
ป้านลินฟ้าแกชอบตัดเสื้อ แต่ก็ทำอาชีพแม่ค้าในตลาดมาหลายสิบปี
จนวันหนึ่งคุณลูกสาว (เมียผมเอง) บอกว่า แม่เลิกขายของเหอะ เหนื่อย ..แก่แล้ว
พอดีผมกะโบว์ทำร้านสกรีนเสื้อยืดอยู่ด้วย เลยชวนแม่มาเข้าวงการซะเลย!
ก็เลยจัดการสร้างร้านตัดเดรสแบบผู้หญิงๆ ขึ้นมา ก็ตัดเย็บกันด้วยจักรที่บ้านนั่นแหละ
แล้วก็เอามาขายที่ LadySquare เดือนสองเดือนครั้ง แล้วก็รับตัดตามออเดอร์แบบออนไลน์ซะด้วย
โดยป้านลินฟ้าเปลี่ยนจากแม่ค้าตลาดสดที่ไม่เคยรู้จักคอมพิวเตอร์เลย จนตอนนี้เล่นทั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก
จึงเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับใครจะเอาเทคโนโลยีเหล่านี้ไปสอนผู้ปกครองที่เปิดใจนะครับ
(อันนี้ต้องขออวดหน่อย เพราะแม่ยายผมฝีมือตัดเย็บเสื้อแกผ้าเจ๋งจริงๆ เคยเปิดสอนด้วยแหละ)
.
..แต่ไอ้ที่เกริ่นมาข้างบนนั่นไม่เกี่ยวกับเนื้อหาของบล็อกวันนี้เลยครับ
.
ประเด็นก็คือผมเลยกลายเป็นตากล้องจำเป็นที่จะต้องมาถ่ายแบบให้กับร้านนลินฟ้า
โดยมีนางแบบประจำก็คือหนูอร (จริงๆ ก็แก่แล้วนะ แต่หน้าเด็กไง เลยเรียกหนูมาตลอด )
ส่วนมากก็ใช้ฉากที่บ้านถ่ายง่ายๆ ดิบๆ ไม่ได้เซ็ต เพราะถ่ายเสร็จเราจะออกไปหาอะไรกินกัน
เลยแซวกันอยู่หลายครั้งว่าสาเหตุที่มารวมพลถ่ายแบบชุดกันแต่ละทีคือมาเพื่อกินกันมากกว่า
แล้ววันนี้ก็มาถึงคิวถ่ายอีกครั้ง แต่คราวนี้เดินทางไปถ่ายที่คอนโดของพี่ที่สนิทสนมกัน
เราเรียกพี่ติ๊กพี่เจน ผู้เป็นสามีภรรยาที่เคารพรักคู่นี้ว่า.. สองผัวเมียเมืองทอง (ผู้มีตู้เย็นอันอุดมสมบูรณ์)
.
..ซึ่งไอ้ที่ว่ามาข้างบนนั่น ก็ยังไม่เกี่ยวกับเนื้อหาของบล็อกวันนี้เลยครับ
.
สาระก็คือ พอดีถ่ายชุดเสร็จแล้วเลยเห็นว่าชุดสุดท้ายที่เป็นเดรสขาวยาวกรอมเท้าเนี่ย น่ากลัวดี
น่าเอามาถ่ายเล่นให้เหมือนผีสาวดูนะ คงหลอนดี (เกิดแม่ยายขายไม่ออกตูจะโดนด่าไหมเนี่ย)
เลยถ่ายมาแบบนี้ครับ (ต้นฉบับอยู่ที่ Flickr นะ)
แล้วก็ลองเทำเป็นสต็อปโมชันดู (ภาพจะขึ้นไหมหว่า)
.
เท่านั้นยังเรียกว่าจริงจังกับเรื่องไร้สาระได้ไม่พอ..
ต้องนี่ ปิดท้ายด้วยการเอามาใส่เสียงเพิ่มอีกหน่อย ทำเป็นคลิปผีซะเลย
เสียดายที่รีบทำไปหน่อยเพราะจะทำงานต่อ เลยพอเรนเดอร์ออกมา ภาพตอนท้ายๆ มันดีเลย์เกินเสียงฉิบ
แต่ช่างมัน ขี้เกียจแก้ เราอดทนไม่พอ (เอ๊ะตูนี่มาแนวนี้ตลอดเลยนะ)
จึงได้ออกมาเป็นคลิปนี้ครับ
จบแล้วครับ สาระของบล็อกวันนี้
.
ป.ล.
ภาวนาให้แม่ยายผมขายชุดนี้ออกนะครับ