จงบริหารเวลา

เป็นโจทย์ของช่วงเวลาหลายๆ เดือนถัดจากนี้ไปครับ

ลูกก็จะงอกมาอีกหน่อนึงในอีกเดือนนึงข้างหน้านี้ แน่นอนว่าเมียก็ต้องย้ายไปกกลูก งานค้างๆ คาๆ ก็ยังมีให้สะสางไม่รู้จักหมด ช่วงเวลาพักผ่อนที่ตั้งใจจะพักให้เป็นเรื่องเป็นราวอย่างการอ่านหนังสือก็ไม่ค่อยคืบหน้า เหล่านิตยสารเอย การ์ตูนเอย ก็กองไว้เป็นภูเขารอให้เราไปอ่าน ที่สำคัญคือตั้งใจจะเขียนหนังสือสักเล่ม (กล่าวไว้ในตอนที่แล้วจึ๋งนึง) สรุปสุดท้ายก็พอกหางหมูมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกที

แล้วที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปกับอะไรวะ

ที่จริงก็พอจะเดาได้ละ ถ้าตัดเน็ตปั๊บ อ้าวมีสามจีอีก ตัดสามจี (เสือกมีสี่จีอีก) ปิดทวิตเตอร์ กดล้างฟีดข่างรกสมองที่ตุนไว้ ฯลฯ เราน่าจะมีเวลาว่างคุณภาพๆ ไว้สะสางสิ่งต่างๆ ในย่อหน้าข้างบนให้ลุล่วงสินะ

ก็พูดแบบนี้ทุกที เวลาคุณภาพในโลกแห่งความจริงและเฉื่อยชาเหลวเป๋วของช้าพเจ้านั้นแม่งเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นแหละ ป้าล้านเคยบอกว่าคนที่ทำงานได้ในทุกสถานการณ์ นั่นแหละมืออาชีพของจริง ไม่ต้องมาอ้างเลย พออ่านประโยคนั้นเราก็ฮึกเหิมขึ้นมาได้หน่อยนึง..

ประมาณ 10 นาที แล้วก็มาเปิดไทม์ไลน์ เปิดฟีด นั่งอ่านอะไรเรื่อยเปื่อยต่อ

บัดซบเมทะนี

ป.ล.
ทีแรกกะว่าจะไปสำนักพิมพ์เพื่อคุยกับเหล่า บ.ก.ในวันพรุ่งนี้เกี่ยวกับหนังสือเล่มใหม่ ถือว่าเอาฤกษ์เอาชัยและบวงสรวงตัวเอง จุดพลุปั๊มพลังในการสร้างงานขึ้นมาสักหน่อย (กะว่าถ้าเริ่มปั๊บ มันจะมีข้ออ้างให้ตั้งใจเขียนเป็นกิจวัตรจนได้ไง) แล้วจะทยอยมาเล่าในนี้เรื่อยๆ แต่พอติดต่อนัดหมายปั๊บ ไม่มีใครว่างอยู่สำนักพิมพ์เลยจ้า อนาคตสดใส บายจ้า

คอมเมนต์