เรื่องมันเป็นยังงี้ครับ เมื่อวานนี้ไปเยี่ยมญาติของเมียที่โรงพยาบาลรามาฯ พอเสร็จแล้วโบว์ก็บอกว่า “เดี๋ยวกลับบ้านก่อนเองก็ได้ ให้เตงไปงานคอมมาร์ตละกัน”
ชีวิตเปลี่ยนเลยครับพี่น้อง
ผมก็เลยนั่งรถไฟฟ้าไปงานคอมมาร์ตที่ศูนย์สิริกิติ์ แบบที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก่อนหน้านี้เลยสักนิด แม้แต่แบตมือถือก็เหลือไม่ถึงครึ่ง (ถ้าเป็นไอโฟนนี่ถือว่าวิกฤตแล้ว แต่นี่โน้ตสามครับ รอด #อวย) ผมโดดมาทำภารกิจนี้ เพื่อมุ่งหน้าไปซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ให้เมีย!
ตัดภาพย้อนกลับไปในอดีต โบว์มักจะบ่นอยู่ตลอดเวลาว่า “แมคบุ๊กเตงใช้ยากว่ะ” ซึ่งก็สมควรนะครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นคอมหรือมือถือของผมเนี่ย เป็นอุปกรณ์ที่ผ่านการปรับแต่งเพื่อความถนัดส่วนตัว อย่างที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้คนอื่นที่มายืมเล่นอย่างเด็ดขาด ใครที่มีนิสัยแบบนี้เหมือนกันก็คงนึกออกใช่ไหมครับ ที่พอมีใครมาใช้ก็จะถามระคนบ่นตลอด ว่าไอ้นั่นอยู่ไหน ไอ้นี่ทำไง ทำไมไม่เหมือนเครื่องชาวบ้านวะ นั่นคงเพราะนิสัยรำคาญความ default ของมันที่โคตรไม่ถูกใจเลย อาการนี้เป็นเหมือนกันหมดโดยเฉพาะกับอุปกรณ์พกพาทั้งแอปเปิลทั้งซัมซุง
เนื่องจาก default มันรองมือรองตีนได้ดีไม่พอ ดังนั้นก็เลยต้องเที่ยวไปหาตัวอื่นที่มันถนัดมือกว่ามาลง ถ้าเปรียบเป็นก๋วยเตี๋ยวก็คงใส่พริกใส่น้ำตาลจนแม่ค้าค้อนขวับ
นี่คงเป็นนิสัยของคนที่โตมากับการซื้อคอมประกอบเอง เอาลงวินโดวส์(เถื่อน)ให้ญาติมิตรบ่อยๆ ตั้งแต่โบราณล่ะมั้ง? (เออ เอาจริงๆ ตั้งกะสมัยยังเป็นดอสแน่ะ)
จนวันหนึ่งเลิกใช้วินโดวส์ หันไปใช้แมคเต็มตัวทั้งเครื่องตั้งโต๊ะและเครื่องฝาพับ ก็ยังเป็นผู้ใช้ที่ศาสดารังเกียจ เพราะไปลงนั่นเสริมนี่แบบที่ดูจะเป็นยี่ห้อมะม่วงมันมากกว่าแอปเปิลแคลิฟอร์เนีย
เหยาะเหตุนี้เอง เมียข้าพเจ้าจึงบ่นฉิบหาย จนวันหนึ่งก็มาถึงจุดพีก เมื่อโบว์ประกาศกร้าวขึ้นมาว่า
“งั้นซื้อโน้ตบุ๊กใหม่เลยละกัน แยกกันใช้ จะได้ไม่ต้องคอยบ่น”
โป๊งงง ตัดภาพกลับมาคอมมาร์ตเลยครับ บล็อกจะได้ไม่ยาว แค่นี้แม่งก็ไม่เหลือคนอ่านอยู่แล้ว
ผมมางานคอมมาร์ตครั้งล่าสุดคือหลายปีก่อน รู้สึกจะมาแบบงงๆ คล้ายๆ แบบนี้แหละ แต่ก็ตั้งใจจะซื้อของอยู่แล้ว (จำไม่ได้ว่าซื้ออะไร) ก็เลยไม่เสียเที่ยว
ส่วนโจทย์คราวนี้ชัดเจน คือจงซื้อโน้ตบุ๊กใหม่ให้เมีย โดยกำหนดคุณสมบัติดังนี้
• ราคาไม่เกินสองหมื่น เกินบาทเดียวก็ไม่เอา
• ขอเครื่องสวยๆ สีชมพูได้ยิ่งดี
หลังจากเดินดูทั้งงานก็พบว่า ตลาดโน้ตบุ๊กโคตรหดตัวเลยครับ จำได้ว่ามาคราวก่อนยังทึ่งอยู่เลยว่าเดี๋ยวนี้คนเริ่มซื้อโน้ตบุ๊กกันมากกว่าพีซีแล้ว ไอ้เราตอนนั้นยังใช้คอมประกอบเครื่องเท่าควายอยู่เลย แต่นี่คลื่นลูกใหม่อย่างพวกมือถือและแท็บเล็ต ได้เข้ามากลืนกินงานคอมมาร์ตจนอย่าว่าแต่คอมใหญ่เลย ขนาดโน้ตบุ๊กเองที่เคยเห็นมีตัวเลือกมากมาย ก็เหลือแค่ไม่กี่สำนัก ความหลากหลายของดีไซน์ตัวเครื่องสนุกๆ ก็หดหายไป ไปบูมในส่วนอุปกรณ์พกพาแทน จนแทบจะเป็นโมบายเอ็กซ์โปอยู่แล้วเนี่ย
สุดท้ายหลังจากหลงไปซื้อเก้าอี้นวดมา (ถ่ายรูปพริตตี้ทวีตไว้ด้วย (เขียนบล็อกในมือถือเลยแนบลิงก์ไม่ถนัด (เมียเห็นแล้ว (โอเค ยังรอด)))) ข้าพเจ้าก็เลือกคอมฝาพับมาได้สำเร็จเป็นจำนวน 1 ea
มันคือ Lenovo Yoga 11 อะไรสักอย่างจำไม่ได้ รหัสตัวเลขจำยากยังกะเบอร์โทร ราคาป้าย 24,990 แต่ซื้อจริง 22,490 บาท ที่ซุ้ม IT City (ที่จริงทุกร้านมันก็บอกราคาจริงถูกกว่าป้ายทั้งนั้นแหละครับ แหม ทำเป็นกระซิบบอกว่านี่ลดพิเศษ ตูก็ถามอ่อยให้กระซิบงี้ทุกร้านเหมือนกัน)
สรุปว่าตั้งสรรพคุณมายังงั้นเอง พอเจอเครื่องนี้มันเบาดี สวยด้วย จอสัมผัสอีก แถมยังพับตีลังกาได้ด้วย เป็นอันได้เสียครับ
แวะชมไอทีซิตี้นิดนึง ระบบรอสินค้าในงานของเขาสนุกดี มีไอติมแจกคนนั่งรอด้วย โดยคนตักไอติมเป็นพริตตี้ใส่เสื้อบอลแบบสั้นเห็นสะดือ แล้วก็ก้มๆ เงยๆ ตลอดเวลา ประเสริฐจนอยากส่งสติกเกอร์ไลน์ให้
พอถึงบ้านปั๊บ สามทุ่ม เมียกำลังจะหอบลูกขึ้นไปนอนพอดี เลยรีบแกะกล่องหยิบสินค้ามาอวดเจ้าของซะก่อน โบว์ทำท่าทางถูกใจ ก็โอเค มิสชันคอมพลีต ไปนอนได้ ที่เหลือเดี๋ยวเราจัดการต่อเอง
ใครมันจะไปรู้ว่าไอ้ “ที่เหลือ” ที่ว่านี่ แม่งคือทำให้ผมต้องอยู่ยาวถึงตีห้า.. (นี่เพิ่งเข้าเรื่องประเด็นของบล็อกตอนนี้)
ประเด็นก็คือผมเคยใช้วินโดวส์ตัวล่าสุดแค่เวอร์ชันเจ็ดครับ (มีลิขสิทธิ์ตัวท็อปด้วยนะ) ซึ่งก็คิดว่ามันดีอยู่แล้ว เลยไม่ได้คิดจะจ่ายตังค์อัปเกรดเป็นแปดแต่อย่างใด แถมยังไม่ชอบ 8 ที่มันออกแบบชุดสีของอินเทอร์เฟซแบบใหม่ได้แก่หง่อมไปหน่อย (เหตุผลเท่านี้ก็เพียงพอปะ)
การมานั่งงมตั้งค่านั่นนี่เอาป่านนี้ เลยช้ากว่าชาวบ้านเขาประมาณนามที่เพิ่งดูวอล์กกิ้งเด๊ดซีซั่นแรกจบแล้วหาคนคุยไม่รู้เรื่อง (ถามใครก็เสือกสปอยล์กูอีก)
แล้วคือไอ้ที่มันขายพร้อมมากับเครื่อง (โดยอ้างว่าแถม) เนี่ยมันเป็นวินโดวส์แปดจุดถ้วนไงครับ ทีแรกก็ไม่รู้ เพราะใช้ไม่เป็นด้วยแหละ เลยกว่าจะงมหาวิธีเปลี่ยนเป็น 8.1 ได้ก็ครึ่งคืน คือพี่แกไม่ยอมให้อัปเกรด ถ้ายังไม่แก้กรรมทุกอย่างให้จบสิ้น นั่นคือ “อัปเดตทุกอย่างในวินโดวส์(เดิม)เสียก่อน”
ไอ้ผมก็งมๆ กูเกิลๆ ยูทูบๆ หาวิธีจนรู้ว่าอ๋อ ไอ้ที่เรากดแล้วนั่งรอเม็ดแมงลักมันขยับเด้งๆ นี่คือปกตินะ มึงรอไปนะ กูไม่บอกความคืบหน้าใดๆ นอกจากข้อความว่ากำลังโหลดนะ
คือถ้าเป็นยุคก่อนมันจะบอกหมดไงครับ มากี่บิตกี่ไบต์ เหลืออีกกี่นาที ต้มมาม่าได้กี่ถ้วย มันบอกหมด แต่ยุคแห่งมินิมัลนี่มีแค่เม็ดแมงลักเด้งๆ แหม คนกรุงเทพฯ สมัยนี้มันใจดำจริงๆ
หลังจากรอไปนานเป็นชั่วโมง หันไปดูจออีกที อ้าว มันดันบอกว่าไอ้ที่อัปเดตตะกี้น่ะ มีบางอย่างผิดพลาด (ไม่บอกด้วยนะว่าผิดอะไร) กรุณากดโอเค อ้ะๆ แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเรา Roll back กลับไปให้เหมือนเดิม แป๊บนะ
แป๊บพ่อง
เลยเริ่มทั้งกระบวนการใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้ผมมีประสบการณ์ เลยนั่งโซเชียลไปพลาง ทำงานไปอีกพลาง (ให้ทายว่าฝั่งไหนเยอะกว่ากัน)
ไม่รู้บอลคืนนี้ใครต่อยกับใคร แต่ทีวีที่บ้านดาวเทียมเจ๊ง ไม่ได้ต่อเสาอากาศ คือเอาไว้ดูยูทูบอย่างเดียว ก็เลยไม่ได้ดูบอลฆ่าเวลา การที่วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันและต้องนั่งดูอีแมงลักพูดน้อยและพร้อมจะหักหลังกูอยู่ทุกเมื่อที่ลืมหันไปดูจอนานๆ นี่มันไม่ใช่เรื่องสนุกนัก
ผมเลยแก้เกมด้วยการติดฟิล์มกันรอย!!!
คือที่ซื้อมามันแถมฟิล์มมาแผ่นนึงครับ แต่ไม่ติดให้นะ ทีแรกจะเอาไปจ้างซุ้มระบบติดฟิล์มในงานให้เขาติดให้ แต่ดูคิวแล้วไม่สู้ดีกว่า เคยลองติดมือถือเมียมาแล้วทีนึงก็พบว่ายากสัสๆ จนต้องแกะทิ้งทั้งแผ่นเพราะมีแต่ฝุ่นและฟองอากาศ
ยังนึกอยู่เลยว่าคนที่ทำอาชีพติดฟิล์มนี่ พี่โคตรเทพเลยนะ มือพี่ต้องนิ่ง ใจกรรมก็ต้องนิ่ง หายใจเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ อุปกรณ์ทุกส่วนของพี่ต้องสะอาดปลอดเชื้อ ปลอดกระทั่งเม็ดฝุ่นขนาดเล็กกว่าตาเห็น หรือถ้าเผอิญมีฝุ่นหลุดเข้าไปจริงๆ ก็มีวิชาเทวดาที่ถ่ายทอดกันมาในวงการ คือการเอาเทปกาวจิ้มๆๆ อ้าว สะอาดแล้ว ไล่ลมๆๆ โป๊ะ เรียบร้อย จ่ายเงิน เฮ้ย!
หันกลับมาดูตัวเอง สภาพย่ำแย่สุดขีด นี่มีทั้งฝุ่นทั้งฟอง สภาพหน้าจอตอนนี้คือบัดซบมาก ผิวคอมเมียผมตะปุ่มตะป่ำดั่งคางคกสาวแรกรุ่น นี่ขนาดนั่งบรรจงจับเครื่องมาหงาย ควบคุมสภาพห้องแล็บให้ปลอดฝุ่น พยายามหายใจเบาๆ แบบร้านติดฟิล์มละนะ แล้วแปะแผ่นใสตาม instruction ที่ดูง่ายจนใจชื้น แต่ชีวิตจริงไม่ง่ายเลยครับพี่ตูน ตอนนี้สิวกรังเลยครับ
กว่าจะค่อยๆ กำจัดฝุ่นและฟองออกจากจอคอมไปได้ การอัปเดตวินโดวส์แปดรุ่นดั้งเดิมก็เสร็จพอดี
หันไปดูนาฬิกาอีกที ตีสาม
อีเหี้ย เวลาผีออกละไหมนี่
ผมตรวจเช็กสภาพหน้าจอภายนอกอีกครั้งก่อนจะเก็บเทปกาวนิตโต้ บัดนี้ดูเจ้ายังไงก็เหมือนคอมสงครามโลก ผ่านศึกมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ก็นะ ข้าทำด้วยใจ งานหัตถกรรมมันมีเสน่ห์ตรงความไม่เนี้ยบนี่แหละ #ปลอบใจตัวเองรัวๆ
ทันใดนั้นเองก็นึกได้ว่านี่มันยังเป็นวินโดวส์แปดถ้วนอยู่นี่หว่า นี่เราต้องรออีกนานเท่าไหร่กันจึงจะได้เป็น 8.1 อันแสนทันสมัยไฮโซน่าโอ้อวดแบบชาวบ้านเขา
เอาจริงคือไม่เคยเห็นวินโดวส์ 8.1 ของจริงหรอกครับ รู้แค่ว่าไอ้เจ้า 8.0 ส้นตีนนี่มันให้ประสบการณ์การใช้งานที่บัดซบระยำหำหมามาก ทำไอ้นั่นไอ้นี่ไม่ได้ดั่งใจคิดสักอย่าง (ไมโครซอฟท์มึงจ้างเด็กฝึกงานมาดูแล UX รึไงวะ) จนต้องรีบอัปเกรดหรือหาวิธีการที่ทำให้เมียตื่นมาตอนเช้าแล้วลองใช้งานดูปั๊บละไม่ถุยน้ำลายใส่จอ (ทำไมบ้านนี้สถุลจังคะแม่)
ปรากฏว่าบทจะง่ายก็ง่ายครับ กดอัปเกรด จิ้มโอเคทีสองที เห็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์(!!!!!!) แล้วก็สบายใจ ไปขี้ อาบน้ำ และเล่นมือถือรอได้เลย
พักใหญ่ต่อมา ก็เสร็จครับ เปิดเครื่องมา ชะแว้งงง เฮ้ย จับๆ ลากๆ ปรับนั่นขยับนี่ได้ดีกว่าเก่ามาก ดีใจครับ ความรู้สึกเกลียดชังทั้งปวงที่มีมา พลันมลายหายไปทันที เหมือนดั่งได้ดูรายการคืนความสุขให้กับประเทศไทยติดต่อกันทั้งวัน คือมันดีจริงๆ นะครับ ถึงจะเจอความดีนี้ช้าไปกว่าชาวบ้านเขา แต่ก็ถือว่าตอนนี้ใช้วินโดวส์แปดเป็นแล้ว และพบว่าแม้ยังจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ไม่สมบูรณ์เต็มร้อยเท่าไหร่ แต่พัฒนาการหลายอย่างของมันถือว่าดีมากๆ โดยเฉพาะกับการรองรับนิ้วมือสัมผัสเนี่ย เจ๋งมาก รู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่ซื้ออีส้มนี่มา แถมยังเกินงบด้วย แต่ก็ยังถูกกว่าเอาเงินไปซื้อแมคบุ๊กแอร์เยอะะะะะมากกกกกก
เรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า การไปอยู่ในโลกของแอปเปิลซะนานจนลืมไปว่าฝั่งวินโดวส์เองก็เดินทางมาไกลอย่างเปี่ยมประสบการณ์ และมีทางออกที่น่าสนใจในยุคหลังพีซีนั้น ถือว่าพลาดซะแล้วมึง แต่ทำไงได้ล่ะ จ่ายค่าโปรแกรมฝั่งแมคไปหลายบาทแล้ว 囧
เหตุผลเดียวกับคนที่ใช้ไอโฟนและด่าแอนดรอยด์ว่ากากมาตั้งแต่สมัยไหน ว่าพี่ครับ พี่ลองจับรุ่นใหม่ๆ (เอาที่ราคาน้องๆ ไอโฟนก็ได้) ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ลองเล่นดูซะ ลองดูความเจ๋งในนวัตกรรมนอกกะลาผลไม้ดูบ้าง แล้วจะเสียดาย ที่ดันถลำตัว ซื้อแอปไปเยอะจนไม่กล้าเปลี่ยนค่าย เยี่ยงข้าพเจ้าที่ใช้แมคเอย #ทำไมแซะล่ะ
ป.ล.
ตายตาหลับเลยครับ จะไม่หลับได้ไง แม่งตีห้าแล้ว ง่วงจนหนังตาหนักแทบจะหล่นลงไปถึงแกนโลก กว่าจะปิดไฟเดินกว้างขึ้นไปนอนข้างบนห้องก็ได้เวลาเมียตื่นมาฉี่มื้อเช้าซะแล้ว