ทำเว็บแปลงค่าเงินเยนเป็นบาทแบบง่ายๆ

เสร็จละ เว็บแปลงค่าเงินเยนเป็นเงินบาทแบบเร็วๆ ง่ายๆ โง่ๆ เผื่อคนไปญี่ปุ่น แล้วจะได้ไม่เสียเวลายืนนับนิ้วคำนวณค่าเงินอยู่หน้าร้านตอนจะซื้อของ เลยทำมาใช้เองแบบง่ายๆ เลยทำมาแชร์ด้วย

  • โจทย์คือ ออกแบบให้ใช้ง่ายที่สุดในมือถือ ไม่เน้นสวย
  • และเล็ก เราเลย optimize โค้ดเหลือขนาดจิ๋ว แค่ 1KB นิดๆ เอง
  • เออ ถ้าจะให้ง่ายขึ้นอีก มันกดทำ shortcut ได้นะ เวลาเข้าเว็บก็เหมือนเปิดแอปเลย

เชิญจ้ะ

คราวนี้ใช้ Gemini ช่วยเขียนโค้ด เพราะเราลืมวิธีไปหมดแล้ว บรีฟด้วยภาษาไทยแบบลูกค้าเรื่องมาก ใช้เวลาทำแป๊บเดียว ลวกๆ เลย นานแค่ตอนพยายามปรับ UX ให้มันง่ายที่สุดขนาดที่เอาไปให้เมียใช้แล้วไม่บ่น

ป.ล. คราวก่อนที่ทำเว็บค้นคอร์ดอูคูเลเล่ เราใช้ DeepSeek ถึงน้องจะช้า แต่ก็เก่งเรื่องโค้ดสุดๆ ส่วนคราวนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ซื้อมือถือแล้วมันแถมน้องเจมตัวแพงมาด้วย เลยใช้ดู พบว่าโหลดเร็วและไม่บ่นเรานัก แต่น้องขี้ลืม สู้น้องวาฬไม่ได้

อัปเดต 1 : คุณ Pikaboyz Pikaz เสนอว่าให้ดึง API ค่าเงินเยนปัจจุบันมาใช้ เออดีเหมือนกัน เลยปรับมาใช้ตามนี้ครับ (ทำเองไม่เป็นหรอก ให้น้องเจมช่วยเขียน) ตอนนี้ไฟล์ใหญ่ขึ้นเป็น 1.71KB

อัปเดต 2 : สรุปว่าถ้ากด enter แล้วจะเป็นการเคลียร์ input เลย แล้วเพิ่ม input history ข้างล่าง เผื่อเปรียบเทียบราคาของหลายๆ ชิ้นไง ขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้นจึ๋งนึง ช่างมัน ยังไม่เกิน 3KB ไม่น่าเปลืองเน็ตมั้ง…

คอมเมนต์

ลองใช้ AI เขียนเว็บค้นคอร์ดเพลง

ผมหัดเล่นอูคูเลเล่ เกาๆ ง้องแง้งที่บ้านมา 2-3 ปีแล้วครับ เล่นได้แต่คอร์ดง่ายๆ และรู้จักแค่เพลงไทย โดยเฉพาะเพลงรุ่นน้าๆ ลุงๆ เล่นไปทำไมก็ไม่รู้ ลูกเมียก็ไม่ได้อินด้วย ใช้เวลาหลังกินข้าว หยิบอู๊คกระป๋อง (มันทำจากกระป๋องคุกกี้กล่องแดง) มานั่งดีดๆ เปิดเพลงจากเว็บต่างๆ แล้วทยอยเซฟภาพคอร์ดที่เล่นแล้วรอดไว้ในเครื่อง บางทีอันไหนดีดยากก็เขียนๆ แก้ๆ เป็นคอร์ดที่เราเล่นเป็นเท่านั้น

แต่หลังๆ เพลงมันเริ่มเยอะ ก็ย้ายไฟล์ทั้งหมดไปบน Google Drive พอนับดูได้ 500 กว่าไฟล์แล้วก็พบว่า พอไฟล์เยอะ การเปิดแท็บเล็ตหรือมือถือแล้วไถหาเพลงที่ต้องการที่เซฟไว้ มันยาก

แต่ก็ใช้วิธีนี้มาเรื่อยๆ ไม่ได้หืออืออะไร แต่ในใจก็คิดว่า มันน่าจะมีแอปหรือเว็บที่ช่วยเราเรื่องนี้นะ คือค้นเร็วๆ ได้ แล้วก็สุ่มๆ เพลงขึ้นมาได้เผื่อเกิดเบื่อขึ้นมา ที่สำคัญขอแค่มันเร็วหน่อย

แล้วเมื่อวานก็ได้ลองเล่น DeepSeek ที่เป็น AI ตัวใหม่จากแดนมังกร หลังจากกลั่นแกล้งน้องไปพอสมควรแล้ว ก็นึกได้ว่า เอ๊ะ ถ้าจะบอกน้องให้ลองทำเว็บที่ตอบโจทย์นี้จะได้แค่ไหนกันนะ

บ่ายวันนี้ก่อนไปรับลูกกลับจากโรงเรียน เลยลองพิมพ์บรีฟไปคร่าวๆ เหมือนเป็นลูกค้าที่สั่งคนทำเว็บ

ต้องการโค้ด HTML+ inline JavaScript เพื่อสร้างเว็บ 1 page HTML ง่ายๆ 1 หน้า โดยมีฟีเจอร์ดังนี้
– หน้าเว็บโล่งๆ
– ด้านบนเป็นช่อง text input
– ถัดมา เป็นรายชื่อไฟล์รูปภาพทั้งหมดใน sub folder ชื่อ song ขึ้นมาแสดงเรียงกันตามตัวอักษร แสดงเฉพาะชื่อไฟล์ ไม่ต้องแสดงนามสกุล เมื่อคลิกแล้วจะลิงก์เปิดไฟล์นั้นขึ้นมา
– ช่อง text input ด้านบน เมื่อพิมพ์ตัวอักษรลงไป ให้เหมือนเป็นการ filter search แสดงเฉพาะชื่อไฟล์ที่มี text ที่พิมพ์ลงไปเท่านั้น, update on every input changed
– หากช่อง input ว่าง ให้แสดงชื่อไฟล์ทั้งหมดเหมือนเดิม
– ใต้ช่อง input ให้มีลิงก์ 1 อันเขียนว่า clear, เมื่อกดแล้วจะเคลียร์ text input ด้านบน
– ทั้งหมดนี้ให้เขียนออกมาในไฟล์เดียว

เนี่ย เบื้องต้นต้องการแค่นี้แหละ แล้วน้องก็พ่นออกมายาวเหยียด และน่าหนุกมาก! จนเราที่เกษียณจากการทำเว็บมาเป็นสิบปีแล้วถึงกับตาลุกวาว แต่ต้องออกไปรับลูก งั้นมโนไปก่อนละกันว่ามันจะดีไหม

หลังจากเสร็จทุกธุระในวันนี้แล้วก็เลยมานั่งกดๆ พิมพ์ๆ โต้ตอบกับน้องอีกพักใหญ่ พบว่าน้อง DeepSeek ตอบโจทย์ความต้องการของเราดีมาก ใส่ใจรายละเอียดและชี้ทางแก้ปัญหาต่างๆ

แต่น้องก็ค้าง…

น่าจะเกี่ยวกับที่ขึ้นประกาศวันนี้ว่าโดน attack ครั้งใหญ่จนล่ม (ไม่รู้จะเกี่ยวกับที่เหล่าชาวโลกร่วมใจกันบูลลี่น้องหรือเปล่า) เราก็เลยเอาโค้ดไปคุยต่อกับเพื่อนสนิทอย่าง Gemini

ซึ่งอีนี่ก็พูดมากเหลือเกิน ไม่รู้สินะ เราใช้แบบคร่าวๆ เป็นรุ่น 2.0 (แต่ฟรี) ก็พบว่าความคล่องตัวยังสู้น้องหลามจีนไม่ได้ แต่แกพูดมากจนเราต้องบอกว่าเอาแต่พอดีๆ นะ ซึ่งการที่น้องไม่ล่มนี่ก็ช่วยให้คืบหน้าไปได้ด้วยดี

ด้วยความที่เราก็ไม่ได้เชี่ยวชาญ (เราเขียนโค้ดเองไม่เป็นเลย) ก็เลยนั่งปรับๆ แก้ๆ ไปเรื่อยๆ ถามๆ ตอบๆ ปรับจูนกันจนดึกดื่น คือดีไซน์น้องนี่สั่งให้สวยได้นะ แต่มันจะสวยแบบแปลกๆ นิดนึง ส่วนงาน UX/UI จึงค่อนข้างเป็นงานทำมือ แต่ทำเสร็จก็ส่งให้น้อง optimize ได้อีกต่อ

จนในที่สุดก็ได้เว็บนี้มา 5555555 สนุกง่ะ ขอแนะนำำำำำ

เว็บไซต์นี้เป็นเว็บทดลอง โดยใช้ AI คือ DeepSeek และ Gemini ทำขึ้นมาใช้เองส่วนตัว เอาไว้รวบรวมคอร์ดเพลงไว้ฝึกซ้อมอูคูเลเล่ มีฟีเจอร์หลัก ๆ ดังนี้

(ทีแรกจะบรรยายฟีเจอร์เอง แต่นี่ง่วงแล้ว นึกได้ว่าน้องก็อยู่กับเรามาทั้งคืน เลยขอโยนให้ จมน แนะนำแทน)

  • ค้นหาคอร์ดเพลง: ผู้ใช้สามารถค้นหาคอร์ดเพลงที่ต้องการได้โดยการพิมพ์ชื่อเพลง ชื่อศิลปิน หรือบางส่วนของเนื้อเพลงในช่องค้นหา
  • แสดงผลรายการคอร์ดเพลง: เว็บไซต์จะแสดงผลรายการคอร์ดเพลงที่ตรงกับการค้นหาของผู้ใช้ โดยจะแสดงเป็นรายการลิงก์
  • แสดงคอร์ดเพลง: เมื่อผู้ใช้คลิกที่ลิงก์คอร์ดเพลง เว็บไซต์จะแสดงเนื้อหาคอร์ดเพลงนั้น ๆ
  • สุ่มเพลง: มีปุ่มสำหรับสุ่มเพลง หากผู้ใช้ต้องการฟังเพลงใหม่ ๆ หรือไม่รู้จะฟังเพลงอะไร
  • เพลงทั้งหมด: มีปุ่มสำหรับแสดงเพลงทั้งหมดในเว็บไซต์ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกดูคอร์ดเพลงทั้งหมดได้
  • ค้นหาใน Google: ถ้าเพลงที่หาไม่มีในสต็อก จะมีปุ่มให้กดไปค้นต่อในเว็บคอร์ดเพลงที่เป็นที่นิยมผ่าน Google
  • รีเซ็ต: มีปุ่มสำหรับรีเซ็ตการค้นหาและ cache ของเว็บไซต์

เออ มีทิปนิดนึงคือ

  • เว็บจะแสดง 50 เพลงแบบสุ่ม ยกเว้นถ้าเราพิมพ์ “all” หรือ “*” หรือไม่ก็ไปกดลิงก์ด้านล่างก็ได้ มันจะโชว์ทั้งหมดเรียงตามตัวอักษร
  • เพลงไหนเคยเล่นแล้ว ปุ่มมันจะมืดๆ ไป 1 วัน ยกเว้นจะกดรีเซ็ต (เป็นการล้างแคช) – ระยะเวลา 1 วันนี่ลองใส่ไว้ก่อน เดี๋ยวใช้ไปเรื่อยๆ อาจจะปรับเป็น 7 วันหรืออะไรก็แล้วแต่
  • ถ้าพิมพ์เพลงที่ไม่มี มันจะไม่เจอใช่มะ ให้ลองกดหาในกูเกิล มันจะเอาคำที่เราพิมพ์นั่นแหละ ไปค้นในเว็บค้นหาคอร์ดเว็บอื่นๆ
  • ถ้าเปิดในมือถือหรือแท็บเล็ต จะมีตัวเลือกให้ลองติดตั้งเป็นแอป (progressive webapp) ได้เลย ดังนั้นนี่ก็เหมือนเป็นแอปแอปนึงละ กด add to home / install ได้เลย จะได้จิ้มง่ายๆ

พอมาถึงตอนนี้ก็พบว่า ถึงจะเขียนโค้ดไม่เป็น แต่การสั่งๆๆ บรีฟๆๆ ใส่เอไอ แล้วให้น้องบ้วนออกมาเป็นของที่เราอยากได้มานานนี่ มันสนุกจัง!

คอมเมนต์

เราไม่ใช่คนทันสมัยอีกต่อไปแล้ว

ช่วงหนึ่งของชีวิต ที่ตรงกับช่วงหนึ่งของยุคสมัยที่เทคโนโลยียังไม่ใช่สำหรับทุกคน แต่เป็นคนที่เจอมันก่อน มีโอกาส และเข้าถึงเท่านั้น

เราเป็นหนึ่งในคนแบบนั้น ถึงที่บ้านจะไม่ได้มีฐานะทางการเงินที่ดี แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของพ่อ ที่บังคับไปเรียน Lotus , D-Base, DBFORM ที่โรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์และบัญชีใกล้บ้าน (โรงเรียนคอมพิวเตอร์ท้องถิ่นนะเว้ย) ตอน ป.6 และซื้อคอมพิวเตอร์ 486 DX-II แรม 4MB มาให้หัดเล่นหัดแงะตั้งแต่ ม.1 ด้วยแกเห็นอะไรบางอย่างที่น่าจะเป็นอนาคตที่เด็กเนิร์ดอย่างเราอาจจะคว้าไว้ได้

และเราก็คว้าไว้ ล้วงแคะแกะเกาอย่างสนุกจัดๆ หัดโน่นซนนี่ เท่าที่เทคโนโลยีจะอำนวย แงะเกม โมรอม (ในยุค 90s) ทำเว็บ (ในยุคที่บังมีเน็ตให้เล่นอยู่ที่เดียวในจังหวัดคือราชภัฏ) ไม่นับพวกงานประกอบคอมพ์ ซึ่งเป็นสูตรมาตรฐานของคนประเภทนี้ ที่ทำจนสร้างรายได้จากเหล่าเพื่อนพ่อที่โดนเราหลอกพามาเดินพันธุ์ทิพย์เพื่ออัปเดตว่ากรุงเทพฯ เขาไปถึงไหนกันแล้ว

ในยุคก่อนอินเทอร์เน็ตนั้น การเรียนรู้ระบบไอทีอะไรที่เข้าถึงได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ก็น่าจะเล่นมาจนปรุ

แต่แบบเสียเงิน เช่นเรียนเขียนโปรแกรม PASCAL ตอน ม.3 ที่ต้องจ่ายเพิ่มเทอมละ 400 บาท ไม่กล้าขอเงินพ่อแม่ไปเรียน นี่เป็นสิ่งที่นึกย้อนไปแล้วเสียดายจนทุกวันนี้ ถ้ารากฐานตอนนั้นดี มันคงเปลี่ยนเราไปจากนี้เยอะเลย แต่ช่างมัน

ชีวิตในวัยมัธยมของเราจึงโคตรฟินกับอะไรใหม่ๆ กระโดดขึ้นรถไฟขบวนแรกอยู่เสมอ ถึงจะเป็นรถไฟต่างจังหวัดที่เป็นเพียงกะลาเล็กๆ สู้เด็กในเมืองไม่ได้หรอก แต่มันก็ถูกพิสูจน์ชัดตอนเข้ามหาลัย

เราเข้าเรียนคณะสายออกแบบ อีคณะนี้เรียกว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่เราถนัดเลย แต่นั่นเลยกลายเป็นคนนอกระบบการศึกษาด้านเทคโนโลยี ที่ดันต้องแถกไถหาวิธีเล่นเอง มันเลยกลายเป็นสายประยุกต์ที่น่าสนุกดีนะ อย่างพวกวิชากราฟิก วิชาทำฟอนต์ ทำเว็บ วิชาแฟลช (ภูมิใจมาก แต่ตอนนี้ลืมหมดแล้ว) แล้วก็ SketchUp (ที่น่าจะเคลมได้ว่าหัดเองเป็นคนแรกๆ ของประเทศเรา เพราะโหลดเถื่อนตรงจากเว็บฝรั่ง แล้วเอามาสอนอาจารย์ที่คณะอีกที แถมเอามาทำ Thesis คนแรกของไทย 5555)

ที่อวดเก่งมาทั้งหมดนี่เพียงเพื่อจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเล่าเก่าแก่ในอดีตของคนที่เคยมั่นใจในความนำสมัยของตัวเองว่า ถึงจะด้อยโอกาสอยู่หน่อยๆ แต่เรื่องสู้ชีวิตเพื่อให้ได้เป็นโปรยูสเซอร์นี่ เราก็ไม่แพ้ใครนะ

เป็นแค่ในตอนนั้น

ถัดมาแค่สิบปี พอเราอิ่มตัวจัดๆ และหมดไฟในการใช้ชีวิตในเมืองกรุง ถึงขั้นตัดสินใจเด็ดขาดว่าขอลาออกจากกรุงเทพฯ แม้จะเป็นการเปลี่ยนงานเปลี่ยนอาชีพ โดดลงจากรถไฟสายเทคโนโลยีที่รู้ดีว่ามันเร็ว และไม่มีทางหยุด

แต่กูเหนื่อยไง

พอโจทย์ในชีวิตเปลี่ยน มันก็เหมือนสับสวิตช์ปิดฉับเลย วางมือจากทุกงานที่เกี่ยวกับงานออกแบบสร้างสรรค์หรือดิจิทัลเอเจนซีใดๆ ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นพาหนะ หันมาคุยกับต้นไม้ คุยกับแมว ถ่ายรูป ช่วยเมียขายเสื้อผ้า ฯลฯ

แล้วก็ได้พบว่าอีกเพียงไม่นานหลังจากนั้น สิ่งที่เราโม้ เราภูมิใจที่ผ่านมาทั้งหมด มันเป็นขยะ

โอเค เราสามารถอวดได้แหละว่าพี่มาก่อน พี่ทำก่อน พี่รู้ก่อน แต่มันยังไงต่อนะ เพราะทุกวันนี้ไอ้ทักษะที่เราอวด มันคือสิ่งปกติสามัญธรรมดามากๆ ประเภทที่เด็กประถมก็เกิดมากับการทำเป็นกันหมดแล้ว

วิทยาการมันพัฒนาไปจนคลื่นลูกที่ตามมามันทับถมตะกอนทราย เป็นพื้นฐานและต่อยอดทบทับขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่รอ และแน่นอน ไม่หยุด

เราจึงเป็นเพียงเศษซากความภูมิใจในอดีต ที่จดไว้ฟินเองในบันทึกส่วนตัวเท่านั้น ตอนนี้จะตัดคลิปติ๊กต็อกแบบที่เขาเล่นกันท้ายตลาด ยังทำไม่เป็นเลย

และทั้งหมดนี้ไม่ได้รู้สึกว่าเสียใจหรือชอกช้ำระกำทรวงอะไรนะ แต่รู้สึกว่ามันเป็นภาพใกล้เคียงกับที่จินตนาการไว้ตอนโดดลงจากรถไฟ ว่ายังไงถ้าทุกปัจจัยมันลงตัวพอดี ไอ้สิ่งที่เราเคยเบ่งบารมีว่าเคยทำ ทุกคนก็ต้องทำได้เป็นปกติ และดีกว่า

เราจึงแฮปปี้ที่ได้อยู่ในโลกที่เทคโนโลยี (ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบ) มันดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ตัวเองจะชราลงทุกวัน และตกยุคหล่นสมัยไปแล้ว

แต่ก็จะพยายามไม่ให้ตกไปไกลมากนะ เดี๋ยวคุยสคิบิดี้ซิกมากับเจนอัลฟาที่บ้านไม่รู้เรื่อง

คอมเมนต์

ยืมหนังสือดีๆ มาอ่านฟรีจากห้องสมุดออนไลน์ โครงการอ่านเปลี่ยนโลก

ผมดูรายการสัมภาษณ์คุณช่อสักรายการ จำไม่ได้แล้ว ตอนจบรายการ คุณช่อโฆษณาโครงการนึงของคณะก้าวหน้า ชื่อว่า Reading Revolution อ่านเปลี่ยนโลก

ใจความของโครงการที่ทำให้สนใจก็คือ เขาเป็นห้องสมุดออนไลน์ที่คัดหนังสือดีน่าอ่านมาให้เราได้ อันฟรีถึงบ้านเพียงกดยืมในเว็บให้เวลาอ่านหลายวันมากด้วยนะเสร็จปั๊บก็ส่งคืนทางไปรษณีย์ไทยซึ่งเขาแนบซองติดแสตมป์มาให้ด้วยเท่ากับเราอ่านฟรีไม่ต้องเสียตังค์อะไรเลยสักบาทเดียว

นี่พิมพ์ด้วยเสียง ลูกสาวได้ยินเข้าเลยหันมาถามว่า “แล้วเขาจะมีรายได้ยังไง”

คำตอบคือเขาเปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วไปแล้วมีสปอนเซอร์ใหญ่ที่ให้ทุนเยอะก็คือโก๋แก่ (ลูกถามว่าคือใครเหรอ) — เป็นขนมถั่วๆ น่ะ หนูเคยเห็นไหมที่เคยขายในเซเว่นน่ะ / ใช่ที่เป็นรูปลุงมีผมยาวๆ ปะ / ใช่ๆ (นี่ประทับใจเลยขอชื่นชมเขาหน่อย)

ผมไม่แน่ใจว่าโครงการนี้มีที่มาที่ไปยังไงเพราะไม่ได้ติดตามมาก่อน แต่พอรู้ว่ามีหนังสือดีๆ ให้อ่านฟรี เรามันชอบของฟรี ก็เลยกดเข้าไปดูในเว็บทันทีที่คุณช่อพูดว่า เอ่อ

ปรากฏว่าหนังสือที่ลิสต์ไว้ในหน้าเว็บ มีแต่หนังสือที่น่าอ่านทั้งนั้นเลยจริงๆ ด้วย! (ตัวอย่างหนังสือดี 21 เล่ม) ก็เลยลองจิ้มๆ จัดมาก่อน 1 เล่มโดยการกรอกแบบฟอร์มในเว็บ

สักพักก็มีอีเมลมายืนยัน แล้วไม่นานก็มีหนังสือมาส่งถึงบ้านจริงๆ!

แน่นอนว่ามีซองและแสตมป์แถมมาให้ด้วย แถมยังมีโปสการ์ดแถมมาอีกแผ่น

ประทับใจจนอยากบอกต่อ มายืมหนังสือกับโครงการนี้กันครับ!

ส่วนข้างล่างนี้ก๊อปมาจาก description ยูทูบข้างบน :

“อ่านเปลี่ยนโลก” (Reading Revolution) คือ โครงการส่งต่อหนังสือ ขยายพรมแดนความรู้ เปิดจินตนาการความเป็นไปได้ใหม่ๆ ผ่านการอ่านของ Common School โดย คณะก้าวหน้า

เราคัดเลือกหนังสือที่กระตุ้นให้เกิดจินตนาการถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อนำมาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านในรูปแบบการยืมและส่งต่อ (Book Sharing) หลังจากนั้น จะมีการจัดวงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน (Reading Group)

การเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ไม่สามารถอาศัยกำลังทางกายภาพและจำนวนปริมาณเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีความคิดชี้นำเพื่อไปสู่ความเปลี่ยนแปลงใหม่ การทำงานทางความคิดจึงเป็นขบวนการสำคัญ ดังที่ Lenin กล่าวไว้ว่า “หากปราศจากทฤษฎีปฏิวัติ ย่อมไม่มีขบวนการปฏิวัติ” หากความคิดความเชื่อแบบเดิมยังคงดำรงอยู่ การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การต่อสู้แย่งชิงเพื่อแตกหักกับความเชื่อเดิม สร้างความคิดความเชื่อใหม่จึงจำเป็น

การอ่าน คือ วิธีการเข้าถึงความรู้ วิธีการบ่มเพาะความคิดความเชื่อ ดังนั้น ความคิดใหม่จะเกิดขึ้นได้ ย่อมขึ้นกับว่าเราอ่านอะไร อ่านกับใคร และเข้าถึงการอ่านได้อย่างไร

ยืมหนังสือฟรี! pgmf.in.th/https://progressivemovement.in.th/article/common-school/3350/reading-revolution/

—–

สนับสนุนการทำงานของ Common School ได้ทางบัญชีธนาคารกรุงศรี ชื่อบัญชีมูลนิธิคณะก้าวหน้า เลขที่บัญชี 493-1-08675-7

ป.ล. รู้สึกว่าพิธีกรจะถามคุณช่อว่า “ถ้าหนังสือหาย ชำรุด หรือคนที่ยืมไปแล้วไม่คืนล่ะจะทำยังไง” คุณช่อตอบว่า “ก็ต้องช่วยๆ กัน…”

คอมเมนต์

ฝันว่ากอดแม่

สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเคลียร์งานงานหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนในการทำ แล้วดันมีอยู่คือหนึ่งที่ฝันถึงแม่

ตื่นมาจำได้แม่น ประทับใจมาก อยากวาดเล่าเรื่องฝันนี้มาก แต่ด้วยภาระท่วมตัวที่ยังปั่นงานไม่เสร็จสักที เลยวาดทิ้งไว้ก่อนตอนพักกินก๋วยเตี๋ยว ผ่านมาสามสี่วันพองานเสร็จเลยวาดต่อจนจบ โดยที่ทั้งภาพและเริ่องราวในฝันยังคงจำได้ชัดเจน

พอวาดจบแล้วก็มานึกได้ว่า เออ ใครมันจะไปเข้าใจกูวะ…

คอมเมนต์