กลับจากไปแอ่วเชียงราย-เชียงใหม่ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาคราวนี้
ผมได้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (แดกระเบิด)
และได้ความประทับใจที่วัดค่ามิได้
(แน่นอน.. ผมยังไม่มีความสามารถจะอธิบายความรู้สึกที่ว่าลงในบล็อกได้ถนัด)
หนึ่งปีที่แล้วหลังจากผมจับทหารได้ใบแดง
“ปิง” ก็ชวนผมไปเที่ยวเชียงรายกันตอนสงกรานต์
ผมไม่ปฏิเสธ เพราะถือเป็นโอกาสเที่ยวครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้ากองร้อย
ส่วนครั้งนี้ถือเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปีจากวันนั้น
เลยมีกล้องไปถ่าย และมีเพื่อนไปอีกเป็นโขลง
โบว์ แจ๊ค ต๊อบ กอล์ฟ น้อยหน่า สนุ้กเกอร์ (ไปช่วยกันผลาญ)
ลืมบอกไปว่า คราวนี้เป็นรูปแผ่นสอง เพราะรูปในแผ่นแรกมันล้นการ์ด
ผมก็เลยย้ายข้อมูลไปฝากไว้ในโน้ตบุ๊คของปิง แล้วค่อยหาเวลาไปดูด
ดังนั้นภาพชุดนี้จึงเป็นเพียงครึ่งหลังของการแอ่วเหนือในคราวนี้
(ถ้าเนื้อหามันวิ่นๆ แหว่งๆ ก็ขออภัย — ผมขี้เกียจเล่าซ้ำกับคนอื่นน่ะครับ)
กระต๊อบไม้เก่าๆ ที่ฝาง ข้างๆ กับบ้านพักที่เราไปนอนกลิ้งกัน
มีมะม่วง ลำไย และสารพัดผลไม้ที่ตั้งท่าจะคลอดในฝนแรกของปี
เครื่องหมายบอกว่าเครื่องจักรทำงานเสียงดัง เท่ดีเลยบันทึกไว้
(จากโรงงานไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพ – ฝาง)
เวลาตั้งใจเดินทางไปไหนมาไหนก็ต้องคอยหลบอุปสรรคข้างทางแนวนี้ครับ
อ่านตอนเมาๆ จะกลายเป็น “ครบชั่วโมง .. 609” — (แพงว่ะ)
ไปไหนมาไหนจะมีสถานที่ที่มีคำว่า “แม่” เต็มไปหมด.. อ่านแล้วรู้สึกน่ารักดี
ลุงกำนัน บ้านแกอยู่ที่ห้วยแม่นะนี่แหละครับ (ลูกสาวสวยมาก ขอบอกกก)
พอไปถึงคูเมืองเชียงใหม่ งานสงกาม — เอ๊ย .. สงคราม — ไม่สิ .. สงกรานต์ก็เริ่มขึ้น
รูปนี้น้อยหน่าถ่ายจากในรถครับ ส่วนผมน่ะเหรอ วิ่งตีนเปล่าไปเย้วๆ บนถนนนู่น
(ขออภัยนางแบบที่ไม่ได้ขออนุญาตนำมาลง จึงต้องอำพรางไว้หน่อยพอกล้อมแกล้ม)
คนซ้ายปิง (เจ้าภาพ) คนกลางสนุ้กเกอร์ (ขวัญใจเด็กแนว) คนขวาผมเอง (ศรชี้)
เราไปสาดน้ำกันพอขำขำ เพราะว่ามีผู้หญิงมาด้วย และสงสารลุงปลาแกขับรถเหนื่อย
ก็เลยกลับมาบ้าน (ย้ายมานอนที่สันกำแพงแล้วจ้ะ) แล้วเตรียมลุยวันต่อไป
วันรุ่งขึ้นก็
ตำรวจบนดอยสุเทพนิสัยดีมาก ปล่อยมุกตะบี้ตะบันเลย (น่าให้ตำรวจกรุงไปดูงาน)
น้องๆ ใส่ชุดชาวเขานั่งข้างบันไดและท่องอาขยาน (ท่องจริงๆ ..เหมือนเปิดเทป)
เนื้อหาประมาณว่า ถ่ายรูปกับหนูหน่อยสิคะพี่ๆ สามบาทสองบาทก็ได้ (ยานคาง)
ขึ้นไปถึงก็เดินชมวิวรอบๆ — เห็นโบว์บ่นร้อนจัง (ผมเลยบอกเหตุผลว่าทำไมถึงร้อน)
ไอ้ตัวข้างหน้านี่ชื่อสนุ้กเกอร์ (หน้ามันได้อารมณ์ตัวมอมเหมือนกันนะ)
พอมองผ่านเลนส์ ก็เห็นพระปรางค์บนดอยเหมือนในโปสการ์ดซะทุกที
ก็เลยเดินหาถ่าย “สัญลักษณ์อื่น” เลยได้ภาพ (คล้าย) ขาวดำมาแบบในภาพ
น้อยหน่า แจ๊ค ต๊อบ กอล์ฟ (มีกล้องคนละตัว) ไปหลบแดดแอบถ่ายพระปรางค์อยู่ในร่ม
พอลงจากดอยปั๊บ ก็ตรงไปยังสวนสัตว์เชียงใหม่ทันที (เพราะมันอยู่ใกล้กันแค่นั้น)
เห็นใครๆ บอกว่าอยากดูหมีแพนด้า
แต่ผมมองไปทางไหนก็เห็นแต่ตุ๊กตา ภาพเขียน รูปปั้นหมีแพนด้า แพนด้าๆๆๆ
เลยหมั่นไส้ ไปดูสัตว์อย่างอื่น (ที่กลายเป็นพลเมืองชั้นสองของสวนสัตว์) ซะงั้น
เนี่ย นกกระจอกเทศ ..ผมว่าน่ารักกว่าแพนด้าอีก
สนุ้กเกอร์ก็ขี้เกียจเห็นหมีเหมือนกัน เลยมาระบายกับหุ่นข้างนอก
เสร็จแล้วเดินทางออกจากสวนสัตว์ (รูปมันมีเกือบพันรูป เลยตัดต่อฉึบฉับหน่อย ขอโต้ด)
นั่งกินสตรอเบอรี่ระหว่างไปร้านอาหาร ก็เจอของดีเข้า (โอว.. ดีว่ากูกัดเบาๆ นะ)
ถึงร้าน แล้วก็กินๆๆๆๆๆ ส่งท้ายวุ้ย พรุ่งนี้จะกลับแล้ว
ก่อนเข้าบ้านก็แวะถนนคนเดิน บรรยากาศดีมาก น่ารักสุดๆ!!!!!!!!!!!
เพราะว่าของที่ขายจะเป็นสินค้าพื้นถิ่นทั้งหมดเลย ดังนั้นบรรยากาศจึงน่ารักมากๆ
สองคนขวาคือน้องชายของปิง — ปั้นและปอนด์ (ส่วนอาม่าข้างหลังนั่นน่าจะเป็นวิญญาณ)
ขออภัยที่ถ่ายทอดออกมาไม่ดี คือเรื่องมันเยอะเกินไปจนลำดับการเล่าไม่ถูกน่ะ