#หนีกรุง Day 7: #SleepForMom

image

นี่เพิ่งตื่น

ปกติกลางคืนจะช่วยกันกับเมีย กล่อมลูกให้หลับทั้งสองตัว แล้วพอหลับสนิทค่อยลุกขึ้นมาทำอะไรกันสองคน (งานน่ะงาน)

แต่นี่เป็นคืนแรกในนับตั้งแต่เร่ร่อนรอนแรมเที่ยวมา 7 คืน ที่หลับสนิทไปกับลูกด้วย แต่ตื่นมาเพราะโทรศัพท์สั่น แล้วก็นึกได้ว่ายังไม่ได้ตอบลูกค้าประจำวันนี้เลย เลยตัดสินใจลุกขึ้นมาอุ๊จและเขียนบล็อกนี่ก่อน

คงเป็นเพราะฤทธิ์เดชของที่นอนยักษ์กว้าง 3 เมตรและหมอนดูดวิญญาณของห้องแฟมิลี่แห่ง “นอนดี” โรงแรมเล็กๆ ใหม่เอี่ยมแห่งหัวหิน ที่อยู่เยื้องๆ ตลาดจักจั่น (ชิคาดา) ซึ่งเป็นของเพื่อนผมเอง เลยเขียนพิกัดซะละเอียด… เผื่อคราวหน้ามันให้นอนฟรี

เออ เชื่อแล้วว่านอนดีมึง “นอนดี” จริงๆ

ไหนๆ พูดถึงชื่อที่พักชัดๆ เป็นครั้งแรก เลยนึกได้ว่า ที่จริงการมารอนแรมแบบนี้มันเลยได้เปรียบเทียบว่า ธุรกิจรีสอร์ต-โรงแรม-เกสต์เฮาส์ ใน พ.ศ.นี้ ไม่ว่าจะเป็นที่พักแนวป่าเขาหรือแบบสลิ่ม การมาใช้บริการนี่คือเชื่อรีวิวจากพวก Agoda หรือพันทิปซะเป็นส่วนใหญ่ (คงเป็นวิถีปกติของคนเมืองไปแล้ว) และพอมาจริงๆ ก็จะแอบคาดหวังไว้หน่อยและนึกถึงคำโฆษณาจากปากผู้ใช้บริการแวบเข้ามาในหัวเป็นระยะ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยผิดหวังนะครับ ไม่รู้เพราะว่ามันเป็นการเที่ยวในวันธรรมดาด้วยหรือเปล่า

และการเที่ยววันธรรมดาก็ให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ที่มีทั้งข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป

เอาข้อเสียก่อนละกัน อย่างแก่งกระจานที่ผ่านมานี่เห็นเลยครับว่าวันธรรมดาเป็นวันพักผ่อนของพนักงาน เพราะคนน้อยน่ะนะ เหมือนเราไปรบกวนเขา 5555

ส่วนข้อดีก็คือราคาถูก อันนี้ชัวร์ใช่มะ อีกอย่างคือการได้สัมผัสสถานที่และธรรมชาติรอบๆ โดยไม่มีคู่แข่ง (หมายถึงนักท่องเที่ยวอื่นๆ) มาทำให้เขิน

มีวันนึงที่ตื่นมาปั่นจักรยานสำรวจรีสอร์ตอื่นๆ แถวๆ แก่งกระจาน ก็พบว่าแต่ละรีสอร์ตแทบไม่มีคนเลย ลองแวะๆ เข้าไปดูเจ้าที่อยู่ใกล้กับที่ไป บางทีก็เศร้า คือมึงทำธุรกิจแบบตีหัวเข้าบ้าน ทำที่พักส่งๆ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะๆ ก่อสร้างต่อเติมแบบไม่แคร์ธรรมชาติ หรือไม่คิดถึงคุณค่าอะไรจากทรัพยากรที่มี

บางแห่งได้ยินชื่อมานานก็แวะเข้าไปดู แล้วก็เหี่ยวใจ โดยเฉพาะเจ้านึงที่ถึงกับติดป้ายโฆษณาไว้ตลอดถนนด้วยสโลแกนประมาณว่า “ท่านกลับไปแล้วจะไม่ผิดหวัง” เอ๊ะทำไมใช้คำที่ให้อรรถรสแปลกๆ เหมือนตีแผ่วงการยังไงอยู่นะ ก็เลยเลี้ยวเข้าไปดู

ริมแม่น้ำสวยๆ พี่ก็เอาสไลเดอร์สีแปร๋นๆ ไปวางยืนลงน้ำเพื่อเอาใจแขก (แปร๋นจริงๆ แล้วแต่ละแห่งนี้แข่งกันแปร๋นมาก เคยล่องแพยางผ่านแล้วหดหู่) ต้นไม้ใหญ่ที่มีก็โค่นซะเหี้ยน เพื่อตั้งบ้านน็อกดาวน์เป็นหลังๆ ขยายบริเวณไปเรื่อยๆ แบบไม่ได้มีการวางแผนที่ดี เห็นแล้วอึนๆ แปลกๆ แต่ก็เข้าใจว่าสำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ คน ไอ้การทำแบบนี้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่นา คนเที่ยวได้เล่น เจ้าของได้ตังค์ วินวิน แต่มันไม่วินสำหรับสภาพแวดล้อมเลยนะ

ก็พอรู้นะครับว่าเงินมันดี วันหยุดทีนึงคนก็แห่กันมา โกยได้ก็โกย แต่มันสร้างภาพจำที่ไม่ดีกับแหล่งท่องเที่ยวบริเวณนี้ไปเลย

ถึงขนาดคิดว่าถ้ามีตังค์สักสิบยี่สิบล้าน จะเปิดที่พักเก๋ๆ เล็กๆ แต่ใจเขาใจเราแม่งแถวนี้แหละ จะล้างภาพลักษณ์ที่พวกแกทำเอาไว้

เชื่อแล้วว่าพอกลับออกมาแล้วจะไม่ผิดหวัง

และเจ็ดวันที่ผ่านมานี้เองที่ได้ไปเที่ยวแถวบ้านบ้าง แถวอื่นบ้าง แต่โจทย์คือไม่ไปที่ที่เคยไปเลย เหมือนเป็นการสำรวจลงลึกและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่อาจจะมองข้ามไปก่อนหน้า ซึ่งแบบนี้ก็โอเคนะ

ไม่ได้รักชาติอะไร แต่รู้สึกว่าเมืองไทยเรานี้ยังมีที่ที่น่าไปสัมผัสอีกเยอะมาก คงหาโอกาสเก็บแต้มไปเรื่อยๆ แหละ (ทั้งนี้ต้องเป็นมิตรกับเมียและลูกเล็กด้วย)

ที่ว่ามาทั้งหมดนี้จะบอกว่าปัจจัยในการชอบหรือไม่ชอบที่พักและตัดสินใจจะมาซ้ำในโอกาสถัดไปนั้นมีหลายอย่าง สวย คุ้มค่า บริการโอเค อาหารอร่อย มีดีเทลกุ๊กกิ๊กให้ก๊อป (โดยเฉพาะนอนดีหัวหินนี่ดีเทลสวยๆ เยอะมาก เพราะเจ้าของเป็นแก๊งสถาปนิก)

ฯลฯ

เออ สำคัญที่สุดคือเน็ตต้องไม่กากนะ โอเคนะ

คอมเมนต์