ถ่ายจากสะพานควายตอนเดินตามล่าหาร้านน้ำเต้าหู้กลางวันแสกๆ 5555
ใครหน้ามืดเห็นว่ามันสวยก็กดเข้าไปในภาพ แล้วกดอีกที จะมีขนาดใหญ่ให้เลือกโหลดครับ
ป.ล. ที่จริงฉากหลังตอนถ่ายรูปแต่งงานของผมกะเมียเมื่อหลายปีก่อนก็แบบนี้เลยครับ รสนิยมคนนี่นะ..
สิ่งที่เป็นอุปสรรคลำดับต้นๆ ในชีวิตของผมตลอดมา ก็คือฟันครับ
ผมเป็นคนที่มีสุขภาพฟันเหี้ยมาก ตั้งแต่เกิดมาก็ผ่านประสบการณ์ฟันผุ ฟันคุด หาหมอฟันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะสมัยเด็กๆ ที่ตอนนั้นตัวเองยังเป็นเด็กต่างจังหวัดมอมๆ คนหนึ่ง ที่ใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ มากกว่าการดูแลสุขภาพของตัวเอง (ที่จริงเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่)
คือตอนนั้นเด็กไง ยังไม่ขึ้น ป.1 เลยมั้ง เลยยังไม่ได้คิดว่า ไอ้น้ำผสมฟลูออไรด์ที่โรงเรียนเขาแจกมาให้อมบ้วนปากก่อนนอนตอนบ่ายหลังแปรงฟันเสร็จแล้วนั้น ถ้ากินเข้าไปแล้วจะทำให้ฟันเราเป็นรอยด่างๆ ดวงๆ ไปตลอดชีวิต หรือการที่ไม่กี่ปีต่อมา เด็กชายแอนซึ่งมีฟันแท้ขึ้นแล้ว เกิดรำคาญฟันตัวเองที่ผุเต็มปาก แล้วนึกเปรี้ยวขึ้นมา เดินเข้าไปหาหมอฟันที่โรงพยาบาลประจำอำเภอเพื่อถอนฟันที่ผุทีเดียวสามสี่รวด โดยที่ไม่รู้ว่าการรักษาฟันผุเนี่ย มันมีวิธีอื่นด้วยนะ นอกจากการถอน.. แล้วแม่งฟันแท้ด้วยนะ แล้วคุณหมอก็จัดให้ทันทีโดยไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำเลยนะ..
ผลคือทุกวันนี้เลยเป็นช่วงชดใช้กรรมที่ได้ก่อไว้ตั้งแต่สมัยยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ด้วยการต้องแวะไปหาหมอฟันแถวบ้านจนแทบจะทำบัตรสมาชิกแบบแพลตินัมได้แล้วเนี่ย เนื่องจากฟันของผมมันเรียงตัวกันได้นรกมาก ไอ้ส่วนที่พอจะดีก็ดันหลอเพราะถอนเล่นสมัยนั้น แถมฟันกรามที่เคยทยอยผุแค่นิดหน่อยตั้งแต่เด็กๆ ก็มาลุกลามเอาตอนโต
กลายเป็นวัยรุ่นที่ไม่มั่นใจในกลิ่นปากตัวเอง เวลาดูตลกถั่วแระเล่นมุกปากเหม็น เห็นคนอื่นเขาขำกัน แต่เราแม่งใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เชี่ย กูแม่งเป็นถั่วแระแน่ๆ อะ สุขภาพฟันไบโอฮาซาร์ดขนาดนี้
ผมเลยพลอยกลายเป็นวัยรุ่นเก็บกด ไม่กล้าหันหน้าเข้าหาหมอฟันอีกเลย
Continue reading หมั่นคอยดูแล และรักษาไรฟัน
เขียนบล็อกสิบตอนก็จะมีสักตอนนึงแหละที่มาบ่นเรื่องบล็อกตัวเอง ดูจมปลักกับตัวเองดีนะครับ 5555
ไม่รู้ว่าเป็นความกดดันที่ตัวผมเองสร้างข้อแม้บางอย่างขึ้นมา แล้วก็ติดกับเสียเองอีกหรือเปล่า จึงทำให้การตัดสินใจเขียนบล็อกใหม่แต่ละทีกลายเป็นเรื่องยาก ทั้งที่มันควรจะง่ายพอๆ กับทวีตข้อความไปสักครั้ง
คิดอยู่หลายวันว่าเป็นเพราะอะไร แต่จับทางได้แล้วว่าสาเหตุหนึ่งก็เพราะอยู่ดีๆ เราก็ได้สวมหมวกหนึ่งใบในนามของนักเขียน แถมมีผลงานเป็นพ็อกเก็ตบุ๊กของตัวเองในระบบสำนักพิมพ์ที่ดูมีคุณภาพเสียด้วย สิ่งนี้ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นความเหิมเกริม ลำพองใจ หรือประหม่า แต่มันก็ทำให้ธรรมชาติในการเขียนอะไรแบบไม่ต้องคิดของเรานั้นหายไป เหมือนกับที่เคยหายไปพักใหญ่ตั้งหนึ่งปีเต็มๆ ช่วงที่ไม่ได้เขียนบล็อกเลย
ผมรู้สึกว่ามันแย่ว่ะ อยากเขียนก็ต้องเขียนสิ ไม่ใช่รอให้รู้สึกว่าเป็นประเด็นที่หล่อพอแล้วค่อยลงมือเขียน เราไม่ได้เป็นพวกลึกซึ้งแบบที่เขียนอะไรจบประโยคแล้วเปลี่ยนโลกได้ซะหน่อย เหี้ยเอ๊ย
ขอบคุณแรงบันดาลใจจากบล็อกของคุณ @etalorkครับ คือเหี้ยมาก อยากเขียนก็เขียน เขียนออกมาแล้วเสือกดีด้วยนะ (*คำว่าดีในความหมายของผมคงไม่ใช่ดีแบบสาธารณะสักเท่าไหร่) ผมได้รับแรงบันดาลใจจากเขาจนต้องกลับมามองตัวเองและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง (แล้วก็บ่นแบบเดิมๆ งี้อีกครั้ง)
สัญญากับตัวเองครับ ว่าต่อไปนี้จะเขียนบล็อกเมื่ออยากเขียน และไม่ต้องห่วงหมวกบ้านั่นอีก (ส่วนเรื่องแคร์คนอ่านหรือไม่ อะไรยังไง ฯลฯ นั่นคงพูดจนไม่รู้จะพูดยังไงละ ก็ละไว้ละกันนะคราวนี้)
เย!
ทีนี้มาเข้าเรื่อง อยากจะฟื้นพลังตัวเองน่ะครับ เลยจะขอหัดเขียนอะไรสั้นๆ ง่ายๆ ให้เป็นนิสัยอีกครั้ง ผมเปิดบล็อกใหม่สองบล็อก จะเรียกว่าบล็อกก็กระไรอยู่ เอาเป็นว่าเป็นโน้ตสั้นๆ ที่คิดว่าจะบันทึกได้อย่างต่อเนื่องอย่างไม่เบื่อ และจะได้มีที่ทางรวบรวมอะไรที่ตัวเองอยากทำมานานเสียที โดยไม่ต้องมาปะปนกับบล็อกหลักนี่ (ที่ก็จะขยันเขียนมากกว่าเดิมแน่นอน)
บล็อกแรกคือ “ตีนใหม่หัดปั่น” (ride.iannnnn.com) เกิดจากการไปซื้อจักรยานพับสีขาวมาคันนึง (ทีแรกจะซื้อสีแดง แต่เมียบอกขาวสวยดีเลยเอา จบนะ) ตอนนี้ใกล้หมดภาระหน้าที่ความเป็นมนุษย์หุ่นยนต์ที่ต้องออกเดินทางเช้าเย็นทุกวันซ้ำๆ กันแล้ว เลยจะหาโอกาสมาหัดขี่รถเล่นเสียที เลยหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองด้วยการแวะจอดตามทางแล้วถ่ายรูป เห็นว่าระบบของ Tumblr มันง่ายดี ไม่ต้องมานั่งบริกรรมคาถามาก ยกมือถือถ่ายแชะปั๊บ ก็ออกมาเป็นบล็อกได้เลย เลยเอามาใช้กะมัน
บล็อกที่สองคือ “นิทานสี่ช่อง” (nitan.iannnnn.com) พอดีช่วงนี้ลูกกำลังมีพัฒนาการน่าสนใจ เลยอยากบันทึกไว้ เลยเล่าเป็นการ์ตูนละกัน ถือว่าเป็นภาคต่อจากการ์ตูนท้ายเล่มใน “คือปะป๊าครองพิภพ” ที่ได้รับเสียงตอบรับดีมากกๆๆๆๆๆกกๆๆๆๆๆ จนน้ำตาแทบไหล แถมอันนี้นี่ก็พยายามจะให้ง่ายด้วยการหยิบมือถือขึ้นมา วาดลงในนั้น (ใช้โน้ตสองจ้ะ) แล้วก็กดปุ๊บ โผล่ออกมาเป็นบล็อกเลย ไม่เยอะนะ โอเค แต่สวยไม่สวยหรืออ่านรู้เรื่องหรือมุกแป้กรึเปล่า นั่นก็แล้วแต่สติปัญญาในตอนนั้น ไม่กล้าให้ความหวังครับ 5555
ป.ล.
บล็อกหลักนี่ระบบหลังบ้านใช้ WordPress
บล็อกจักรยานใช้ Tumblr (ตั้งค่าให้มันยิงมาในโฮสต์เรา)
ส่วนบล็อกวาดการ์ตูนแซวลูกใช้ Blogger (นี่ก็ให้มันยิงเหมือนกัน)
สนุกดีนะครับ ได้ลองหลายๆ ระบบแล้วเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกัน เพลินดี
ป.อ.
ส่วนบล็อกเดิมที่เมียเป็นเจ้าของคือ bow.iannnnn.com นั้นก็เขียนแต่เรื่องลูกเหมือนเดิม แต่เมียขี้เกียจเลยไปโพสต์ใส่เฟซบุ๊กทวิตเตอร์มากกว่า 555 ก็มันง่ายดีหนิ ไม่เห็นแปลก
ป.ฮ.
สิ้นเดือนนี้ก็จะได้พักผ่อนละครับ ถึงต่อไปจะต้องเข้าออฟฟิศสัปดาห์ละครั้ง แต่เชื่อว่าเราจะเริ่มชิวอย่างจริงจังสมความตั้งใจละ เย้ๆๆ
หลังจากปล่อยทีเซอร์ก็แล้ว ปล่อยอีกรอบก็แล้ว แจกวอลเปเปอร์ก็แล้ว ผมก็ยังไม่กล้าแนะนำหนังสือที่ตัวเองเขียนครับ
นั่นเพราะตลอดระยะเวลาสี่เดือนที่ผ่านมา “คือปะป๊าครองพิภพ” มันเป็นเพียงจินตนาการร่วมกันของผมและเหล่ากอง บ.ก.สำนักพิมพ์แซลมอน ที่ต่างก็ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ และกังวลกันว่า มันจะเสร็จรึเปล่าวะ ใครที่เล่นทวิตเตอร์ ติดตามผมช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็จะเจอแต่เหตุการณ์หนีหนี้ ไม่สิ หนีเอาตัวรอดจากการทวงต้นฉบับ ไล่ล่าแม่งทุกโซเชียลเน็ตเวิร์กจากอี @freeclub จนจะโดนมันต่อยหลายครั้ง แต่ในที่สุด วันนี้ (31 มี.ค.56) ชาวบ้านแถบลาดปลาเค้าก็ต้องจารึกเป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ว่า หนังสือของผมพิมพ์เสร็จแล้วครับ! จะได้เห็นของจริงละครับ! ตื่นเต้นฉิบหายเลยครับ!
ด้วยความตื่นเต้น วันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของงานหนังสือประจำปิดเทอมใหญ่ปีนี้ แต่เป็นวันแรกที่จะได้เห็นหนังสือของตัวเอง เพราะได้รับข่าววงในมาว่าหนังสือจะเสร็จจากโรงพิมพ์ร้อนๆ พอดีในตอนเช้า ถึงแม้ไม่มีคิวเซ็นหนังสือตามตาราง แต่ผมก็หอบลูกหิ้วเมียไปยืนหน้าบูธของสำนักพิมพ์ (แผนที่บูธ) แล้วเปิดบูธเถื่อนอยู่ข้างๆ นั่งพูดคุยกับเพื่อนฝูงและน้องนุ่งที่ทยอยกันมาเจอกันทั้งแบบที่นัดและไม่ได้นัดซะเลย ดีใจจริงจริ๊งงงง
เอ้า ทีนี้มาเข้าเรื่อง เริ่มขายของกันซะที
Continue reading แนะนำหนังสือ “คือปะป๊าครองพิภพ”
ที่จริงบล็อกตอนนี้ออกจะประหลาดอยู่หน่อย ตรงที่ว่าอุตส่าห์บิ๊วเรื่องหนังสือมาตั้งสองสามตอน เพื่อจะเปิดตัวและโปรโมต “คือปะป๊าครองพิภพ” ที่ตัวเองเขียน แต่แบบ… ตื่นเต้นไง ลำดับไม่ถูกครับ เลยขออนุญาตสลับคิว ทำวอลเปเปอร์มาแจกเล่นๆ ก่อน แล้วเดี๋ยวขอตั้งสมาธิแป๊บนึง แล้วค่อยมาเล่าเรื่องหนังสือเล่มที่ว่ากันครับ
วอลเปเปอร์ทั้งหมดต่อไปนี้มีตั้งแต่ขนาดใหญ่บิ๊กเบ้งเท่าจอไอแมค 27″ น่ะ (บ้าบอ ทำมาทำไม ใครจะใช้ …อ้อ ตูเอง) ไปยันขนาดจอมาตรฐานสากลทั่วไป แถมยังมีขนาดแนวตั้งไว้เผื่อลงในไอแพดอีกอัน
อาจจะลายมือไก่เขี่ยหน่อยนะ แต่พอเอามาทำพื้นหลังจริงๆ แล้วพบว่าเรียบเท่ดีเหมือนกัน 5555 (ชมตัวเอง) ใครที่หน้ามืดดาวน์โหลดไปใช้ก็รบกวนถ่ายรูปมาอวดกันหน่อยนะครับ หรือถ้าอยากได้คำคมคำขวัญอื่นๆ ที่เกี่ยวกับลูกๆ เมียๆ (ทำไมเมียมีไม้ยมก!) อีกก็บอกได้ ถ้าขยันจะทำเพิ่มให้จ้ะ
ป.ล.
งานหนังสือมีวันที่ 29 มี.ค. – 8 เม.ย.56 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เหมือนเดิม ส่วนหนังสือ “คือปะป๊าครองพิภพ” ของผม (ยังไม่ได้เขียนบล็อกถึงแบบเต็มๆ เลย อ๊ายอาย ทำลิงก์ไปอ่านต่อในเพจของสำนักพิมพ์ก่อนละัน) จะมีวางขายในงานด้วยครับ น่าจะเริ่มขายตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.นี้แหละมั้ง ลด 20% ด้วยนะ แต่ถ้าซื้อตามร้านทั่วไปก็ลองขอต่อราคาจากแม่ค้าเอา ถ้าไม่โดนตบก็อาจจะได้ลดบ้าง
ป.อ.
ผมไปเฝ้าบูธในวันเดียวกันตั้งแต่ช่วงบ่ายโมงเป็นต้นไปครับ ถ้าสนใจก็ไปดูได้ที่บูธสำนักพิมพ์แซลมอน Y11 โซน Hall A นะ ถ้าไปไม่ถูกก็ดูภาพนี้เลย
ป.ฮ.
ความรู้ที่ได้จากการทำหนังสือคือเวลาพิมพ์ “…” ให้ใช้สามจุด ที่ผ่านมาเคยใช้สองจุดมาตลอด ต่อไปนี้จะหัดละ
ป.ฮ.ฮ.
ว่าจะไม่เขียนยาว แต่มันตื่นเต้นไง โอ๊ยๆๆๆๆๆ ขนาดดึกแล้วนะเนี่ย