ถ้าคุณเจอคนโรคจิตแอบถ่ายใต้กระโปรงสาว จะทำยังไงกันครับ

บล็อกนี้ถือว่าเขียนเพื่อไถ่โทษ ที่ตัวเองดันไม่มีปฏิภาณไหวพริบพอที่จะทำอะไรเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันเวลา แต่ก็ทำให้เข้าใจว่าพอเกิดเหตุอะไรขึ้นแบบปุบปับ มันไม่มีเวลาไตร่ตรองเพื่อแก้ปัญหาได้ คุณจึงควรเข้าใจธรรมชาติของการแสดงความเห็นตามเว็บบอร์ด ที่มักมีคนบอกว่า “ถ้าเป็นเรานะ เราจะ—–” ยังงั้นยังงี้ อยากบอกว่าตอนเกิดเหตุการณ์จริงนั้นมันไม่เหมือนกับการแสดงความเห็นหลังเหตุการณ์ครับ

เรื่องมันมีอยู่ว่า วันนี้ผมเจอคนโรคจิตแอบถ่ายใต้กระโปรงสาวออฟฟิศคนนึงที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต ตอนเวลาประมาณ 1 ทุ่มครับ

ผมเลิกงาน และเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าตามปกติ ซึ่งโดยปกติก็เป็นคนชอบชมวิวอยู่แล้ว โดยเฉพาะวิวอะไรขาวๆ น่ะ :51: พอเจอก็เหลือบๆ พอน่ารัก ไม่ได้จะจ้องค้าง หรือตามกลับบ้าน หรือแม้แต่พุ่งเข้าไปถูกเนื้อต้องตัวอะไร

พอดีว่าพอขึ้นบันไดเลื่อนออกจากอาคาร Park Ventures มาปั๊บ ก็มีสาวออฟฟิศคนนึงเดินอยู่ข้างหน้าพอดีครับ (อยากจะอธิบายรูปพรรณสัณฐานแบบให้อ่านแล้วนึกภาพอกแต่ไม่ให้รู้สึกว่ากำลังละลาบละล้วงโลมเลีย ทำไงดีวะ) ..เอาเป็นว่า นึกภาพหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปลายๆ ที่รู้ตัวเองดีว่ามีของดีตรงความขาวจั๊วะ หุ่นดี และขาเรียวสวย ก็เลยแต่งตัวเซ็กซี่จนเป็นความเคยชินที่ไม่ได้ระวังตัวอะไร ผมจำไม่ได้ว่าใส่เสื้อสีอะไร แต่กระโปรงสั้นเหนือเข่าไปสักเกือบคืบ เป็นผ้าย่นๆ แบบเสื้อตุ๊กตาน่ะ ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร และสีน้ำเงินสดแปร๊ดๆ ล่อตาสุดๆ เลยนะ แบบ มึงดูกูสิ กูใส่ใส ดูเลยๆ … เมื่อตัวมารมันสั่งแบบนี้ ผมก็เลยเหล่แว้บๆ พอกระชุ่มกระชวยบ้างสิครับ แฮ่..

rokjid-01
(ตัวจริงไม่ได้ล่ำขนาดนี้นะครับ หุ่นดีมาก แต่ผมมีปัญญาวาดแค่นี้แหละ ได้ทีเดียวด้วย ชาตินี้คงวาดไมได้อีกแล้ว)

ทีนี้พอผ่านด่านตื๊ดตั๋ว (อีตั๋วตรากระต่ายนี่โคตรกาก กว่าจะตื๊ดได้แต่ละที สะดุดแล้วสะดุดอีก) เธอคนนี้ก็เดินนำหน้าผมไปในระยะที่ห่างพอสมควร แล้วพอเดินตามขึ้นบันได เพื่อจะไปรอคิวรถไฟฟ้าเนี่ย มันก็ต้องมองขึ้นไปข้างบนใช่ปะ แต่พอสายไปเจอะอะไรขาวๆ ตรงหน้า มันจะเขิน จ้องนานไม่ได้ น่าเกลียด เลยต้องหลบตาโบ้ยมามองข้างๆ (ที่แท้เกรงว่าคนที่เดินตามมาข้างหลังจะครหาตะหาก ไม่งั้นคงมองนานกว่านี้อีกหน่อย ..แฮ่) อ้อๆ คนเดินขึ้นบันไดกันไม่เยอะนะครับ มีประมาณ 5-6 คนได้มั้งถ้าจำไม่ผิด

และแล้วก็มีหมอนี่เดินมาครับ นึกหน้าและท่าทางคล้ายๆ คุณป๋อมแป๋มในเทยเที่ยวไทยน่ะครับ แต่อันนี้ใส่ชุดพนักงานบริษัทธรรมดาทั่วไป (ไม่ได้ใส่สูทนะ) ก็แซงผมขึ้นไปอยู่ข้างหน้า

ผมเบี่ยงตัวไปด้านขวา จะได้เดินเฉลี่ยๆ ไม่ชิดกันมาก ทีแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แค่เซ็งๆ ที่ไอ้บ้านี่มาบังกู ก็คิดว่ามันจะรีบ และเดินแซงไปข้างบนซะอีก ..ที่ไหนได้ มันหยุดเร่งความเร็วลงตรงบันไดขั้นถัดจากสาวตึงกระโปรงสั้นคนนั้น แล้วเริ่มลงมือ “ในเวลาอันรวดเร็ว” ครับ

rokjid-02

จังหวะนั้นมันแค่เสี้ยววินาทีจริงๆ แต่เห็นเลยว่ามันเนียนมาก แต่เนียนยังไงก็คงไม่ได้กะว่าผมจะเบี่ยงตัวหลบมาทางขวาเพื่อจะได้ดูถนัดๆ มันเลยกระทำการอย่างใจเย็น แต่มืออาชีพมาก

เสี้ยววินาทีถัดมา ตัวละครทั้งสามคน (ผม เธอ มัน) ก็ไปถึงชานชาลา และรอรถไฟ จังหวะนั้นมันยังใหม่มาก นึกไม่ทันว่าต้องลำดับเหตุการณ์ยังไง อะไรสำคัญควรทำก่อนดี

ผมเลยหันไปมอง มันเดินไปหลบ (หลบจริงๆ นะ) ตรงหลังเสา พิงราวของสถานีด้านหลังนู่น แล้วควักโทรศัพท์ที่เพิ่งถ่ายตะกี้ออกมาชื่นชมผลงาน ส่วนแม่นางคนนั้น.. ยังคงคุยโทรศัพท์อยู่ต่อไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวอะไร และผมเอง ยืนต่อแถวเข้าคิวขึ้นรถอยู่ (คนละแถวกะแม่นาง พอดีแถวมันไม่ยาว เลยกระจายๆ กันยืน) จังหวะนี้ผมเงอะงะมาก

และเหตุการณ์ก็ไม่ได้จบแบบในหนัง ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง

.. จบ ..
อ้ะเดี๋ยวๆ ขอต่ออีกนิด

ผมคับแค้นมาก คือแค้นตัวเองว่าทำไมไม่ตัดสินใจทำอะไรสักอย่างให้มันเกิดอะไรขึ้นสักหน่อย แต่มานึกดู การที่มาใคร่ครวญทีหลังมันมีเวลาให้คิดนานไง ผิดกับสถานการณ์ตรงนั้น ที่ฉุกละหุกมาก จนไม่ทันได้ตั้งตัว สิ่งที่พอจะทำได้คือทวีตเล่าเหตุการณ์และเตือนภัยให้กับคนอื่นที่อาจจะเจอ หรืออาจจะโดนแบบนี้ หรืออาจจะเป็นคนแอบถ่าย ว่าต่อไปมึงต้องเนียนกว่านี้

 

 

ปิดท้ายด้วยความเห็นส่วนหนึ่งจากผู้อ่านทางบ้าน มีหลายความเห็นน่าสนใจครับ ทีแรกคิดว่าจะเจอแต่แบบ “ควรเตือนนะ เป็นเราจะขอบคุณ” (บางคนไม่ได้อ่านทวีตก่อนหน้าก็จะคิดแค่ว่าถ้าเจอจะทำยังไง ไม่ได้นึกภาพว่าเหตุการณ์มันปัจจุบันทันด่วนไง) แต่กลับมีคำตอบที่ว่า “อย่าเตือนเลย” จากผู้หญิงกลับมาด้วยครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จบครับ แล้วคุณล่ะ?