เมื่อวานปั่นไปดูม็อบมาครับ (อย่าเพิ่งอี๋ อ่านบล็อกที่แล้ว: ทัศนคติด้านการเมืองของข้าพเจ้าก่อน)
คืองี้ ตั้งใจว่าจะลองไปดูบรรยากาศการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสักวัน และตั้งใจว่าจะลองปั่นจักรยานไป เลยเลือกเอาวันที่ท่าทางอากาศจะไม่ร้อนมาก ก็คือมีเมฆเต็มฟ้าเนื่องจากพายุดีเปรสชันลูกก่อนหน้า แถมยังเป็นวันศุกร์ด้วย คิดว่าบรรยากาศช่วงหัวค่ำน่าจะคึกคักดี เพราะสถานการณ์ที่นักการเมืองกำลังยื้อกันไปยื้อกันมา และบิ๊วอารมณ์ผู้ติดตามข่าวนี้อยู่ให้รู้สึกว่ากูต้องไปดูของจริงหน่อยละ ทำให้วันศุกร์ที่คาดไว้ว่าคนน่าจะมากันเยอะ ก็เยอะจริงๆ รวมพนักงานออฟฟิศที่วันเสาร์ไม่ต้องทำงาน ก็สามารถมาร่วมฯ ได้อีก ด็โอเค บ่ายสามปั๊บ จะเริ่มปั่นไปละกัน
แต่ปัญหาคือ แม่งไกล..
เนื่องจากผมเป็นพวกมนุษย์หน้าคอม ที่ร่างกายปวกเปียก คือไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเลย ดังนั้นกล้ามเนื้ออะไรก็ไม่มี จักรยานที่มีปกติผมก็เอาไว้ปั่นแค่ซื้อก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน หรือปั่นเล่นตอนไปเที่ยว ที่เคยคึกสุดก็ปั่นจากเซ็นทรัลเวิลด์กลับมาบ้าน กับปั่นจากบ้านไปเมืองทองธานี แวะนอนบ้านพี่ติ๊กพี่เจน แล้วเช้ามาก็ปั่นต่อไปปทุม เรื่อยๆ ก็งวดละไม่ถึง 20 กิโล เท่านี้ก็เมื่อยขาและปวดไข่แล้ว แต่นี่ลองดูระยะทาง มันประมาณ 20 กิโลนิดๆ ไปกลับก็ 40 เศษๆ นี่กูจะตายเอาไหมนะ แถมถ้าขากลับเกิดดึกขึ้นมา จะโดนโจรปาดคอแบบไอ้ปิง (เพื่อนที่โดนจี้ทำร้ายก่อนนักข่าวที่เป็นข่าวดังๆ เมื่อช่วงต้นปีนี้แค่วันเดียว) ไหมนะ แล้วถ้าฝนตกขึ้นมา จะแบกขึ้นแท็กซี่ดีไหมนะ เขาจะรับไหมวะ เปียกแบบนั้น ฯลฯ
ก็เลยช่างแม่ง ให้ได้ปั่นออกมาก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน
เลยถีบรถมาเรื่อยๆ ครับ พบว่าบ่ายสามครึ่งที่ฟ้ากำลังครึ้มๆ นั้นปั่นสบายมาก ไม่ร้อน ตัวไม่เหนียว แม้ไม่ได้พกน้ำติดตัวมาก็ปั่นได้ยาวจนเกือบถึงที่หมายเลย
ที่บอกว่าเกือบ ก็เพราะหลงครับ ไปหลงเอาตั้งกะข้ามทางรถไฟแถวถนนพระรามห้าพระรามหก แล้วก็ขี่มั่วไปเรื่อยๆ จอดดูแผนที่กูเกิลเรื่อยๆ ถนนแมวอะไรไม่รู้จักสักเส้น แต่เชื่อว่าที่สุดแล้วมันต้องไปถึงจนได้ล่ะน่า
แล้วก็มาถึงครับ
คือพอคุ้นๆ กะถนนแถวสุโขทัย พิษณุโลก (แค่ชื่อถนนก็งงแล้วเห็นมะ) ปั๊บ หันไปมองทางซ้าย อ้าว แม่งเขมรเฉยเลย
คือมันเป็นแนวสกัดม็อบของตำรวจน่ะครับ มีแผงแบริเออร์ สลับกับลวดหนามเป็นทุ่งใหญ่นเรศวรเลย
โดยฝั่งที่ผมเอากล้องไปตั้งไว้ข้างบนเนี่ย สูงสัก 180 ซ.ม.ได้ กะว่ากันซอมบี้บุกได้เลยนะ
มองฝั่งนู้นก็เห็นตำรวจในชุดปราบจราจลเต็มยศนับร้อยๆ นาย แบบที่เคยเห็นแค่ในภาพข่าว แต่นี่พอเจอจริงๆ ก็หลอนอยู่เหมือนกัน แบบ ถ้าเกิดมีเหตุอะไรขึ้นมา กูอยู่ตรงคงปั่นหนีไม่ทันแน่ๆ
ถ้าจำไม่ผิด ตรงนี้คือสะพานมัฆวานรังสรรค์ครับ หันกลับมาทางฝั่งเรา ก็มีกลุ่มประชาชนจำนวนมาก นั่งๆ ยืนๆ คุยกันบ้าง ถ่ายรูปบ้าง ส่วนหนึ่งก็เตรียมอุปกรณ์ไว้เขียนและพ่นสีกำแพง เป็นกราฟิตี้หรือจะเขียนด่ารัฐบาลก็แล้วแต่จะสะดวก
ได้ยินเสียงปราศรัยบนเวที เนื้อหาเกี่ยวกับคดีเขาพระวิหาร ฟังแล้วไม่หยาบคายนะครับ ต่างจากภาพที่คิดไว้พอสมควร (เข้าใจว่าเป็นนักวิชาการมาให้ข้อมูล มากกว่านักรณรงค์ที่เน้นปลุกระดม) พอเดินไปถึงช่วงที่เป็นเวที ก็พบคนจำนวนหนึ่งนั่งฟังอยู่ ไม่เยอะครับดังภาพข้างบน นอกนั้นก็ท่าทางจะทยอยมาสมทบเรื่อยๆ
คือเราตามข่าวแค่ในเว็บกับในทีวี (ซึ่งก็ดูผ่านยูทูบอีกที) ก็เลยไม่ค่อยรู้ว่าม็อบแต่ละม็อบมันอะไรยังไงกัน คือผูกพิกัดแผนที่ไม่ถูกน่ะ พอมาเห็นของจริงเลยเข้าใจครับ เวทีนี้น่าจะเป็นของ คปท. โดยอยู่บนถนนราชดำเนิน (กลางใช่ปะ) หันหน้าไปฝั่งทำเนียบรัฐบาล โดยแนวรบของตำรวจก็ปกป้องอยู่ฝั่งทำเนียบฯ นี่เอง
ฟังสักพักก็ปั่นต่อมา เลยกระทรวงศึกษาธิการ แล้วก็แยกที่เลี้ยวไปขึ้นสะพานพระรามแปดน่ะครับ ตรงนี้การจราจรเปิดปกติดี โดยมีพี่วินตั้งคิวรออยู่ตลอดทาง เชื่อเหลือเกินว่าช่วงนี้คือช่วงโกยเงินเลยแหละ เพราะคนเข้าออกกันเยอะมาก
อีกม็อบนึงอยู่ตรงแยกผ่านฟ้าครับ เจ้าภาพคือกองทัพธรรม มีเต็นท์ใหญ่ๆ เหมือนกัน แต่ไม่ได้ตั้งขวางตรงแยกนะ คืออยู่บนถนนเส้นเดียวกะม็อบตะกี้ ดูเป็นสัดเป็นส่วนดี
มีคนฟังประมาณนี้ครับ เต็นท์ใหญ่ๆ นี้มีสองหลัง พอดีเลนส์กล้องมันเก็บภาพกว้างไม่ได้ (แบกขี่จักรยานมานะเว้ย)
หลักฐานของการปักหลักครับ มีเต็นท์อยู่เต็มไปหมดเลย
ก่อนหน้านี้ผมจะ “อะไรวะ” เวลาเห็นใครที่แสดงความเห็นด้านการเมืองแบบเข้าข้างรัฐบาล แล้วจะบอกว่าตรงข้ามกับแดงคือเหลือง เฮ้ย คือประชากรไทยมันถูกเหมารวมจนเหลือแค่นี้เหรอวะ แล้วสีเหลืองนี่คือยังไม่สูญพันธุ์เหรอวะ… พอมาได้เจอจริงๆ ก็พบว่าคนเสื้อเหลือง (แล้วเรียกตัวเองว่าเหลืองด้วยนะ) นั้นมีอยู่เยอะมากครับ คือปกติตัวเองจะคลุกคลีแต่กับข่าวสารจากฝั่งเสื้อแดง ฝั่งที่เรียกตัวเองว่าลิเบอรัลงี้ พอมาเจอว่าเออ มีกลุ่มคนที่มีรสนิยมด้านการเมืองแบบที่เห็นจากเว็บผู้จัดการอยู่เยอะจริงๆ นะ นี่ก็ช่วยเปิดกบาลตัวเองให้หายโลกแคบได้ดีเหมือนกัน
ฟ้าเริ่มมืด ขยับตัวไปหาอนุสาวรีย์ครับ ก็เห็นว่าอยู่ไกลลิบๆ นู้น แต่ที่แน่ๆ คือการจราจรแถวนี้เป็นอัมพฤกษ์ไปแล้ว ราชดำเนินแถบผ่านฟ้ากลายเป็นที่จอดรถไปเลย
ถึงชายแดนของม็อบใหญ่แล้วครับ ปลายแถวอยู่แยกที่มีป้อมมหากาฬ โดยมีพี่วินประจำการอยู่ 1 กองร้อย
เนื่องจากบล็อกจะยาวไปละ ขอซอยแบ่งหน้านะครับ กดดูต่อเอาจ้ะ