ยืมหนังสือดีๆ มาอ่านฟรีจากห้องสมุดออนไลน์ โครงการอ่านเปลี่ยนโลก

ผมดูรายการสัมภาษณ์คุณช่อสักรายการ จำไม่ได้แล้ว ตอนจบรายการ คุณช่อโฆษณาโครงการนึงของคณะก้าวหน้า ชื่อว่า Reading Revolution อ่านเปลี่ยนโลก

ใจความของโครงการที่ทำให้สนใจก็คือ เขาเป็นห้องสมุดออนไลน์ที่คัดหนังสือดีน่าอ่านมาให้เราได้ อันฟรีถึงบ้านเพียงกดยืมในเว็บให้เวลาอ่านหลายวันมากด้วยนะเสร็จปั๊บก็ส่งคืนทางไปรษณีย์ไทยซึ่งเขาแนบซองติดแสตมป์มาให้ด้วยเท่ากับเราอ่านฟรีไม่ต้องเสียตังค์อะไรเลยสักบาทเดียว

นี่พิมพ์ด้วยเสียง ลูกสาวได้ยินเข้าเลยหันมาถามว่า “แล้วเขาจะมีรายได้ยังไง”

คำตอบคือเขาเปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วไปแล้วมีสปอนเซอร์ใหญ่ที่ให้ทุนเยอะก็คือโก๋แก่ (ลูกถามว่าคือใครเหรอ) — เป็นขนมถั่วๆ น่ะ หนูเคยเห็นไหมที่เคยขายในเซเว่นน่ะ / ใช่ที่เป็นรูปลุงมีผมยาวๆ ปะ / ใช่ๆ (นี่ประทับใจเลยขอชื่นชมเขาหน่อย)

ผมไม่แน่ใจว่าโครงการนี้มีที่มาที่ไปยังไงเพราะไม่ได้ติดตามมาก่อน แต่พอรู้ว่ามีหนังสือดีๆ ให้อ่านฟรี เรามันชอบของฟรี ก็เลยกดเข้าไปดูในเว็บทันทีที่คุณช่อพูดว่า เอ่อ

ปรากฏว่าหนังสือที่ลิสต์ไว้ในหน้าเว็บ มีแต่หนังสือที่น่าอ่านทั้งนั้นเลยจริงๆ ด้วย! (ตัวอย่างหนังสือดี 21 เล่ม) ก็เลยลองจิ้มๆ จัดมาก่อน 1 เล่มโดยการกรอกแบบฟอร์มในเว็บ

สักพักก็มีอีเมลมายืนยัน แล้วไม่นานก็มีหนังสือมาส่งถึงบ้านจริงๆ!

แน่นอนว่ามีซองและแสตมป์แถมมาให้ด้วย แถมยังมีโปสการ์ดแถมมาอีกแผ่น

ประทับใจจนอยากบอกต่อ มายืมหนังสือกับโครงการนี้กันครับ!

ส่วนข้างล่างนี้ก๊อปมาจาก description ยูทูบข้างบน :

“อ่านเปลี่ยนโลก” (Reading Revolution) คือ โครงการส่งต่อหนังสือ ขยายพรมแดนความรู้ เปิดจินตนาการความเป็นไปได้ใหม่ๆ ผ่านการอ่านของ Common School โดย คณะก้าวหน้า

เราคัดเลือกหนังสือที่กระตุ้นให้เกิดจินตนาการถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อนำมาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านในรูปแบบการยืมและส่งต่อ (Book Sharing) หลังจากนั้น จะมีการจัดวงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน (Reading Group)

การเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ไม่สามารถอาศัยกำลังทางกายภาพและจำนวนปริมาณเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีความคิดชี้นำเพื่อไปสู่ความเปลี่ยนแปลงใหม่ การทำงานทางความคิดจึงเป็นขบวนการสำคัญ ดังที่ Lenin กล่าวไว้ว่า “หากปราศจากทฤษฎีปฏิวัติ ย่อมไม่มีขบวนการปฏิวัติ” หากความคิดความเชื่อแบบเดิมยังคงดำรงอยู่ การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การต่อสู้แย่งชิงเพื่อแตกหักกับความเชื่อเดิม สร้างความคิดความเชื่อใหม่จึงจำเป็น

การอ่าน คือ วิธีการเข้าถึงความรู้ วิธีการบ่มเพาะความคิดความเชื่อ ดังนั้น ความคิดใหม่จะเกิดขึ้นได้ ย่อมขึ้นกับว่าเราอ่านอะไร อ่านกับใคร และเข้าถึงการอ่านได้อย่างไร

ยืมหนังสือฟรี! pgmf.in.th/https://progressivemovement.in.th/article/common-school/3350/reading-revolution/

—–

สนับสนุนการทำงานของ Common School ได้ทางบัญชีธนาคารกรุงศรี ชื่อบัญชีมูลนิธิคณะก้าวหน้า เลขที่บัญชี 493-1-08675-7

ป.ล. รู้สึกว่าพิธีกรจะถามคุณช่อว่า “ถ้าหนังสือหาย ชำรุด หรือคนที่ยืมไปแล้วไม่คืนล่ะจะทำยังไง” คุณช่อตอบว่า “ก็ต้องช่วยๆ กัน…”

ขอบันทึกเรื่องการลง สว. #สมัครเพื่อโหวต ไว้อ่านทีหลัง

นี่เป็นสิ่งที่จะรู้สึกเสียดายมากที่ไม่ได้ลงมาลุย และในทางกลับกัน มองอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด การได้พบมิตรภาพใหม่ๆ (แบบจริงๆ ไม่ใช่แบบนางงาม) ตอนอายุปูนนี้ เฮ้ยมันเป็นประสบการณ์ที่วิเศษนะ

ได้รู้จักคนที่ชาตินี้ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ ได้เข้าไปสัมผัส แก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเกมพิสดาร ที่เชื่อเถอะว่าคนออกแบบก็ไม่ได้คิดว่ามันจะยุ่งขนาดนี้ ได้รู้จักมิติลึกลับมากมายที่มีอยู่จริง แต่เราไม่เคยเห็น
ก็ได้เห็นแล้ว และคุ้มค่ามาก

นี่ยังไม่ได้พูดถึงการพบพลังของผู้คน ทั้งร่วมอุดมการณ์ ต่างอุดมการณ์ ไม่มีอุดมการณ์ ไม่มีเหี้ยอะไรก็มี หรือมีเหี้ยเยอะมากก็มี หวังดีต่อชาติ หวังดีต่ออนาคต หวังดีต่ออดีต หวังดีต่อตัวเองและพวกพ้องก็มี ซึ่งความหวังดีเหล่านั้นของแต่ละคน จะถูกเปลี่ยนแปรเป็นการกระทำแบบไหน

จะมากันแบบแฟร์ๆ จะกลายร่างเป็นงูพิษ จะแทงตรง แทงหลัง มีหมด มีครบ

เหมือนย่อประสบการณ์ชีวิตห้าปีสิบปี มารวมกันในสองสัปดาห์ โดยเฉพาะวันออกศึกจริง

การเลือกรอบอำเภอที่ว่ามีเรื่องเล่านับร้อย พอเจอรอบจังหวัดเข้าไป คราวนี้นับพัน จนรอบอำเภอกลายเป็นสนามเด็กเล่นบุนวมปลอดภัยสำหรับคุณหนูไปเลย

และทุกอย่างที่ว่ามา คือพิธีกรรมการคัดเลือกกลุ่มคนเข้าไปนั่งในเก้าอี้วุฒิสภา ที่สามารถกำหนดชะตาของประเทศได้ ให้คุณให้โทษ ให้ความหวัง ความฝัน ผลประโยชน์อีกมากมาย โดยที่ลูกหลานเราจะโตไปอยู่ท่ามกลางสิ่งที่คนเหล่านี้เป็นผู้กำหนด

และเชื่อเถอะ ในสมรภูมิสุดโหดที่เราเพิ่งพลีชีพจากมา เรายังเห็นประกายความหวังอยู่ไม่น้อย

ขอบคุณเมียที่อนุมัติงบ 2,500 บาท
ยอมสละเวลาอยู่กับลูกๆ แทนให้ตลอดที่ผ่านมา
ยอมรับได้กับการสูญเสีย productivity ดองงานสารพัด

ตอนนี้ลีฟกรุ๊ปไลน์ที่มีแต่ใบหน้าผู้สูงวัยเป็นร้อยๆ พันๆ ฟลัดท่วมจออกมาหมดแล้ว

ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป เราจะกลับมา
กลับมาดูแลลูกเหรอ
เปล่า กลับมาอ่านการ์ตูน! เสี้ยนมาก
วันพีซ เชนซอว์แมน อาคาเนะ วางกองจนฝุ่นเกาะแล้ว

รวมพลังอะเวนเจอร์สแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา

เมื่อคืนจะนอน อยู่ดีๆ ก็เจอฟีดน่าสนใจไหลเข้ามา เลยตาสว่าง ยืดเวลานอนไปอีกหน่อย

หลายๆ โครงการของรัฐบาลนั้น เราๆ ท่านๆ ก็รู้กันว่ามันโคตรจะราชการ (และโคตรจะขับเคลื่อนด้วยอำนาจการเมือง) ไม่ว่าจะเกิดมาในยุคประชาธิปไตยกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม ที่พอโครงการอนุมัติสร้างจริงนั้น แม่งจะดู “รีบ” เสียเหลือเกินไปทุกโครงการ แม้ข้อความสามบรรทัดแรกจะดูสวยหรูแค่ไหนก็ตาม

โครงการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาของรัฐบาลทหาร ที่ดูเหมือนจะดี คือจะให้คนเดินและจักรยานวิ่งชมวิว (ฟังดูดีนะ) แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็คลอดมาเป็นถนนแข็งๆ แห้งๆ และโคตรจะราชการ ไม่ต่างจากอีก 87,609,335 โครงการที่เคยผ่านมา ว่าขอเบิร์นงบให้หมดทันปีนี้หน่อยเถอะ เห็นแล้วก็…

เอาเป็นว่าเราข้ามเรื่องบ่นซ้ำๆ ซากๆ ไปเลยละกันครับ มาเรื่องใหม่เลยดีกว่า

ขนาดผมไม่ได้อยู่ในวงการสถาปนิกนี่ยังรู้เลยว่า การที่มึง เอ๊ย คุณเอาถนนแข็งๆ มาวาง โป้ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปิดไม่ให้แสงส่องลงไปในน้ำทั้งสองข้างเท่าๆ กันนั้นมันสร้างความเลวร้ายให้กับทั้งระบบนิเวศแค่ไหน ไม่ต้องกับสิ่งแวดล้อม สัตว์โลกพืชพรรณแพลงตอนที่ฟังดูไกลตัวหรอกครับ เอาแค่ชาวบ้านที่อยู่ริมฝั่ง วันหนึ่งมีถนนมาคั่น​โป้ง ระหว่างพื้นที่ชีวิตของตัวเองในระดับสเกลมนุษย์ กับแม่น้ำที่เคยตื่นมาแปรงฟันแล้วบ้วนหรือฉี่ลงน้ำ แต่ระยะทางของแผ่นคอนกรีตที่กำลังจะมานั้นแม่งใหญ่เบิ้มเท่าๆ กับเลนถนนยักษ์ๆ ที่ขีดโดยไม่ได้ใช้หัวใจ ไม่ได้สนสี่สนแปดอะไร สนอย่างเดียวคือความอารยะในทรรศนะของท่าน

แน่ใจนะว่านี่ผ่านการประกวดแบบมาแล้ว (เอ๊ะหรือไม่มี…)

แถมแนวถนนของโครงการนี้แม่งนับได้หลายกิโล และทำท่าว่าถ้าไม่มีใครขัด ก็จะขยายยาวออกไปอีก “ตลอดแนวชายฝั่ง”

เรา–ชาวบ้านที่ไม่ได้อะไร ก็ยังรู้สึกว่าแปลกๆ แหม่งๆ แล้วคนที่ซีเรียสเรื่องนี้โดยตรง อย่างวงการสถาปนิกที่เขามีความรู้ และมองเห็นว่าต่อไปนี้มันจะมีบั๊กชิ้นใหญ่มากกับอนาคตของลูกหลานเรา และอีกสารพัดปัญหาที่จะกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตอย่างชัดเจน

เขาจึงออกมารณรงค์กันครับ

การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นจากหลายทาง มีการรวมตัวกันเป็นภาคีทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ในทางการนั้นเขาก็จับมือกันยื่นหนังสือไปยังรัฐบาลเพื่อขอทบทวนโครงการ ชี้ให้เห็นข้อเสียที่จะเกิดขึ้น โอเค อันนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของคนและสมาคมที่ถนัดสายทางการไป

โลโก้เกือบสวยแล้ว (ชอบ พพพ)
โลโก้เกือบสวยแล้ว (ชอบ พพพ)

อ่าน: ผังเมืองจุฬาฯนำ ‘ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา’ ค้านรูปแบบทางเลียบเจ้าพระยา

กับอีกขานึงที่เวลารณรงค์เขาจะต้องหาแนวร่วมด้วยการใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางรณรงค์ หลักๆ คือบอกชาวบ้านให้รู้ว่าเออ อีโครงการของรัฐบาลนี่มันมีปัญหาแบบนี้ เราเห็นแบบนี้ คุณเห็นด้วยไหม ถ้าไม่แน่ใจ ลองดูสเต็ปถัดไป

เป็นสเต็ปที่ผมสนใจมากจนตาลุกวาว พี่แกมีโครงการ “Sketches for the River Challenge” ด้วยการท้าทายสถาปนิก นักออกแบบแต่ละคน ลองสเก็ตช์แบบมาแจมกัน และท้าต่อไปอีก 3 คน ว่าความรู้และไอเดียของมืออาชีพ (และมือสมัครเล่น) อย่างคุณนั้นจะเอามาช่วยโลกได้แค่ไหน… ความมันส์มันเลยเกิดขึ้นตรงนี้ครับ

คืออย่างผมนี่ตอนเรียนถาปัด (ใช่ เคยเรียนมา แต่ไม่เหลือความรู้แล้ว) ในวิชาดีไซน์ปีแรกๆ สิ่งหนึ่งที่สนุกมากๆ ก็คืองานที่เรียกว่า “Sketch Design” โดยอาจารย์จะโยนโจทย์ลงมา โป้ง ให้เอาไปคิด ออกแบบและนำเสนอไอเดียทั้งหมดลงในกระดาษ A2 โดยไม่จำกัดกระบวนการนำเสนอ (แน่นอนว่ากลวิธีในการนำเสนอแบบเจ๋งๆ ก็ถือเป็นคะแนน) เสร็จแล้วส่งมา ตอนให้คะแนน อาจารย์ก็จะหยิบงานของแต่ละคนมาเปิดดูหน้าชั้น และวิจารณ์กันต่อหน้าเพื่อนร่วมวิชาชีพแบบสดๆ และแสบๆ

ส่วนมากของผมนี่คือโดนสับเละไม่มีชิ้นดี แต่สนุกก็คือสนุก ถึงจะเจ็บปวดแต่ก็สนุก…

แต่พอยุคโซเชียลมาเต็มแบบนี้ Sketch Design ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในกระดาษอย่างเดียว แถมเฟซบุ๊กแม่งแท็กได้ สนับสนุนนโยบาย crowdsourcing idea เท่านี้ความมันส์ก็เลยเกิดขึ้น

ลองดูตัวอย่างผลงานได้ครับ

มุมมองจากภูมิสถาปนิก คุณอรรถพร คบคงสันติ Pocco Kobkongsanti

Posted by ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา on Wednesday, May 27, 2015

เนี่ย วิธีนำเสนอเป็นขั้นเป็นตอนและเห็นกระบวนการคิด สนุกกกก

Urban Design Guidelines ช่วยเสริมการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำได้อย่างไร / ขอบเขตงานของสถาปนิกผังเมือง (urban designers) ที่เชื่อมต่อกับงานของภูมิสถาปนิก (landscape architects) โดย SaKrapat Anurakpradorn

Posted by ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา on Wednesday, May 27, 2015

“ ทางกลุ่ม Friends of the River (FOR) ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม Sketchs for the River Challenge โดยส่งต่อคำท้าไปยังผู้คนร…

Posted by Friends of River on Monday, May 25, 2015

หรือบางทีก็ใช้วิธีนำเสนอแบบอธิบายให้เห็นภาพ พร้อมกรณีศึกษาอย่างเช่นโพสต์นี้

อยากเขียนอธิบายให้คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการออกแบบได้เข้าใจถึงประเด็น ทางเดินริมน้ำเจ้าพระยา 14 กม. ที่มีนักวิชาชีพ/วิชาการม…

Posted by Prapan Napawongdee on Sunday, May 24, 2015

เห็นไหม สนุกออก เนอะะะะะ

พอเท่านี้ก่อนครับ ต้องไปส่งลูกเข้าโรงเรียนแล้ว ถ้าสนใจเชิญอ่านและติดตามได้จากหลายเพจครับ เช่น ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา, Friends of River, TALA Thai Association of Landscape Architects, ฯลฯ (ผมไม่แน่ใจว่าเพจไหนคือเพจหลัก แต่กระจายๆ แบบนี้ก็ดี)

ที่จริงก็อยากเห็นมันลามทุ่งไปถึงคนนอกวงการด้วยครับ ถึงจะมีพื้นความรู้ต่างจากสถาปนิกและภูมิสถาปนิกมืออาชีพก็ตาม แต่งานระดมไอเดียแบบนี้มันต้องการความเห็นและทัศนคติที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดว่าจะถูกผิดหรือรู้มากรู้น้อยกว่ากัน แต่มันคือการแชร์!

#แชร์ไปให้ถึงบิ๊กตู่

รีวิวห้องสมุดลาดปลาเค้า ห้องสมุดที่เมพเกินคาด

พอนับนิ้วดู ผมอาศัยอยู่ลาดปลาเค้ามาหกเจ็ดปีแล้วครับ ที่นี่มีศูนย์กลางชุมชนคือวัดลาดปลาเค้า ที่ผมเองก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเขามากไปกว่าการไปทำเรื่องขอยืมโต๊ะกับหม้อไหมาจัดงานทำบุญบ้านเมื่อสมัยย้ายมาอยู่ใหม่ๆ แน่ล่ะ เวียนเทียน งานบุญอะไรก็ไม่เคยไปร่วม (#คนบาป)

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมปั่นจักรยานผ่าน เหลือบไปเห็นว่าหลังซุ้มประตูวัดนั้นมีห้องสมุดประชาชนเหี่ยวๆ ตั้งอยู่ ด้วยความว่าง เลยแวะเข้าไป ในใจก็คาดไว้อยู่แล้วว่าสิ่งที่จะได้พบคืออะไร แล้วก็เป็นไปตามคาด

มันคือห้องสมุดเหี่ยวๆ จริงๆ

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มีเพื่อนบ้านมาโพสต์ในกรุ๊ปของหมู่บ้านว่า ห้องสมุดแห่งนั้นได้รีโนเวตใหม่เอี่ยม เป็น “ห้องสมุดอย่างดี” ไอ้ผมที่มีภาพติดตาในครานั้นก็นึกไม่ออกแหละว่ามันจะไปดีได้ยังไง สถานที่ราชการที่เดินเข้าไปก็นึกออกว่าต้องมีกลิ่นขี้นกพิราบลอยมาเตะจมูกนั่น

แต่ด้วยความว่างหลังจากไปส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนอนุบาล ผมเช่าการ์ตูนมา แต่เกิดขี้เกียจเข้าบ้านทันที อยากเอ้อระเหยหาที่นั่งอ่านการ์ตูนก่อน

ส่วนตัวไม่ชอบบรรยากาศอันน่าอึดอัดของร้านกาแฟ (คิดไปเองว่ามันต้องเก๊กนั่งหลังตรง และต้องพรีเซนต์เป็นตัวของคนอื่นตลอดเวลา) และสารภาพว่าสมัยเด็กผมเคยเป็นเด็กเนิร์ดสุดๆ ขนาดที่พักเที่ยงต้องไปสิงอยู่ห้องสมุดทุกวัน ยืมหนังสือจนบัตรยืมเปื่อยยุ่ย และสนิทกับครูบรรณารักษ์อะไรแบบนั้น แต่พอโตมาก็ห่างหายจากห้องสมุดไปเสียนาน

ในเมื่อโอกาสเหมาะเจาะแบบนี้ ผมจึงตั้งใจวกไปห้องสมุดเหี่ยวๆ แห่งนั้นอีกครั้ง อยากรู้ว่าพอศัลยกรรมออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร

พอจอดแว้นที่ด้านหน้าอาคาร เท่านั้นเอง ผมนี่ถึงกับอึ้งเลยครัชเมี้ยว

Continue reading รีวิวห้องสมุดลาดปลาเค้า ห้องสมุดที่เมพเกินคาด

ทัศนคติต่อในหลวง

อ่านความเห็นของคุณคนนี้ที่มีต่อสมศักดิ์เจียม (ไม่รู้จักนะ เห็นเขาแชร์ๆ กันมาเลยกดอ่าน หาต้นตอไม่เจอแล้วว่ามาจากไหน) คุณคนนี้ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อสมเจียม โดยก่อนหน้านี้สมเจียมได้โพสต์แสดงความเห็นต่อโฆษณาเรื่องการยืนเคารพเพลงสรรเสริญในโรงหนัง ที่ชาวเน็ตได้แสดงความเห็นต่อโฆษณานี้กันอย่างกว้างขวาง ชมบ้างด่าบ้าง (ทำไม refer หลายชั้นจัง)

สำหรับผมนั้นเฉยๆ ค่อนไปในทางไม่ชอบครับ โฆษณามันยาวยืดไป ที่จริงตัดต่อให้กระชับและ impact ได้มากกว่านี้เยอะ พอดูจบแล้วก็ยังรู้สึกอยู่ดีว่าการที่คนที่ไม่จะไม่ยืนในโรงหนังเพราะอะไร ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ที่จะเอามีดไปจี้กันให้ทำตามซะหน่อย เพราะตอนนี้คนรุ่นใหม่ๆ (ต่ำกว่า 30 ขวบ) ในบ้านเราส่วนใหญ่ก็รู้จักในหลวงผ่านตำนานและคำบอกเล่ากันทั้งนั้น ถ้าเขาไม่เชื่อ นั่นก็คงเพราะวิธีสื่อสารมันยังไปไม่ถึง หรือโลกที่เขาอาศัยอยู่นั้นต่างจากคนที่เชื่อก็ได้… ทั้งหมดนั้นก็เป็นแค่เรื่องทัศนคติ

ในยุคที่หันไปทางไหนก็เจอแต่ทัศนคติ บรรทัดถัดจากนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทัศนคติ

kings-lab

Continue reading ทัศนคติต่อในหลวง