เพื่อนทำร้านทอง

ร้านทอง

เพื่อนโบว์ทำร้านทอง เพิ่งไปนั่งคุยมาเมื่อกี้ มีหัวข้อน่าสนใจเลยกลับมาจดไว้

  1. เวลาที่ค่าทองผันผวน เช่นอยู่ดีๆ ก็ตกฮวบๆ ร้านก็แบกรับความเสี่ยงไป บางทีวันเดียวขาดทุนเป็นล้าน หรือสิบล้านก็เคยมีมาแล้ว
  2. กำไรจากร้านทองไม่ได้มาจากการซื้อทองของคุณหญิงคุณนาย แต่มาจากการ “ขายฝาก” (มองในมุมเจ้าของทองก็คล้ายกับการเอาทองไปจำนำ แต่ใช้คำที่มันดูซอฟต์หน่อย แต่ที่จริงคำว่าขายฝากนี่มีผลทางกฎหมายอยู่นะ สนใจกูเกิลดูได้) โดยเรตราคาตามตารางที่เขียนเป็นประกาศไว้ข้างผนังคือ สมมติฝากในราคาหนึ่ง เช่นทองเส้นละ 10,000 บาท ฝากไว้ 15 วัน ต้องจ่ายดอก 1.5% คือ 150 บาท หรือถ้าฝาก 1 เดือน ดอกก็น้อยลงมาหน่อย มีเรตตามกฎหมายควบคุมอยู่
  3. ในร้านมีสมุดเซ็นของตำรวจ สายตรวจก็มาแวะเวียนตรวจความเรียบร้อย และถ่ายรูปส่งไลน์ไปรายงานเบื้องบน ถามไปว่าแบบนี้ต้องเสียเงินให้ตำรวจไหม คำตอบคือไม่ต้อง (อันนี้เพิ่งรู้ว่าไม่ต้องจ่าย) เพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่แล้ว กลับกันถ้าไม่มานี่สิจะกลายเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ฐานละเลยฯ แต่ทางร้านก็ให้สินน้ำใจเป็นน้ำดื่มบ้าง กระทิงแดงบ้างทุกวัน
  4. กลัวโจรไหม? กลัว บอกเลย ตอนเปิดร้านใหม่ๆ ยังไม่มีลูกกรงกั้นระหว่างคนซื้อกับคนขาย ตอนนั้นวิตกมากเพราะข่าวปล้นร้านทองบ้านเรามีถี่เหลือเกิน แม้แถวปทุมจะยังไม่มี แต่ก็กันไว้ก่อนด้วยการติดลูกกรงกั้นไว้ ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ก่อนหน้านี้เคยเว้นร่องไว้หน่อยนึง แต่พอมีข่าวโจรที่อุตส่าห์เอาขวานฟันร่องที่ห่างให้แหกออกจากกันแล้วมุดเข้ามาได้ ก็เลยเสริมเพิ่มความถี่ของลูกกรงเข้าไปอีก แถมในร้านมีกล้องวงจรปิดความละเอียดสูง และประตูที่ล็อกไม่ให้ออกหรือเข้าจนกว่าเคาน์เตอร์จะกดอนุญาต อ้อ ที่สำคัญคือเจ้าของร้านมีปืนติดตัวไว้ด้วย
  5. ทอง 1 สลึงนั้นมีทั้งแบบเส้นเล็กบางเฉียบ แต่แน่น จับแล้วรู้สึกว่าเป็นเนื้อทองจริงๆ กับแบบที่ตีโป่ง ข้างในเป็นโพรงอากาศล้วนๆ เวลาจับถือแล้วจะตกใจ ว่าทองเส้นขนาดนี้มันเบาได้งี้เลยเหรอวะ
  6. อันนี้รู้นะ ว่าน้ำหนักของทองนั้นเป็นมาตรฐาน ดังนั้นเวลาซื้อขายกันจะมีการชั่งน้ำหนักเป๊ะๆ ด้วยเครื่องชั่งความละเอียดสูง แต่ถามว่ามีการสอดไส้เป็นโลหะชนิดอื่นไหม มีครับ! ถ้าจำไม่ผิดจะมีเหตุเกิดขึ้นแถวๆ ลาดหลุมแก้วมั้ง มีคนเอาทองมาฝากไว้ แน่นอนว่าฝากเสร็จก็หายไป เจ้าของร้านมาดูอีกที อ้าว ข้างในเป็นเงินยัดไส้ไว้เหมือนกูลิโกะโคลลอน! แล้วมีวิธีตรวจสอบไหม มีครับ ง่ายสุดคือหลอม แต่จะยากนิดนึงตรงที่ทองส่วนใหญ่ที่เข้ามาคือลูกค้าเอามาฝาก ทางร้านจะไม่สามารถไปทำอะไรทองของลูกค้าได้ (แต่เขาก็มีวิธีของเขาละกัน)
  7. เจ้าของร้านบอกว่า การที่มีร้านมาตั้งอยู่ทำเลนี้ ถือว่าต้อนรับ AEC เลยนะ เพราะลูกค้าหลักๆ เป็นแรงงานต่างชาติสารพัดประเทศ ที่มีทั้งซื้อทั้งขาย โดยทองเป็นทรัพย์สินสากลที่เอามาเปลี่ยนเป็นเงินได้
  8. เวลาเข้ามาในร้าน ไม่ต้องถอดรองเท้านะ ถ้าพูดแบบสุภาพคือจะได้ไม่ต้องเปื้อนเท้า แต่ถ้าตอบจริงๆ คือเหม็นตีนลูกค้ามาก
คอมเมนต์