#หนีกรุง Day 4: ดินสอน

ภารกิจหลังกินข้าวเช้า (ไส้กรอก ไข่ดาว แฮม น้ำส้มน้ำสับปะรด นม ชากาแฟ ขนมปัง เนยแจม สลัดผักผลไม้และข้าวต้มอีกนิดหน่อย ทั้งหมดนี้ในวงการเรียกอเมริกันเบรกฟาสต์ได้อย่างไรล่ะหือ) ลูกคนเล็กอายุสิบเอ็ดเดือนก็ง่วงพอดี แม่ของลูกจึงนำไปชาร์จพลังงาน

ส่วนตัวพี่ซึ่งอายุสามขวบสี่เดือนกว่าๆ กลับพลังงานล้นปรี่ ถ้าให้มันอยู่ด้วยกันพี่น้อง รับรองว่าจะไม่เกิดการนอนในเช้าวันนี้ชัวร์ ผมจึงรับหน้าที่พานิทานไปเดินเล่นฆ่าเวลา (ไม่ได้แปลว่าฆ่าเวลา แต่หมายถึงฆ่าเวลาน่ะเข้าใจไหม) โดยมีย่า (เย้ ผมพาแม่มาด้วยน่ะครับ) เดินตามไปคอยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องต้นไม้ใบหญ้า โชคดีที่ทางรีสอร์ตเขาปลูกต้นไม้เก่ง เก่งจริงๆ เนี่ยเมื่อคืนวานเขียนเรื่องต้นไม้ได้เป็นคุ้งเป็นแควก็เพราะรู้สึกขอบคุณในความร่มรื่นนี้แหละ
image

ความรู้ใหม่สำหรับเด็กสามชวบในหนึ่งชั่วโมงช่วงเช้าวันนี้ก็คือ อุโมงค์มด / นางพญามดหัวโต / วิธีกระโดดข้ามมด ไม่ต้องกลัว / รู้จักต้นมะเฟือง / ต้นส้มโอ / ต้นกระท้อน / ต้นตีนเป็ด / ลูกตีนเป็ดเอามาทำงานหัตถกรรมได้ / ต้นมะเดื่อ (เคยสอนให้รู้จักทีนึงแล้วแต่ลืม) / หูกระจงยักษ์ / มอสชอบขึ้นที่ชื้น / กิ้งกือขดตัว / ผีเสื้อไม่ยอมให้คนจับ / ใบบัวเนี่ยเขาเอามาห่อข้าวกินได้ หอมอร่อยด้วย / ไม้ไผ่แข็งแรง ลื่น เคาะดังโป๊กๆ / ต้นไผ่เอามาทำเป็นกระบอกน้ำได้ / ต้นไม้บางต้นขรุขระ / การล่าของแมลงช้าง (เดินไปนั่งดูการเชือดมดสดๆ ทีแรกผมว่าจะหยอดมดลงไปในหลุมอเวจีเอง แต่เผอิญมีมดตะนอยชะตาขาดเดินลงไปพอดี โอเคเลย เอ็งซวยเองนะ ข้าไม่บาป) / สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก / น้ำเชี่ยว น้ำนิ่ง น้ำไหล / ผักตบ / จิงโจ้น้ำ / แมลงปริศนาสีแดงที่พ่อก็ไม่รู้จักชื่อ / ลำธารแห้งกับลำธารเปียก / ทดลองวิชาฟิสิกส์ด้วยการการปาลูกอะไรสักอย่างคล้ายๆ มะเดื่อลงน้ำรัวๆ กว่า 20 ลูก / หมาขึ้นสะพานอย่างไร / ต้นกระถินไม่ใช่ไมยราพ / กระรอกไม่ชอบให้คนเข้าใกล้ / ศาลาหน้าตาเป็นแบบนี้ / ธรรมชาติคืออะไร (อธิบายศัพท์คำนี้ด้วยการยกตัวอย่างนานมาก) / ไม้สำรวจ (กิ่งไม้ยาวประมาณเมตรครึ่ง ทรงสวยมากๆ เอาให้นิทานถือจนผูกพันมาก จะเอากลับบ้านด้วย) / การหยั่งความลึกของแม่น้ำด้วยกิ่งไม้ / วิธีการเดินบนสะพานไม้ / ความเสื่อมของโครงสร้างไม้ / การทรงตัวในที่แคบ / อากาศดีๆ พอดมแล้วสบายจมูก / อุโมงค์ต้นไม้ / ถ้าจับมือพ่อไว้แล้วจะไม่ตกน้ำ / ฯลฯ

ส่วนความรู้ใหม่สำหรับผมผู้เป็นพ่อ ก็คือ “เด็กควรโดนดินบ่อยๆ” ยิ่งบ่อยยิ่งดี เหมือนเป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่คนกรุงเทพฯ (อย่างลูก) แทบไม่เคยได้กิน อันนี้คงไม่ต้องอธิบายกันแล้วเนอะว่าทำไม :D

คือไอ้พ่อน่ะเล่นดิน อยู่กับดินมาตั้งแต่เกิด เลยรู้สึกอยากครอบงำความคิดนี้ให้ลูกเสียบ้าง ถึงแม่เราจะเจออะไรมาต่างกัน แต่อยากให้ได้สัมผัสความมันส์แบบที่พ่อเคยเจอตอนอายุเท่าเจ้าเสียหน่อย และยินดียิ่งนักเมื่อได้รู้ว่าเจ้าก็โคตรแฮปปี้เลย

ส่วนแม่… ช่างแม่ แม่ชอบกระเป๋ารองเท้าและเงินทองต่อไปนั่นแหละดีแล้ว จะได้ถ่วงดุล

คอมเมนต์