#30DaysdrawingTH (Part 1/3)

จากทวีตของหมูมะนาว

มีแปลเป็นไทยด้วย

ตามที่ช่วงนี้มีนโยบายว่าอยากทำอะไรสักอย่างให้แต่ละวันมีความหมาย พอมีสิ่งนี้ขึ้นมา ผมเลยเอาด้วย Continue reading #30DaysdrawingTH (Part 1/3)

ฉันมันไม่มีวาดสนา

จากบล็อกที่แล้วที่พร่ำบ่นว่าอยากหัดวดรูปและระบายสีน้ำ

อันนั้นยังไม่ได้เล่าย้ำอีกทีว่าที่ผมชอบวาดการ์ตูนนั่นนี่ คือวาดแบบการ์ตูนที่เป็นการ์ตูนจริงๆ ว่ากันตรงๆ คือขาดทักษะพื้นฐาน แต่มาถึงก็วาดเลย อันนี้หลายคนก็เป็น

โอเค ของผมอาจจะเอามาทำมาหากินได้ตังค์จากการวาดมาพอสมควร แต่คนจ้างน่าจะไม่รู้หรอกว่าแกเผลอมาจ้างคนที่วาดไม่เป็นกระทั่งรูปผู้หญิง รูปคน (แบบที่เป็นคนจริงๆ) รูปรถ รูปต้นไม้ หรือแม้กระทั่งรูปบ้าน!

ถาม: แล้วมึงเรียนจบสถาปัตย์มาได้ยังไง
ตอบ: จบได้ครับ เพียงคบเพื่อนเก่งๆ ไว้ แล้วตลกแดกเนียนเป็นคนออกแบบพรีเซนเทชันตอนทำงานกลุ่มด้วยกันไงล่ะ พอปีท้ายๆ ที่มีงานกลุ่มเยอะกว่างานเดียว เกรดก็เลยสูงเอาๆ ยังกะเด็กเรียน (คือนี่มองจากมุมผมนะ ได้ 2.50+ ก็เหมาว่าเป็นเด็กเรียนแล้ว เพราะปีแรกๆ นี่โฉบ 2.00 เป็นเรื่องธรรมดา 55555)

ทีนี้ตอนปีหนึ่งมันมีวิชา Architectural Presentation ทั้งเทอมต้นและเทอมปลาย โดยเทอมต้นเขาให้วาดและนำเสนอสถาปัตย์ด้วยดินสอ เทอมนั้นผมได้ D+ พร้อมผลงานที่โดนอาจารย์เอาไปหัวเราะเยอะ (ใช้คำนี้ถูกแล้ว) หน้าชั้นเรียนเกินครึ่งของผลงานทั้งหมดที่ส่งไป

ส่วนเทอมหลังเป็นภาคต่อวิชาที่ใช้ชื่อเดียวกัน ภาคนี้โทนี่สตาร์กเปลี่ยนมาใช้สีน้ำ ซึ่งความเหี้ยก็คือ ผมไม่มีพื้นฐานเลยแม้แต่เสี้ยวขนปลายหำหมา

ย้อนกลับไป ม.ต้นซึ่งเป็นวิชาศิลปะ (ผมเรียนสายวิทย์) จำได้ว่าทั้งเทอม “อาจารย์ไม่เข้าสอนเลยแม้แต่ครั้งเดียว” …งงไหมครับ มาคิดดูทีหลังแม่งเหี้ยมาก แต่ตอนนั้นแฮปปี้มาก เพราะได้วิชาว่างมาหนึ่งคาบฟรีๆ แต่ก็นั่งอ่านการ์ตูน ยืมเกมเพื่อนมาเล่นในห้องจนหมดเวลานะ ไม่ได้ออกไปเสพยาบ้าหลังห้องน้ำ เพราะผมเป็นเด็กเนิร์ด แต่นั่นก็ทำให้มารู้ทีหลังว่าเราพลาดโอกาสหัดวาดรูปด้วยสีน้ำ ซึ่งต่อไปมึงจะต้องเอามาใช้ตอนเข้ามหาลัยปีหนึ่งเทอมสองนะโว้ย

ตัดภาพกลับมาที่ไอรอนแมนภาคสอง อาจารย์ให้โจทย์มา ผมหันไปมองเพื่อนๆ ที่นั่งวาดกัน เฮ้ย ทำไมมันคล่องกันจังวะ ตวัดพู่กันป๊าบ สวยเลย คนนี้ยิ่งเทพ คนนั้นมีเทคนิคเซียน เลยถามๆ ดู ก็ได้คำตอบว่า บางคนฝึกตอนมาติว (ผมมาจากบ้านนอก ไม่รู้ว่าโลกนี้มีการมีติวเข้าคณะนี้ด้วย) บางคนเรียนตอน ม.ปลาย บางคนหัดเอง (อันนี้น่านับถือ) ฯลฯ

ที่จริงผมไม่ควรจะมาบ่นโทษระบบการศึกษาหรอก เพราะคนหัดเองก็มี แล้วก็ทำได้ดีด้วย แต่มึงไม่พยายามเอง ทำมาย้อนอดีตโทษนั่นโทษนี่ ไอ้บ้าเอ๊ย 555

เอาเป็นว่าเทอมนั้นเกรดผมได้ C+ ทั้งๆ ที่งานเหี้ยกว่าเทอมแรกที่วาดด้วยดินสออีกนะ (ไม่รู้ทำไมเกรดดีกว่า) ซึ่งนั่นก็ทำให้บางคืนผมเก็บเอาไปฝันร้ายว่าอาจารย์ท่านเดียวกันนี้มาสั่งงานวาด เพื่อนๆ วาดกันสบายมาก และผมไม่มีปัญญาแม้แต่จะผสมสีให้มันไม่เน่า

ฝันด้วยพล็อตแบบนี้ติดต่อกันมาสิบกว่าปี มันน่าเจ็บใจไหมล่ะ

เกริ่นมาทั้งหมดเพื่อจะปูพื้นว่า ต่อไปนี้ผมจะกำจัดฝันร้ายที่ตามมาหลอกหลอนนั้นด้วยตัวเอง ด้วยคาถา “อยากวาด ก็วาดสิวะ”

หลังจากบ่นไปคราวก่อนแล้วว่าอยาก ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนสนองความอยากครับ พอดีวันนี้ได้เข้าเมืองไปซื้อหมึกสกรีนเสื้อไว้ทำมาหากิน ก็เลยแวะ B2S เพื่อซื้ออุปกรณ์สีน้ำมา ด้วยความงูปลา ก็เลยจัดชุดที่น่าจะไม่เด็กประถมเกินไป และไม่แพงสัส (ส่วนมากจะแพงสัสนะครับพวกเครื่องเขียนศิลปินเนี่ย สมุดห่าอะไรไม่รู้เล่มเท่ากระดาษทิชชู่ แม่งเล่มละสี่ห้าร้อย นี่เขียนผิดแล้วมีปุ่ม undo ใช่ไหม)

ก่อนวงเล็บจะเยอะเกินไป ขอกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง วันนี้ก็เลยได้ชุดนี้มา

watercolor-0

  • สีน้ำแบบก้อนของ REEVES (195 บาท)
    นี่เลือกเอาจากขนาดเลยนะ ดูมันพกง่ายดี เนื้อสียังไม่รู้ ไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไงว่าดีหรือไม่ดีกว่าอะไร เพราะถ้าไม่นับสมัยเรียนที่ช่างมันเถอะแล้ว นี่ก็นับเป็นการซื้อสีน้ำด้วยความเต็มใจเป็นครั้งแรกในชีวิต ด้วยความน่าจะพกง่ายกว่าซื้อแบบหลอดๆ ก็เลยเลือกแบบก้อนมา อยากใช้ก็เอาพู่กันเปียกไปยีๆๆ เดี๋ยวมันก็ละลายมาเอง ง่ายดี แถม(ขายพ่วง)พู่กันแหลมๆ มาด้วย ยังไม่รู้ว่าจะได้ใช้ตอนไหน เพราะเรามี…
  • พู่กันแบบแทงก์ DERWENT (307 บาท …แพงสัส นี่เมียยังไม่รู้นะ)
    นี่ฉันเลือกนายเพราะอ่านบล็อกของ @hackhq (ไปไล่ดูลิงก์ได้จากบล็อกตอนที่แล้ว) แล้วเห็นว่ามันเติมเต็มสิ่งที่ขาดดี คือไม่ต้องพกน้ำไปเยอะๆ แค่มีพู่กันที่บีบตูดแล้วน้ำมันจะเยิ้มออกมาชุ่มฝีแปรงตลอดเวลา เวลาล้างสีก็แค่บีบ แล้วเอาไปป้ายกระดาษทิชชู่แบบส่งเดช เท่านี้ก็สะอาดแล้ว // ในภาพด้านบนนี่คือเพิ่งแกห่อเลย อยากฮิปสเตอร์มากก็เลยเอามาเรียงแล้วถ่ายทันที หัวมันเลยบานๆ เพราะยังแห้งอยู่
  • ปากกาหัวเข็ม Artline 0.5mm (58 บาท)
    ไม่ถนัดปากกาเส้นเล็ก เพราะไม่ชอบเขียนแบบกดน้ำหนักลงไปแรงๆ ก็เลยใช้ขนาดที่ชิน ที่จริงเวลาใช้ปากกาปกติจะชินกับไซส์ 0.7-0.8 มากกว่า แต่อันนี้น่าจะเอามาวาดและเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นกว่าไง หวังว่านะ
  • สมุดสเก็ตช์ของศิลปากร (49 บาท)
    อันนี้ซื้อจากร้านสโมของศิลปากรตั้งแต่ช่วงวันพ่อ หนีเมียไปเดินเล่นกับหนุงหนิงมา โคตรถูกเลย ถูกจนอยากจะนั่งรถไปเหมามาตุนไว้อีก 30 เล่ม (ที่จริงมีถูกกว่านี้อีกคือเล่มละ 15 บาท แต่จะบางกว่า และการเข้าเล่มจะเป็นอีกแบบ) ดีใจมากเลยที่มีร้านสโม ถึงแม้เมื่อก่อนจะเกลียดเจ้ามากขนาดไหนก็เถอะ เพราะการเข้าไปแต่ละครั้งคือการซื้ออุปกรณ์เพื่อทำงานเรียนส่งครู แล้วงานผมเหี้ยซะ 97% เลยโทษสโม (เห็นมะ นิสัย) เอาเป็นว่าใครอยากซื้อเครื่องเขียนอะไรนี่ ยอมเสียเวลาเดินทางไปศิลปากรสักหน่อย แล้วคุณจะพบว่ามันคุ้มมาก เพราะสาวโบราณน่ารัก

watercolor-2

ที่จริงให้ดูใบเสร็จนี่ตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมาพิมพ์ยาวแล้ว นี่อีกายรู้เข้าเดี๋ยวก็ตามมาทวงต้นฉบับอีก หาว่าเอาเวลามาเขียนบล็อกงี้

watercolor-1

เติมน้ำลงไปในพู่กัน แล้วลองยีๆ กับสีก้อน เอามาระบายๆ ดูในภาพที่เขียนไว้ก่อนหน้าสัก 10 นาที (แต่ใช้ปากกาอีกด้ามนะ อันนั้นเป็น unipin 0.8 ที่ใช้เขียนสมุดบันทึกเป็นปกติ) พบว่าเส้นสีดำมันไม่เยิ้มเข้ามา คือเป็นหมึกกันน้ำ ส่วนกระดาษนั้นก็ไม่ซึมเปื้อน อันนี้ยังไม่ได้ทดสอบมาก เพราะแต้มสีลงไปหน่อยเดียวเท่าที่เห็น เดี๋ยวครั้งหน้าถ้าได้ระบายอะไรฉ่ำๆ (อยากหัดระบายให้มันฉ่ำมากๆ ทำไม่เป็น) อาจจะเห็นมันซึมก็ได้ ไม่รู้เหมือนกัน

ที่แน่ๆ ความรู้สึกครั้งแรกในชีวิตที่เอาพู่กันจุ่มสีมาปาดลงบนกระดาษเองด้วยความเต็มใจ ไม่มีใครบังคับนั้น มันดีมาก ดีมากๆๆๆๆๆๆ มากๆๆๆ ถึงจะสีเน่าเหมือนเมื่อก่อนในยุคที่ตัวเองเกลียดสีน้ำที่สุดในโลกยังไงยังงั้น แต่ช่างหัวอุปสรรคในอนาคตมันปะไร เพราะอย่างน้อยตอนนี้เราได้เริ่มแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือหัดวาด หัดระบาย และทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ ในโหมดสนุกแบบนี้เลยนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเบื่อขึ้นมาวันไหน แต่วันนี้ได้เริ่มแล้ว ก็ดีแล้ว

ถึงจะไม่อยากยอมรับเท่าไหร่ แต่การที่คนอายุเลยสามสิบมาพอสมควร มีลูกเต้าโตงเตงพันรอบเอวและเมียใช้ไปทำนู่นนี่ตลอดเวลาแล้ว แต่อยู่ดีๆ ก็เพิ่งมาหัด มามีความฝันอะไรสนุกๆ แบบเด็กๆ นี่มันโคตรดีเลยนะครับ

จะว่าไป นี่คงเพราะมีตังค์แล้วด้วยแหละ 5555 ถ้าย้อนไปสมัยเรียนนะ ของเล่นราคา 5-600 บาทนี่ อย่าแม้แต่จะคิด

มีความสุขจัง คืนนี้นอนตายตาหลับละ ส่วนต้นฉบับก็ผลัดไปพรุ่งนี้ งานหนังสืออีกตั้งนาน

ดรอซัมติง

hipster-or-nerd

อยู่ดีๆ ความรู้สึก “อยากวาด” ก็พวยพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงตอนที่นั่งคลิกนู่นดูนี่จากการนั่งทำเว็บ

คือผมวาดไม่เก่งครับ ถึงจะขีดๆ เขียนๆ เล่นมายี่สิบปีแล้ว ฝีมือก็ยังหยุดนิ่งได้แค่ระกับ “วาดเป็น” ไม่เคยไปถึง “วาดเก่ง” สักที

เป็นเพราะไม่ได้พยายาม เป็นเพราะไม่ได้ใส่ใจ เป็นเพราะไม่ได้ตั้งใจ แต่อยาก เห็นคนวาดเก่งแล้วอิจฉา เผอิญว่าความอิจฉานั้นก็หยุดไว้เท่านั้น

แต่ใจนึงผมก็รู้ลิมิตตัวเองดีว่าไม่ได้สนใจจะไปฝึกฝนทุ่มเทตั้งใจเพื่อจะให้ตัวเองวาดเก่งขึ้นมาได้หรอก คบกับตัวเองมานาน กูรู้จักมึงดี

แค่เจ็บใจนิดนึงที่พอดูงานวาดเล่นของชาวบ้านแล้วก็พบว่า เฮ้ย ทำไมเขาวาดแล้วโคตรสนุกเลย อีแค่วาดให้สนุกนี่ทำไมเราทำไม่ได้วะ ต้องทำได้สิ

เออ วาดเก่งกับวาดแล้วสนุกมันมีความต่างเอาไว้เป็นข้ออ้างได้พอสมควร งั้นต่อไปนี้ผมเลยจะขอกลับมาเริ่มหัดวาดอีกครั้ง ด้วยวิธีแบบแอนๆ นี่แหละ

วิธีแบบแอนๆ = วาดมันซะเลย วาดเยอะๆ วาดๆๆๆ เหี้ย วาดโว้ยยยย

นึกย้อนไปสมัยที่ตัวเองยังชอบจดบันทึกลงในสมุด ตอนนั้นในมือของมนุษยชาติ (ที่จริงคือเรา แต่อ้างมนุษยชาติจะได้อุ่นใจหน่อย) ยังไม่มีมือถือมาจองพื้นที่ถาวรอย่างทุกวันนี้ ด้วยกลัวจะว่าง ก็เลยซื้อสมุดปากกามาถืออยู่เสมอ พอเห็นอะไรก็วาดดะ จดดะ สนุกดี พูดแล้วโหยหาอดีต

พอมาทุกวันนี้ ถึงจะใช้มือถือรุ่นที่คุยนักหนาว่ามันพกพาสะดวก แถมมีปากกาที่ใช้วาดได้ดีมาก แต่พอเอาเข้าจริงๆ เวลาวาดความรู้สึกมันก็ไม่เหมือนปากกากับกระดาษจริงๆ ใช่ปะ เพราะมันวาดผิดก็ลบได้ วาดเบี้ยวก็ขยับได้ ทำผิดก็ undo ได้ ซึ่งมันไม่ใช่นะ มันง่ายไป สะดวกไป ไม่ฮิปสเตอร์พอ

ที่สำคัญคือ มันมีอะไรดึงความสนใจออกไปจากการวาดได้เยอะ เช่น แป๊บๆ โนติแม่งมาละ ไหนจะไลน์ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก เพื่อน ลูกค้า แอปการ์ตูน ฯลฯ หมดกัน ไม่ต้องวาดละ

แต่ช่างเถอะ บ่นไปก็เท่านั้น เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

ถือเป็นโอกาสดี เพราะสมุดบันทึกเล่มล่าสุด กำลังจะหมดลงในอีกไม่เกินสัปดาห์ …นึกได้ว่าเคยเขียนบล็อกตอนเปิดเล่มนี้เมื่อ 16 ก.ย.56

เหี้ย ดองมาปีกว่าๆ แล้ว สมุดบางๆ เล่มเดียวเนี่ยนะ!!!

ที่จริงก็นึกคำอ้างสารพัดได้ไม่ยากหรอกครับว่าทำไมใช้เวลาเขียนนาน เพราะสัปดาห์นึงจะได้เขียนสักครั้ง เนื่องจากสมุดมันใหญ่ พกไปไหนมาไหนไม่ได้ และความสนใจของผมมันเปลี่ยนไปลงกับหน้าจอไฟฟ้าหมดแล้ว น่าเศร้าแต่ก็ไม่ปฏิเสธ

ดังนั้นเล่มต่อไปจึงขอแก้บั๊กด้วยการเลือกสมุดไร้เส้น ไซส์เล็กลงกว่าเดิม จึงควรจะพกง่ายกว่าแบบที่ใช้เขียนส่งการบ้านมัธยมทุกวันนี้ (ที่ต้องเก็บไว้ในกระเป๋าคอมอย่างเดียว) ซึ่งเป็นเล่มที่ซื้อมาเมื่อเดือนก่อนจากร้านสโมศิลปากร ร้านเครื่องเขียนที่เจ๋งที่สุดในโลก

คราวนี้ดูซิว่าจะมีข้ออ้างอะไรอีก เดี๋ยวจะกลับมาดู

ปกติเขาบอกว่าถ้าจะทำอะไร อย่าประกาศว่าจะทำนั่นนี่ เพราะมันจะวืด วืดแล้วจะเสียหน้า แต่เท่าที่เขียนบล็อกนี้มาสิบกว่าปี ผมว่าผมวืดไปเกิน 10 ครั้งแล้ว ก็เพราะอีการฮึดขึ้นมาด้วยอารมณ์ชั่ววูบนี่แหละ 5555 ก็ช่างมันประไร คราวนี้ลองดูอีกที

ป.ล.
ดรอซัมติง เป็นเกมที่เคยฮิตมากๆ ฮิตโคตรพ่อโคตรแม่ ทุกคนเล่น ทุกครัวเรือนมี เพราะมันดี มันเด่น มันสนุก แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็ร่วงโรยเหลือแค่ชื่อ เผลอๆ หลายคนลืมชื่อมันไปแล้วด้วย แล้วจะพูดทำไม

ป.อ.
อันนี้เขียนเพิ่ม แปะลิงก์ของคุณ @hackhq ไว้หน่อยครับ อันนี้อ่านแล้วขึ้นจริงๆ – อยากหัดสเก็ตช์ภาพ ขอคำแนะนำหน่อย

053 | พันคำแทนหนึ่งภาพ

Typedrawing
http://storyabout.net/typedrawing

มีของเล่นมาอีกแล้วครับ หลังจากไม่ได้อัพบล็อกซะหลายวัน
(อ้างว่าติดธุระ จริงๆ แล้วติดกับดักเว็บตัวเองตะหาก :05:)
เว็บนี้น้อง ARR3E แนะนำมาในเว็บฟ๐นต์
ก็เลยลองเล่นดู ปรากฏว่าเจ๋งว่ะ
ไม่รู้จะอธิบายยังไง คือมันให้เราวาดรูปโดยใช้ตัวอักษรเป็นหัวแปรง
กำหนดคำ แบบอักษร และสีเองได้
ยิ่งลากเมาส์เร็ว ตัวอักษรก็ยิ่งใหญ่เบ้อเร่อ ..

สนุกจังเล้ยยยย :04:

เสร็จแล้วก็อัพโหลดอวดประจานชาวบ้านเขาได้
หรือไม่ก็จับภาพมาใช้ออกแบบอะไรข้างนอกได้อีกเพียบเลย
(ของผม อันนี้ครับ คลิก)

โอ๊ยยยย สนุกโว้ยยยยยย

ทำงานต่อดีกว่า:05: