ผมเห็นข่าวคุณระเบียบรัตน์ออกมายี้ใส่หนัง “เดอะเมีย” แล้วก็ส่ายหน้า
เหตุผลแค่ว่า เมียหลวงเมียน้อยมายิงกันยังงี้มันทำลายสถาบันครอบครั๊ววว
อยากกราบเรียนท่าน ส.ว. ให้กลับไปมองเงาสะท้อนตัวเองในจอทีวี
ขอเน้นว่า เฉพาะในรายการละครน้ำเน่าหลังข่าวด้วยนะครับ
ว่าระหว่างการสื่อออกมาโดยมีชั้นเชิงในการล้อเลียน เสียดสีสังคม
กับการไปด่ากันแว้ดแหว แด๊ดแด๋น่ารำคาญของสาวออฟฟิศไฮโซในละคร
แถมสร้างค่านิยมที่ว่า ผู้หญิงไม่ต้องทำอะไรหรอก รอเดี๋ยวก็มีผัวรวยๆ เองอีก
เทียบกันเองละกันว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน!!! (หรือไม่ชอบเลย *-* )
ทั้งนี้ผมยังไม่ได้ดูเดอะเมีย และไม่ได้จะโปรโมทให้เขาด้วย
(คิดว่าคงไม่ดู เพราะไม่ค่อยชอบ “ภาพหนัง” ของมันที่สื่อออกมาลุงๆ ไงไม่รู้)
เฮ้ย ว่าจะเขียนเรื่อง “อวสานลายกนก” นี่หว่า
แต่ช่างเหอะ เปิดเรื่องยังงั้นก็โอเค
มันบอกให้เห็นถึงความคิดที่ “ระเบียบจั๊ด” ของผู้ใหญ่บางคน
ที่เผอิญเป็นใหญ่เป็นโตและดันมีส่วนกำหนดบทบาททางวัฒนธรรมด้วยสิ
ผมอ่านบทความสัมภาษณ์นักออกแบบกราฟิกท่านนึง (ขออภัยที่จำแหล่งไม่ได้)
แกสามารถสื่อความหมายของคำว่ากราฟิกดีไซน์ได้ชัดดี นั่นคือ เป็นผู้ “ส่งสาร”
แต่การส่งสารนั้นต้องมีชั้นเชิง ไม่ได้ตรง แรง คมชัดลึกอย่างนักโฆษณา
แต่ก็จะต้องไม่ล้ำลึกถึงวิญญาณเหมือนจิตรกรที่ต้องให้ผู้รับสารมาตีความหัวผุ
ดังนั้นระหว่างคำว่า Mass และ Art จึงมีนักออกแบบกราฟิกอยู่ตรงกลาง
การออกแบบกราฟิกมีส่วนอย่างมากมายในชีวิตประจำวัน
มันทำให้คุณรู้ว่า สัญลักษณ์บนปุ่มนี้มีไว้ปิด เปิด
ตรงไหนห้ามจับ ป้ายไหนห้ามแซง แบงค์ไหนซื้อของแพงกว่ากันได้
รู้ว่าชาเขียวที่ขวดสีเหลืองเป็นรสอะไร หรือปุ่ม Save งานคือปุ่มอะไร ฯลฯ
นั่นคือพลังในการสื่อสารที่ออกมาเป็นรูปสัญลักษณ์สากลโดยไม่ต้องอธิบาย
นอกจากนี้ ตัวอักษรก็มีผลอย่างมากในงานออกแบบกราฟิก
จนนักออกแบบท่านนึงเรียกตัวอักษรว่าเป็น “หัวใจ” ดวงหนึ่งของมันเลยล่ะ
สังเกตบ้างไหมว่าระยะ 2-3 ปีมาจนถึงวันนี้
เรามองไปทางไหนก็จะเจอแต่ฟอนตที่มีลักษณะแบบเดียวกันเต็มไปหมด
เป็นแบบอักษรที่แตกหน่อมาจาก “มานพติก้า” ที่คิดมาตั้งสิบยี่สิบปีแล้ว
นั่นเพราะว่ามันดูทันสมัยเอามากๆ และเข้ากันได้ดีกับสินค้าอะไรก็ได้ที่อยากเท่
ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ เครื่องประดับ บ้านจัดสรร หรือแม้กระทั่งน้ำปลาผสม!!
แล้วก็ตัวอักษรอีกแบบก็เป็นลายมือของ ‘จารย์โรจี้ ที่เกิดมาแล้วดังสะท้านเมือง
เกิดอะไรขึ้นกับแบบอักษรอื่นๆ ล่ะ? ไม่มีใครผลิตเพิ่มแล้วเหรอ ?
มีครับมี .. เพียงแต่ว่าตอนนี้มันยังกระจุกตัว ไม่แพร่หลายนักเท่านั้นแหละ
ความที่ใจอยากให้นักออกแบบฯ ได้ใช้แบบอักษรที่เหมาะกับงาน
ไม่ใช่ว่าเห็นมันออกใหม่แล้วเฮละโลไปใช้กันหมดจนกลายเป็นของที่เกร่อสุดๆ
(ย่อหน้านี้จริงๆ แล้วจะโปรโมตเว็บฟ๐นต์ของผมแค่นั้นแหละ 5555)
ขี้เกียจเขียนแล้ว งานยุ่งมาก
คอยต่อภาคสองหลังสงกรานต์เว้ยยยยย