เราถูกสั่งสอนให้ซึมซับกติกาที่ว่า การใช้ชีวิตคู่นั้น ต้องแสวงจุดร่วมและสงวนจุดต่าง ยอมรับในข้อเสียของอีกฝ่ายให้ได้ แล้วชีวิตคู่จะราบรื่น
ผมเป็นพวกโอเคอยู่แล้ว เก็ตคำสั่งสอนนี้และเอามาใช้ในชีวิตเป็นเรื่องปกติ
แต่เมื่อคืนตอนเมียส่งข้อความในแฮงก์เอาต์มาใช้ให้หยิบเครื่องปั๊มนมไปให้บนห้องนอน แล้วฝากดูตัวเล็กให้หน่อย อยู่ดีๆ ผมก็มานั่งลิสต์ดูว่าเมียเรามีข้อเสียอะไรบ้าง
โอ้โห แม่งเพียบเลย อย่างน้อยที่ประจักษ์ตาก็คือ เป็นพวกที่ทำอะไรแล้วไม่เก็บให้เรียบร้อยทั้งสิ้น
ตัวอย่างเช่นการเปิดไฟทิ้งไว้ทั่วบ้านแล้วขึ้นไปนอนอยู่บ่อยๆ โดยไม่ได้ปิด บางทีผมนั่งหน้าคอมดึกๆ ตีหนึ่งตีสองเปิดประตูออกมาดู เหย็ดแม นี่บ้านหรือเซเว่น ทำไมสว่างไสวในยามค่ำคืนได้ขนาดนี้
คิดในใจเฉยๆ แล้วก็เดินไล่ปิดไปทีละดวงๆ …ก็ทำเป็นเรื่องปกติไม่ได้บ่นได้หืออือหรือรู้สึกผิดปกติอะไร (เพราะชินแล้ว) แต่เมื่อคืนพอคิดจะระลึกดูว่ามีอะไรอีกไหม นี่ก็เลยถูกนับเป็นหนึ่งในนั้น
พอเดินไปถึงในครัว อ้าว ไฟหลังบ้านก็เปิด ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้งานอะไรนะ — ไอ้การจำไม่ได้ว่าสวิตช์ไฟดวงไหนมันกดตรงไหนนี่ก็เหมือนกัน ขนาดเขียนไว้บนปุ่มก็ยังไม่อ่าน
เออ เรื่องไม่อ่านก็เหมือนกัน เวลาเจออะไรเด้งขึ้นมาในคอมหรือในมือถือ เมียก็จะกด OK ทันที (ไม่ใช่แคนเซิลนะ นี่กดโอเคเลย) เป็นที่รู้กันนะว่านี่คือพฤติกรรมอันตราย ยิ่งเป็นพวกใช้มือถือทำงานด้วยก็ยิ่งอันตรายใหญ่ นานๆ ทีผมหันไปเห็นก็จะบ่นพอเป็นพิธีสักครั้ง
คิดไปคิดมา เดินขึ้นไปถึงห้องนอนข้างบน จะอุ้มลูกมากล่อมหลับ เมียก็ถามว่า
“แล้วไหนเครื่องปั๊มนมล่ะ” …จบ ลืมอีกแล้ว
(เป็นข้อเสียอมตะของผมที่เมียบ่นทุกวัน)