กระต่ายตัวขาว

จะว่าไป ปีนี้ผมยังไม่ได้ซื้อซีดีเพลงเลยครับ (สาเหตุ)
เออๆ นึกได้ว่าซื้อมาแผ่นนึงแล้วก็คือเพลงสัตว์โลกน่ารัก (จำชื่อเป๊ะๆ ไม่ได้) ข้างในมีอยู่ 21 เพลง ซื้อมาให้คุณลูกสาวนี่แหละฟังเวลาอยู่ในรถ จะได้ไม่ต้องคอยจ้องการ์ตูน

ซึ่งได้ผลมากๆ ครับ กระต่ายกับเต่า หมาป่าเขี้ยวยาว อู๊ดๆ ฯลฯ ไม่ใช่แค่ลูกเท่านั้นที่ร้องวนทั้งวัน พ่อแม่แม่งก็ร้องตามไปด้วย เป็นแบบนี้มาพักใหญ่

จนผ่านไปหลายเดือน พอหมดช่วงเห่อ ทีนี้นิทานก็ไม่ได้เปิดเพลงอัลบั้มนั้นแล้วตั้งใจร้องตามทุกพยางค์เหมือนเดิมอีกต่อไป

ทีนี้ก็ต้องไปเที่ยวหาเพลงเด็กอนุบาลประมาณนี้อีก ซึ่งก็หายากหาเย็นครับ จนวันก่อนที่ลูกสองคนไม่สบาย ไปนอนโรงพยาบาล แล้วเจ๊ประกันซื้อตุ๊กตาแมวทอมที่กดตรงหูแล้วมันจะร้องเพลงได้ (โคตรล้ำ) แล้วเพลงมันเจ๋งมากครับ กระต่ายตัวขาวตาวาวกระดุ๊กกระดิ๊ก แรงซิแปรงแปรงฟัน ฯลฯ

พออ่านข้างกล่องก็มีบอกว่าลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดเป็นของบริษัท บ้านดรุณ จำกัด ก็เลยไปปรึกษากูเกิลจนเจอเว็บเขามีขายซีดีอะไรแบบนี้เต็มไปหมด แต่หาเพลงกระต่ายไม่เจอ เพราะเขาขายแยกหลายอัลบั้มมมากๆ แล้วก็มีแบบเพลงรักชาติ เพลงรักวัฒนธรรม เพลงอะไรที่เป็นแนวสะกดจิตเด็ก 555555 พอดีอยากได้แค่เพลงแนวเปิดสนุกๆ สัตว์กระโดดน่ารักอะไรแบบนี้ก็พอ

เลยส่งข้อความไปหาที่บริษัท ว่าขอซื้อไฟล์เพลงนี้เพียวๆ ได้ไหม ไม่รู้เขาจะขายไหม ขายเถอะ 55555

ฟรีแลนซ์: ห้ามอะไรดีวะ เขาเล่นกันไปหมดแล้ว

อย่าว่าแต่การรีวิวเลย นี่ผมนึกได้ว่าผมแทบไม่เคยเขียนบล็อกเกี่ยวกับหนัง

แต่กับเรื่องนี้ ไปดูมาเมื่อวานซืน จนตอนนี้มันยังวนอยู่ในหัว สลัดไม่หลุด สมควรต้องระบายออกด้วยการเขียนถึงใช่ไหม

(มีคติอยู่อย่างนึงว่า พอดูหนังจบ เดินออกจากโรงแล้ว ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม ถ้าหนังมันยังวนเวียนในหัว อันนั้นคือหนังที่มีคุณค่าทางโภชนาการ)

ผมไม่ชอบหนัง GTH ยุคหลังๆ เลย โอเครู้ว่ามันเป็นที่ตัวเองด้วยแหละที่พ้นจากกลุ่มเป้าหมายของคนทำหนังออกมาไกล ทั้งวัย ทั้งหน้าที่การงาน และทั้งรสนิยม

คือดูหน้าหนังแต่ละเรื่องแล้วก็เฉยๆ แบบ ถ้าว่างค่อยไปดูโรงก็ได้ แต่ถ้าไม่ว่างก็ค่อยไว้ดูที่บ้าน และความรู้สึกหลังดูก็คือ เฉยๆ ซะเป็นส่วนใหญ่

รู้สึกว่าเรื่องสุดท้ายที่ดูแล้วชื่นชมก็คือลัดดาแลนด์…

สำหรับหนังเรื่องล่าสุดที่มนุษย์ออนไลน์รอบตัวทุกคนคงเคยเล่นเครื่องผลิตโลโก้ออนไลน์สนุกๆ มาแล้ว (มารู้ทีหลังว่ามีสองเวอร์ชัน เวอร์ชันออริจินัลนั้นกลับเป็นการทำเอาสนุก และโด่งดังเป็นอันมากโดยไม่ต้องมีเจตนาเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ผมนับถือคนแบบนี้)

เป็นครั้งที่ค่ายหนังตั้งใจขายหน้าตาของผู้กำกับพอๆ กับนักแสดงนำ จนตอนนี้คนเริ่มรู้กันแล้วว่า เต๋อนวพลมันเป็นคนละคนกับอีกเต๋อโว้ย

นั่นจึงแปลว่า เหล่าแฟนคลับเต๋อ (และซันนี่) จงมาดู ส่วนคนอื่น ถ้าสนใจเนื้อเรื่องในหนังตัวอย่าง จงมาดู เห็นไหมว่ากลุ่มเป้าหมายนั้นชัดและแข็ง ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย

ข้อเสียคือมันไม่กว้าง คือถ้าหนังแม่งโคตรดี สมควรดู แต่รายได้ก็คงไม่เยอะเท่าหนังผีตลกที่ค่ายเคยทำ ซึ่งตรงนี้ค่ายเองก็รู้ และตัดสินใจว่าเอาแบบนี้แหละ ขอให้มีหนังแบบนี้บ้าง ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผมนับถือ

อ้อ ลืมบอกไปว่าผมมาดูเพราะใหม่ดาวิกา อันนี้เรียกว่ารักเลยเถอะ (เมียอย่าอ่านบรรทัดนี้นะ)

ยังไม่ได้พูดเรื่องหนังเลยว่ะ ขี้จะเสร็จแล้วเนี่ย

รีวิวสั้นๆ คือ “ไอ้ห่า โคตรจี้ใจดำ ขอดูซ้ำและเชียร์” ส่วนรีวิวยาวๆ ก็จะกล่าวถึงต่อไปนี้

image

เอาตั้งแต่ชื่อเรื่อง: ผมไม่ชอบนะ แต่มาชอบเอาตอนที่ทุกคนต่างเล่นคำพลิกแพลงกันออนไลน์นี่แหละ อีตาลุงคนคิดชื่อแกคิดถึงเรื่องนี้ด้วยแล้วแน่ๆ ถ้าใช่ก็เซียนมาก ถ้าไม่ใช่ก็ลุงโชคดีมาก

หน้าหนัง: ก็อย่างที่บอก มันแคบกว่าเรื่องอื่น อันนั้นช่างมัน พูดไปแล้ว แต่ที่เจ็บใจคือถ่ายนางเอกมาไม่สวย รอยยิ้มเหมือนแม่นาคเลย โกรธ

เนื้อหนัง: (ไม่สปอยล์) ไม่ได้ดูการแสดงของซันนี่แล้วชอบมานานมากแล้ว เรื่องนี้นับถือผู้กำกับที่ดึงเสน่ห์ของซันนี่ออกมาได้เต็มร้อยมาก แล้วแม่งก็มีเสน่ห์จริงๆ ถือว่าใช้คนถูกทางมากๆ ผิดกับเรื่องก่อนหน้า (อ๊ะ เราจะไม่ด่าพาดพิง)

ส่วนใหม่ดาวิกานี่โคตรเซอร์ไพรส์ ผมคิดว่าใหม่เป็นนางฟ้าหรือนางในวรรณคดีมาตลอด คือหนังแต่ละเรื่องนี่ถ้าไม่พูดช้าก็ต้องพูดเป็นภาษาเขียน มันไกลความเป็นมนุษย์จนนึกว่าหญิงสาวคนนี้พูดแบบนั้นในชีวิตจริง ซึ่งในเรื่องนี้ แม่ง (นั่นไง มีคำว่าแม่ง) แม่งเป็นมนุษย์มากๆ มันจริงมาก

ไม่ต้องไปพูดถึงฉาก หรืองานภาพในหนังที่ตั้งใจเซ็ตให้เหมือนถ่ายส่งๆ ไม่ตั้งใจ (ตั้งใจให้เหมือนไม่ตั้งใจว่าตั้งใจไง งงไหม) ข้อนี้เหล่าคนดูหนังของเต๋อคงชินแล้ว แต่ผมแทบไม่เคยดูเลย 55555 แต่รู้แหละว่านี่คือความตั้งใจ ซึ่งมันดีมาก ชอบทุกฉากที่ดูรกตา ขอคารวะ

เนื้อเรื่อง: ผมตกใจที่สุดคือการเห็นตัวเองไปโผล่ในหนัง (ช่วงแรก) ได้เป๊ะขนาดนี้ ตอนฉากแบกคอมไปทำงาน หรือฉากหลับคาโฟโต้ช็อปที่แต่งภาพเบี้ยวๆ นี่ร้องเย็ดเข้ออกมาเลย นั่นมันกู! มึงเอาทวีตกูไปทำหนังใช่ไหมอีเต๋อ บอกมา

การออกแบบสถานการณ์นั่นนี่ในหนัง แม่งใช่เลยครับ มันก็คือการเอาตัวเอง (ผู้กำกับ) มาเล่าเรื่องเสียดสีจิกกัดประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ต้องจริงกว่าการมโนเรื่องที่ไม่ถนัดอยู่แล้ว ดังนั้นมันเลยเป๊ะไปทุกช็อตแบบแทบไม่มีไขมันส่วนเกิน

พอเข้าสู่ช่วงที่เจอหมอ และสู่ช่วง “Whiplash” ร้อยเรียงไปจนจบเรื่อง อันนั้นไกลตัวออกไปละ แต่ก็เป็นการมโนที่กลมกล่อม

และตั้งคำถามมากมายให้คนดูอย่างผม ซึ่งเป็นกลุ่มที่สัมผัสประสบการณ์ร่วมเต็มๆ ได้คิดวนเวียน วนเวียนอยู่ในหัว

คิดถึงเหตุการณ์ในปีนี้ ที่เห็นเลยว่าตัวเองสุขภาพแย่จากการทำงาน (ของผมไม่ใช่ตุ่มขึ้น แต่เป็นตาบวมสลับซ้ายขวามาตลอด หาหมอเป็นสิบรอบแล้ว นี่ตอนเขียนบล็อกนี้กำลังบวมข้างขวา)

คิดถึงการไปตรวจสุขภาพครั้งแรกในชีวิต กับเพื่อนหมอที่ผมเคยแอบชอบสมัยเป็นสาวแว่นอยู่ ม.ต้น แต่ตอนนี้มีผัวแล้วและกำลังจะมีลูก (รู้ว่าท้องในวันที่ผมไปตรวจกับมันพอดี เฮ้ยอะไรวะ) ประเด็นสำคัญคือตอนนี้สนิทกับเมียผมจนเมียบังคับให้ไปตรวจกับมันนั่นแหละ ไงล่ะ… ชะตาชีวิตก็แบบนี้

ที่แน่ๆ คือสารพัดคำเตือนจากหมอ มันช่างเหมือนกับในหนัง และพฤติกรรมเหลวแหลกที่พระเอกทำเพราะห้ามทิฐิตัวเองไม่ได้ นั่นก็คือสิ่งที่ผมโดนตีเข้าจังๆ

ดูจนจบแล้วก็ยิ้ม ว่าเออ ทำมาดี เป็นหนังเพื่อมนุษย์อย่างเรา แต่ก็ยังเป็นมิตรกับคนที่ไม่ใช่มนุษย์อย่างเรา เลยใครถามว่าดีไหม ก็จะเชียร์ในนามของเรา

ขอบคุณที่ทำหนังดีๆ ครับ (โค้ง)

อาชีพฟรีแลนซ์มันไม่ได้อิสระเสรีอย่างที่คนข้างนอกมองกันนะครับ แต่ทำไมก็ไม่รู้ วิถีชีวิตแบบนี้แหละที่มันใช่จริงๆ นี่ถ้าไม่มีลูกเมียและร่างกายเริ่มเตือนว่ามึงควรถนอมสังขารดูบ้าง

ผมก็คงเป็นพวกห้ามป่วยห้ามพักเหมือนกัน

แต่รักหมอนี่คงไม่ไหว เมียกูเอาตาย

.

ป.ล.
เพิ่งผ่านตามาว่ามีคนรีวิวด่าเรื่องนี้เยอะ ผมยังไม่ได้อ่าน (กลัวความรู้สึกคนอื่นมาเปื้อนไปด้วย) เขียนเสร็จแล้วค่อยไปหาอ่าน

ป.อ.
ไม่ได้ดูทีวี และไม่ได้ติดตามช่องทางการโปรโมตของ GTH เลยแม้ในสื่อออนไลน์ใดๆ นึกได้ว่าค่ายนี้ขยันทำสกู๊ปเกร็ดนั่นเกร็ดนี่นี่นา เดี๋ยวไปหาดูดีกว่า (เลือกเฉพาะที่มีน้องใหม่)

ป.ฮ.
สารพัดหมอและเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ-หัวหิน ตึงมากครับ

#30DaysdrawingTH (Part 1/3)

จากทวีตของหมูมะนาว

มีแปลเป็นไทยด้วย

ตามที่ช่วงนี้มีนโยบายว่าอยากทำอะไรสักอย่างให้แต่ละวันมีความหมาย พอมีสิ่งนี้ขึ้นมา ผมเลยเอาด้วย Continue reading #30DaysdrawingTH (Part 1/3)

#หนีกรุง Last Day: เมื่อคืนลืมเขียน

นอนอยู่ดีๆ เมียเรียกแง้วๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ว่าให้ลุกมาดู เลยตื่นมา ก็เจอไอ้แบบนี้เลย โอเคเนอะ ชีวิตดีแล้ว

ไอ้คำว่าชีวิตดีนี่มันเป็นสแลงที่ใช้ในการแซะได้ไงไม่รู้ 5555 แต่เออ มันก็เป็นพัฒนาการต่อเนื่องจากนิสัยร่วมของมนุษย์ออนไลน์ที่ระบบมันเอื้อให้เกิดการอวดกัน มีอวดแล้วก็มีอิจฉาหมั่นไส้อีพวกขี้อวด แล้วก็มีคนที่ออกมาแซะคนที่ไปด่าคนที่หมั่นไส้อีกที ว่าเงินของเขาจะไปเสือกเขาทำไม

โลกแม่งซับซ้อนขึ้นทุกวัน

ชีวิตก็เช่นกัน บทจะง่ายก็ง่าย บทจะซับซ้อนก็ซับซ้อน เมื่อคืนก่อนคุยงานทางโทรศัพท์ (เดือนนี้เพิ่งเคยใช้โทรศัพท์ และอันที่จริง… เพิ่งเคยคุยงาน) ได้รับคำถามที่ตอบยากว่า ตอนนี้ทำอะไร ลาออกมาทำอะไรบ้าง

นึกคำตอบเท่ๆ อยู่นานแต่ก็ไม่รู้จะไปทางไหน ได้แต่บอกว่า ก็ตั้งใจจะเกษียณตัวเองมาเลี้ยงลูก กับรับทำงานกราฟิกกรุบกริบทั่วไป มีเปิดร้านสกรีนเสื้อเล็กๆ แล้วก็ช่วยงานเมียที่ร้านนลินฟ้าเป็นรายได้หลัก อะไรแบบนี้ ดูสล็อตแมชชีนดี

ส่วนวงการเว็บนี่คือวางมือโดยสิ้นเชิงเลย ตอนนี้ความรู้หยุดอยู่แค่ยุคออกแบบเว็บด้วยโฟโต้ช็อปแล้ว (ในขณะที่โลกไปไกลกว่านี้อีกแล้ว บัดซบ) (เออ แต่วันก่อนยังเห็นคนใช้ Dreamweaver เขียนเว็บผ่านตาอยู่เลย) ก็เอาน่า ถ้ามีงานเข้ามาก็โยนสิ่งที่ไม่ถนัดไปให้เพื่อนพี่น้องในวงการต่อไปได้ละกัน

มาเที่ยวทั้งทีดันนึกเรื่องงานทำไม โวะ

แค่จะบอกว่าเช้านี้ตื่นเต้นที่ได้เห็นเมียตื่นเต้นที่ได้เห็นแสงแรกของวัน ที่สวยมากๆ สวยจนคนที่ไม่เคยอะไรกับสุนทรียะทางสายตาอย่างเมียผม ได้แสดงความชื่นชมออกมา

นั่นคงแปลว่าเราน่าจะมาถูกทางแล้วปะ

วันนี้กลับกรุง ไม่สิ ขอแวะแถวๆ ปริมณฑลอีกหน่อย แล้วค่อยกลับบ้าน ไม่รีบเนอะ

ไอ้ที่ดูเด็กจะเป็นความสโลว์ไลฟ์อะไรแบบนี้ไม่มีจริงนะครับ เห็นงี้ก็ทำงานเหมือนกัน แต่แค่วางแผนงานให้คล่องตัวจนสามารถออกแบบวิถีชีวิตให้มันหอบลูกเมียตระเวนไม่ต้องติดบ้านติดที่ทำงานได้ ก็เท่านั้นเอง

#หนีกรุง Day 7: #SleepForMom

image

นี่เพิ่งตื่น

ปกติกลางคืนจะช่วยกันกับเมีย กล่อมลูกให้หลับทั้งสองตัว แล้วพอหลับสนิทค่อยลุกขึ้นมาทำอะไรกันสองคน (งานน่ะงาน)

แต่นี่เป็นคืนแรกในนับตั้งแต่เร่ร่อนรอนแรมเที่ยวมา 7 คืน ที่หลับสนิทไปกับลูกด้วย แต่ตื่นมาเพราะโทรศัพท์สั่น แล้วก็นึกได้ว่ายังไม่ได้ตอบลูกค้าประจำวันนี้เลย เลยตัดสินใจลุกขึ้นมาอุ๊จและเขียนบล็อกนี่ก่อน

คงเป็นเพราะฤทธิ์เดชของที่นอนยักษ์กว้าง 3 เมตรและหมอนดูดวิญญาณของห้องแฟมิลี่แห่ง “นอนดี” โรงแรมเล็กๆ ใหม่เอี่ยมแห่งหัวหิน ที่อยู่เยื้องๆ ตลาดจักจั่น (ชิคาดา) ซึ่งเป็นของเพื่อนผมเอง เลยเขียนพิกัดซะละเอียด… เผื่อคราวหน้ามันให้นอนฟรี

เออ เชื่อแล้วว่านอนดีมึง “นอนดี” จริงๆ

ไหนๆ พูดถึงชื่อที่พักชัดๆ เป็นครั้งแรก เลยนึกได้ว่า ที่จริงการมารอนแรมแบบนี้มันเลยได้เปรียบเทียบว่า ธุรกิจรีสอร์ต-โรงแรม-เกสต์เฮาส์ ใน พ.ศ.นี้ ไม่ว่าจะเป็นที่พักแนวป่าเขาหรือแบบสลิ่ม การมาใช้บริการนี่คือเชื่อรีวิวจากพวก Agoda หรือพันทิปซะเป็นส่วนใหญ่ (คงเป็นวิถีปกติของคนเมืองไปแล้ว) และพอมาจริงๆ ก็จะแอบคาดหวังไว้หน่อยและนึกถึงคำโฆษณาจากปากผู้ใช้บริการแวบเข้ามาในหัวเป็นระยะ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยผิดหวังนะครับ ไม่รู้เพราะว่ามันเป็นการเที่ยวในวันธรรมดาด้วยหรือเปล่า

และการเที่ยววันธรรมดาก็ให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ที่มีทั้งข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป

เอาข้อเสียก่อนละกัน อย่างแก่งกระจานที่ผ่านมานี่เห็นเลยครับว่าวันธรรมดาเป็นวันพักผ่อนของพนักงาน เพราะคนน้อยน่ะนะ เหมือนเราไปรบกวนเขา 5555

ส่วนข้อดีก็คือราคาถูก อันนี้ชัวร์ใช่มะ อีกอย่างคือการได้สัมผัสสถานที่และธรรมชาติรอบๆ โดยไม่มีคู่แข่ง (หมายถึงนักท่องเที่ยวอื่นๆ) มาทำให้เขิน

มีวันนึงที่ตื่นมาปั่นจักรยานสำรวจรีสอร์ตอื่นๆ แถวๆ แก่งกระจาน ก็พบว่าแต่ละรีสอร์ตแทบไม่มีคนเลย ลองแวะๆ เข้าไปดูเจ้าที่อยู่ใกล้กับที่ไป บางทีก็เศร้า คือมึงทำธุรกิจแบบตีหัวเข้าบ้าน ทำที่พักส่งๆ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะๆ ก่อสร้างต่อเติมแบบไม่แคร์ธรรมชาติ หรือไม่คิดถึงคุณค่าอะไรจากทรัพยากรที่มี

บางแห่งได้ยินชื่อมานานก็แวะเข้าไปดู แล้วก็เหี่ยวใจ โดยเฉพาะเจ้านึงที่ถึงกับติดป้ายโฆษณาไว้ตลอดถนนด้วยสโลแกนประมาณว่า “ท่านกลับไปแล้วจะไม่ผิดหวัง” เอ๊ะทำไมใช้คำที่ให้อรรถรสแปลกๆ เหมือนตีแผ่วงการยังไงอยู่นะ ก็เลยเลี้ยวเข้าไปดู

ริมแม่น้ำสวยๆ พี่ก็เอาสไลเดอร์สีแปร๋นๆ ไปวางยืนลงน้ำเพื่อเอาใจแขก (แปร๋นจริงๆ แล้วแต่ละแห่งนี้แข่งกันแปร๋นมาก เคยล่องแพยางผ่านแล้วหดหู่) ต้นไม้ใหญ่ที่มีก็โค่นซะเหี้ยน เพื่อตั้งบ้านน็อกดาวน์เป็นหลังๆ ขยายบริเวณไปเรื่อยๆ แบบไม่ได้มีการวางแผนที่ดี เห็นแล้วอึนๆ แปลกๆ แต่ก็เข้าใจว่าสำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ คน ไอ้การทำแบบนี้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่นา คนเที่ยวได้เล่น เจ้าของได้ตังค์ วินวิน แต่มันไม่วินสำหรับสภาพแวดล้อมเลยนะ

ก็พอรู้นะครับว่าเงินมันดี วันหยุดทีนึงคนก็แห่กันมา โกยได้ก็โกย แต่มันสร้างภาพจำที่ไม่ดีกับแหล่งท่องเที่ยวบริเวณนี้ไปเลย

ถึงขนาดคิดว่าถ้ามีตังค์สักสิบยี่สิบล้าน จะเปิดที่พักเก๋ๆ เล็กๆ แต่ใจเขาใจเราแม่งแถวนี้แหละ จะล้างภาพลักษณ์ที่พวกแกทำเอาไว้

เชื่อแล้วว่าพอกลับออกมาแล้วจะไม่ผิดหวัง

และเจ็ดวันที่ผ่านมานี้เองที่ได้ไปเที่ยวแถวบ้านบ้าง แถวอื่นบ้าง แต่โจทย์คือไม่ไปที่ที่เคยไปเลย เหมือนเป็นการสำรวจลงลึกและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่อาจจะมองข้ามไปก่อนหน้า ซึ่งแบบนี้ก็โอเคนะ

ไม่ได้รักชาติอะไร แต่รู้สึกว่าเมืองไทยเรานี้ยังมีที่ที่น่าไปสัมผัสอีกเยอะมาก คงหาโอกาสเก็บแต้มไปเรื่อยๆ แหละ (ทั้งนี้ต้องเป็นมิตรกับเมียและลูกเล็กด้วย)

ที่ว่ามาทั้งหมดนี้จะบอกว่าปัจจัยในการชอบหรือไม่ชอบที่พักและตัดสินใจจะมาซ้ำในโอกาสถัดไปนั้นมีหลายอย่าง สวย คุ้มค่า บริการโอเค อาหารอร่อย มีดีเทลกุ๊กกิ๊กให้ก๊อป (โดยเฉพาะนอนดีหัวหินนี่ดีเทลสวยๆ เยอะมาก เพราะเจ้าของเป็นแก๊งสถาปนิก)

ฯลฯ

เออ สำคัญที่สุดคือเน็ตต้องไม่กากนะ โอเคนะ