รวมพลังอะเวนเจอร์สแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา

เมื่อคืนจะนอน อยู่ดีๆ ก็เจอฟีดน่าสนใจไหลเข้ามา เลยตาสว่าง ยืดเวลานอนไปอีกหน่อย

หลายๆ โครงการของรัฐบาลนั้น เราๆ ท่านๆ ก็รู้กันว่ามันโคตรจะราชการ (และโคตรจะขับเคลื่อนด้วยอำนาจการเมือง) ไม่ว่าจะเกิดมาในยุคประชาธิปไตยกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม ที่พอโครงการอนุมัติสร้างจริงนั้น แม่งจะดู “รีบ” เสียเหลือเกินไปทุกโครงการ แม้ข้อความสามบรรทัดแรกจะดูสวยหรูแค่ไหนก็ตาม

โครงการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาของรัฐบาลทหาร ที่ดูเหมือนจะดี คือจะให้คนเดินและจักรยานวิ่งชมวิว (ฟังดูดีนะ) แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็คลอดมาเป็นถนนแข็งๆ แห้งๆ และโคตรจะราชการ ไม่ต่างจากอีก 87,609,335 โครงการที่เคยผ่านมา ว่าขอเบิร์นงบให้หมดทันปีนี้หน่อยเถอะ เห็นแล้วก็…

เอาเป็นว่าเราข้ามเรื่องบ่นซ้ำๆ ซากๆ ไปเลยละกันครับ มาเรื่องใหม่เลยดีกว่า

ขนาดผมไม่ได้อยู่ในวงการสถาปนิกนี่ยังรู้เลยว่า การที่มึง เอ๊ย คุณเอาถนนแข็งๆ มาวาง โป้ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปิดไม่ให้แสงส่องลงไปในน้ำทั้งสองข้างเท่าๆ กันนั้นมันสร้างความเลวร้ายให้กับทั้งระบบนิเวศแค่ไหน ไม่ต้องกับสิ่งแวดล้อม สัตว์โลกพืชพรรณแพลงตอนที่ฟังดูไกลตัวหรอกครับ เอาแค่ชาวบ้านที่อยู่ริมฝั่ง วันหนึ่งมีถนนมาคั่น​โป้ง ระหว่างพื้นที่ชีวิตของตัวเองในระดับสเกลมนุษย์ กับแม่น้ำที่เคยตื่นมาแปรงฟันแล้วบ้วนหรือฉี่ลงน้ำ แต่ระยะทางของแผ่นคอนกรีตที่กำลังจะมานั้นแม่งใหญ่เบิ้มเท่าๆ กับเลนถนนยักษ์ๆ ที่ขีดโดยไม่ได้ใช้หัวใจ ไม่ได้สนสี่สนแปดอะไร สนอย่างเดียวคือความอารยะในทรรศนะของท่าน

แน่ใจนะว่านี่ผ่านการประกวดแบบมาแล้ว (เอ๊ะหรือไม่มี…)

แถมแนวถนนของโครงการนี้แม่งนับได้หลายกิโล และทำท่าว่าถ้าไม่มีใครขัด ก็จะขยายยาวออกไปอีก “ตลอดแนวชายฝั่ง”

เรา–ชาวบ้านที่ไม่ได้อะไร ก็ยังรู้สึกว่าแปลกๆ แหม่งๆ แล้วคนที่ซีเรียสเรื่องนี้โดยตรง อย่างวงการสถาปนิกที่เขามีความรู้ และมองเห็นว่าต่อไปนี้มันจะมีบั๊กชิ้นใหญ่มากกับอนาคตของลูกหลานเรา และอีกสารพัดปัญหาที่จะกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตอย่างชัดเจน

เขาจึงออกมารณรงค์กันครับ

การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นจากหลายทาง มีการรวมตัวกันเป็นภาคีทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ในทางการนั้นเขาก็จับมือกันยื่นหนังสือไปยังรัฐบาลเพื่อขอทบทวนโครงการ ชี้ให้เห็นข้อเสียที่จะเกิดขึ้น โอเค อันนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของคนและสมาคมที่ถนัดสายทางการไป

โลโก้เกือบสวยแล้ว (ชอบ พพพ)
โลโก้เกือบสวยแล้ว (ชอบ พพพ)

อ่าน: ผังเมืองจุฬาฯนำ ‘ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา’ ค้านรูปแบบทางเลียบเจ้าพระยา

กับอีกขานึงที่เวลารณรงค์เขาจะต้องหาแนวร่วมด้วยการใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางรณรงค์ หลักๆ คือบอกชาวบ้านให้รู้ว่าเออ อีโครงการของรัฐบาลนี่มันมีปัญหาแบบนี้ เราเห็นแบบนี้ คุณเห็นด้วยไหม ถ้าไม่แน่ใจ ลองดูสเต็ปถัดไป

เป็นสเต็ปที่ผมสนใจมากจนตาลุกวาว พี่แกมีโครงการ “Sketches for the River Challenge” ด้วยการท้าทายสถาปนิก นักออกแบบแต่ละคน ลองสเก็ตช์แบบมาแจมกัน และท้าต่อไปอีก 3 คน ว่าความรู้และไอเดียของมืออาชีพ (และมือสมัครเล่น) อย่างคุณนั้นจะเอามาช่วยโลกได้แค่ไหน… ความมันส์มันเลยเกิดขึ้นตรงนี้ครับ

คืออย่างผมนี่ตอนเรียนถาปัด (ใช่ เคยเรียนมา แต่ไม่เหลือความรู้แล้ว) ในวิชาดีไซน์ปีแรกๆ สิ่งหนึ่งที่สนุกมากๆ ก็คืองานที่เรียกว่า “Sketch Design” โดยอาจารย์จะโยนโจทย์ลงมา โป้ง ให้เอาไปคิด ออกแบบและนำเสนอไอเดียทั้งหมดลงในกระดาษ A2 โดยไม่จำกัดกระบวนการนำเสนอ (แน่นอนว่ากลวิธีในการนำเสนอแบบเจ๋งๆ ก็ถือเป็นคะแนน) เสร็จแล้วส่งมา ตอนให้คะแนน อาจารย์ก็จะหยิบงานของแต่ละคนมาเปิดดูหน้าชั้น และวิจารณ์กันต่อหน้าเพื่อนร่วมวิชาชีพแบบสดๆ และแสบๆ

ส่วนมากของผมนี่คือโดนสับเละไม่มีชิ้นดี แต่สนุกก็คือสนุก ถึงจะเจ็บปวดแต่ก็สนุก…

แต่พอยุคโซเชียลมาเต็มแบบนี้ Sketch Design ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในกระดาษอย่างเดียว แถมเฟซบุ๊กแม่งแท็กได้ สนับสนุนนโยบาย crowdsourcing idea เท่านี้ความมันส์ก็เลยเกิดขึ้น

ลองดูตัวอย่างผลงานได้ครับ

มุมมองจากภูมิสถาปนิก คุณอรรถพร คบคงสันติ Pocco Kobkongsanti

Posted by ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา on Wednesday, May 27, 2015

เนี่ย วิธีนำเสนอเป็นขั้นเป็นตอนและเห็นกระบวนการคิด สนุกกกก

Urban Design Guidelines ช่วยเสริมการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำได้อย่างไร / ขอบเขตงานของสถาปนิกผังเมือง (urban designers) ที่เชื่อมต่อกับงานของภูมิสถาปนิก (landscape architects) โดย SaKrapat Anurakpradorn

Posted by ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา on Wednesday, May 27, 2015

“ ทางกลุ่ม Friends of the River (FOR) ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม Sketchs for the River Challenge โดยส่งต่อคำท้าไปยังผู้คนร…

Posted by Friends of River on Monday, May 25, 2015

หรือบางทีก็ใช้วิธีนำเสนอแบบอธิบายให้เห็นภาพ พร้อมกรณีศึกษาอย่างเช่นโพสต์นี้

อยากเขียนอธิบายให้คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการออกแบบได้เข้าใจถึงประเด็น ทางเดินริมน้ำเจ้าพระยา 14 กม. ที่มีนักวิชาชีพ/วิชาการม…

Posted by Prapan Napawongdee on Sunday, May 24, 2015

เห็นไหม สนุกออก เนอะะะะะ

พอเท่านี้ก่อนครับ ต้องไปส่งลูกเข้าโรงเรียนแล้ว ถ้าสนใจเชิญอ่านและติดตามได้จากหลายเพจครับ เช่น ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา, Friends of River, TALA Thai Association of Landscape Architects, ฯลฯ (ผมไม่แน่ใจว่าเพจไหนคือเพจหลัก แต่กระจายๆ แบบนี้ก็ดี)

ที่จริงก็อยากเห็นมันลามทุ่งไปถึงคนนอกวงการด้วยครับ ถึงจะมีพื้นความรู้ต่างจากสถาปนิกและภูมิสถาปนิกมืออาชีพก็ตาม แต่งานระดมไอเดียแบบนี้มันต้องการความเห็นและทัศนคติที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดว่าจะถูกผิดหรือรู้มากรู้น้อยกว่ากัน แต่มันคือการแชร์!

#แชร์ไปให้ถึงบิ๊กตู่

ชมพู่ อารยา

ข้ออ้างในการดองบล็อกก็คือ เพิ่งหายปวดตาเมื่อวานนี้ หลังจากเป็นตากุ้งยิงสลับตาแดงมานาน (มีหลายคนที่เป็นเหมือนกัน หาหมอมาแล้วหลายบาทแต่ก็ยังเป็นสลับซ้ายขวาอยู่ บัดซบ)

ชมพู่

ที่จริงจะเขียนเรื่องอื่นอีกมากมายในช่วงที่ไม่ได้จับบล็อกเลย แต่มาเห็นชื่อของคุณชมพู่ อารยา และข่าวคราวรวมถึงความเห็นเชิงบวกเชิงลบเชิงแซะเชิงอิจฉา เชิงแซะคนที่อิจฉาอีกที รวมไปถึงความเห็นที่ลากไปเรื่องวิชาการ ชนชั้น สังคม ฯลฯ โผล่มาในไทม์ไลน์อย่างมากมาย

แล้วก็นึกได้ว่า เราแทบไม่เคยเห็นภาพของชมพู่ หรือชุดแต่งงานในตำนาน (หรือเปล่าก็ไม่รู้) ของชมพู่เลย หรือแม้แต่หน้าเจ้าบ่าวซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร รู้แต่ว่ารวยมากๆ ซึ่งไอ้ที่รู้นี่ก็คือรูจากเศษข้อมูลที่ผ่านตามาจากไทม์ไลน์เช่นกัน

จนเมียเพิ่งเปิดภาพชุดแต่งงานชมพู่ให้ดูวันนี้เอง คือเมียโพสต์ลงเพจร้านนลินฟ้า แล้วมีคนมากดไลก์บ้างชื่นชมบ้างเยอะจนน่าสนใจ เลยมาเล่าให้ผมฟัง

ไอ้ความรู้บ้างไม่รู้บ้าง ถ้ารู้ก็รู้แค่เศษข้อมูล และ/หรือความไม่สนใจ หรือสนใจของข่าวอะไรแบบนี้ นี่แหละน่าสนใจ

สนใจว่าตอนนี้เรา (และเชื่อว่ามันต้องมีคนอื่นบ้างแหละ) ยืนอยู่ตรงไหนของสายธารแห่งข้อมูลหว่า มันไหลบ่ามาจนชาวบ้านร้านตลาดพูดกันขนาดนี้ แต่เราก็แทบไม่เคยเห็นภาพ หรือจับแก่นกระพี้ของข่าวได้เลย โอเค คือรู้แค่คีย์เวิร์ดที่ว่า “ชมพู่ได้ผัวรวย” (ขอโทษนะครับ คือมันสรุปได้แบบนี้จริงๆ ถ้าคุณชมพู่อ่านแล้วไม่พอใจผมขอโทษแรงๆ เลยครับ รักนะครับ ถึงคุณจะมีผัวรวยแล้วก็ตาม)

ซึ่งนั่นก็พอแล้ว ดีเทลอย่างอื่นเช่นสินสอดเท่าไหร่ เจ้าบ่าวเป็นใครทำอะไร มีบ้านมีรถมีชุดสวยๆ หรือมีดารามาร่วมงานอะไรยังไง ไม่ได้สนใจจะใคร่รู้ และชีวิตก็ปกติสุขดี

เลยนึกถึงเมื่อสมัยที่ทำงานบริษัทเมื่อ 3 ปีก่อน มีพี่คนนึงที่แกเป็นเซียนในวิชาเว็บ รวมไปถึงเรื่องปรัชญาศาสนาการเมืองอะไรก็คุยกับแกได้ลึกละเอียดพิสดาร ปกติก็คุยกันสรวลเสเฮฮาทั่วไปนั่นแหละครับ

แต่พออยู่มาวันหนึ่ง เราคุยกันเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ผมยกชื่อดาราสาวไทยที่ตึงๆ เอ็กซ์ๆ ขึ้นมาคนนึง คือชมพู่นี่แหละ

…พี่แกงง “ใครนะ?”

โลกของแกไม่เคยรู้จัก หรือได้ยินชื่อดาราคนนี้มาก่อน แต่เฮ้ย สามปีที่แล้วชมพู่ก็โดดมาเป็นดาราเกรดเอแถวหน้าของเมืองไทยเทียบเท่าอั้มแล้วนะ มีคนไม่รู้จักด้วยเหรอ

ผมตกใจ แต่มองไปที่แววตาพี่แกที่ไม่มีทีท่าจะรู้สึกว่า “กูผิดสินะที่กูไม่รู้จักดาราคนนี้เลยสักนิด” แล้วก็เกิดพุทธิปัญญาขึ้นมา

เออ จะมีหรือไม่มีชมพู่ ชีวิตเราก็ปกติสุขดีนี่นา

#จบห้วน #เมียเรียก