ที่จริงเรื่องนี้จะเขียนไว้สองสามปีแล้ว แต่ลืมทุกที เพราะมันไม่ได้จี๊ดขึ้นมาตอนที่อยู่หน้าคอม
พอตะกี้เพิ่งเห็นข่าวนี้ของเมื่อวานซืน แล้วยังโยงไปข่าวที่สองอีก.. ก็เลยเป็นแรงผลักให้เขียนถึงสักหน่อย
- สาวเมืองเพชรหวิดดับถูกกระสุนรับจันทรุปราคาตก
- โผล่อีก 2 รายกระสุนปืน 11 มม.รับจันทรุปราคาทะลุหลังคาบ้านที่เพชรบุรี
เมื่อคืนก่อน ที่มีจันทรุปราคาแล้วก็ตามสูตร มีโหรทำนายว่าประเทศเราจะฉิบหาย
ด้วยเหตุเพทภัยครบทุกชนิดเท่าที่หมอดูแกจะจินตนาการออกด้วยหลักวิทยาศาสตร์นั่นแหละ
คือดูในข่าว แม่งลิสต์มาแบบเหมาทุกความฉิบหายเลยครับ คือนึกว่าจะไม่เกิดอะไรยังยากกว่าเลย
ผมกลับเพชรบุรีไปเยี่ยมพ่อแม่และรายงานตัวเป็นครั้งแรกตั้งแต่น้ำท่วมครับ
ไปถึงก็เกือบๆ สามทุ่มพอดี ก็ตอนที่ราหูกระเดือกจันทร์ไปอย่างเงียบๆ นั่นแหละครับ
แต่ที่ไม่เงียบเพราะรอบๆ ตัวได้ยินแต่เสียงปืน.. ปืนนะครับไม่ใช่ปะทัด และคนยิงก็คือคนบ้านใกล้ๆ ผมเองทั้งนั้น
คือแถวบ้านที่เพชรเขาจะมีธรรมเนียมห่าเหวอยู่ว่าพอถึงหน้าเทศกาลไม่ว่าจะปีใหม่หรือฉลองอะไร
เขาก็จะยิงปืนขึ้นฟ้ากันให้หมดแม็ก หมดแล้วเติมใหม่ แล้วยิงอีกให้หมด เรียกว่ามีโอกาสก็จัดซะคนละเป็นร้อยๆ นัดเลย
ขอโทษ ไอ้ที่ยิงนั่นไม่ใช่เพราะงมงาย อยากไล่ราหูหรืออะไรหรอกครับ
แต่เป็นการ “ประกาศแสนยานุภาพ” ของแต่ละบ้านว่าบ้านกูมีอาวุธปืนในครอบครองแค่ไหน กี่ ม.ม.
อันนี้เรื่องจริงครับ เจอมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่สมัยขโมยขโจรชุมๆ จนเดี๋ยวนี้มาถึงสมัยดราม่าการเมืองกันเยอะๆ
การประกาศตนว่า “บ้านกูมีปืน” ด้วยการยิงขึ้นฟ้าในคืนเทศกาล หรือตามงานบวชงานแต่ง จึงยังคงทำกันอยู่เสมอมา
คืนนั้นผมยังทวีตอยู่เลยว่านึกถึงข่าวที่มีคนเคยโดนกระสุนที่หล่นจากฟ้าตายแล้วก็เสียว จนไม่กล้าไปยืนกลางแจ้ง
ซึ่งในข่าวที่ดังไปทั่วประเทศเมื่อปี 2551 ก็คือน้องฟลุค-เด็กเพชรนี่แหละครับ
น้องเขาว่ายน้ำอยู่ในสระอยู่ดีๆ ก็โดนกระสุนลอยตกทะลุหลังคาสระว่ายน้ำ ลงมาเจาะหัวพอดี
โป๊ะ..
เมื่อหมอไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เราเลยเสียคนบริสุทธิ์ไปหนึ่ง (สอง สาม สี่ ห้า) คน
และยังไม่หยุดนับจำนวนศพที่จะยังมีต่อไป ตราบที่ไอ้จารีตบ้าบอนี่ยังไม่มีใครลุกขึ้นมาต่อต้านเสียที
แล้วในวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมาเมื่อสักราวๆ สองสามปีที่แล้ว
ผมไปนอนบ้านแม่ยายที่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี (ที่เจริญน้อยกว่ารังสิตเยอะ) เพื่อจะได้ตื่นมาทำบุญตักบาตร
ห้องที่นอนนั้นมีเพียงหลังคาและฝ้าเพดานกั้นเรากับท้องฟ้าข้างบน และคืนนั้นก็มีกระสุนตกทะลุหลังคาลงมา
ห่างจากจุดที่น้องอีกคนนอนอยู่แค่เมตรเดียวได้ละมั้ง แบบนี้ไม่รู้จะเรียกว่าเคราะห์ดีได้ไหมเหมือนกัน
ที่จริงกระสุนปืนที่ยิงขึ้นฟ้า และหล่นลงมาทะลุหลังคาบ้านมาโดนคนที่อยู่ข้างใต้เนี่ย
อ่านมาจากหลายๆ ที่ เขาก็บอกว่าความแรงของมันเท่าๆ กับการยิงออกจากปากกระบอกปืนเลยนะครับ
เพราะเวลายิงมันจะเป็นวิถีโค้ง (คือยังไงเรายิง 90 องศาขึ้นฟ้าไม่เป๊ะกันอยู่แล้ว) ยังไงก็จะไปจบสักที่อยู่ดี
ก็อยู่ที่ว่าใครจะซวย พระเจ้าหลับตาปาลูกดอกไปโดน โป๊ะ.. ก็สวัสดีครับ ได้ออกข่าวสั้นทันโลก กรอบเล็กๆ
แม้จะมีประกาศกันพอเป็นพิธี หรือล้อมคอกกันตอนวัวหายเป็นระยะๆ
แต่ตราบใดที่ยังไม่มีลูกหลานใครโดนโป๊ะเข้ากับตัวตรงกลางกบาลพอดี แม่งก็ไม่เลิกกันหรอกครับ
คือที่จริงมันไม่ใช่ประเพณีเก่าแก่อะไรเลยนะครับ เพิ่งมาฮิตกันเมื่อสมัยผมเด็กๆ นี่เอง
หรือถ้ามันเก่าแก่แต่เฮงซวยแบบนี้ ก็เลิกได้ครับ บรรพบุรุษไม่ว่าหรอก
เผื่อจะสนใจ
- ยิงปืนขึ้นฟ้า เจตนาฆ่าคน (ว่าด้วยเรื่องกฎหมาย)
- อันตราย…..ภัยที่มองไม่เห็น….จากการอยู่ในที่โล่งแจ้ง….. (คนนี้เจอกับตัว มีภาพด้วยครับ)
- คดียิงปืนขึ้นฟ้ากระสุนตกใส่ / ยิงปืนขึ้นฟ้าแต่มีคนตาย (อันนี้มีหลายข่าวครับ)
ป.ล.
ภาพพระจันทร์ข้างบนนั่นผมพยายามถ่ายแล้วครับ กะว่าจะได้พระจันทร์ดวงกลมๆ โตๆ กะเขามั่ง
แต่กล้อง GF1 ที่มี เลนส์มันซูมไม่ได้ เลยอดเป็นน้าๆ เลย