ปั่นจักรยานสร้างบ้าน

หนองแฟบ

ทีแรกว่าจะเขียนเป็นประเด็นๆ ไป นั่นคือเรื่องปั่นจักรยานหนึ่งล่ะ สร้างบ้านอีกหนึ่งล่ะ แต่นี่คือเพิ่งปั่นเสร็จ จอดรถไว้แล้ววิ่งขึ้นมาเปิดคอมเลย ไม่งั้นเหงื่อแห้งแล้วจะไม่ได้เริ่ม …ชื่อเรื่องของบล็อกนี้ก็เลยดูจับฉ่ายส่งเดชอย่างที่เห็น

1. ปั่นจักรยาน

มี Tern Link C7 อยู่คันนึง เป็นจักรยานพับที่ซื้อไว้ปั่นไปตลาดลาดปลาเค้าเพื่อซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ลูก หรือน้ำขิงให้เมียเท่านั้น ไม่รู้จักวงการออกทริปหรือเข้ากลุ่มสมาคมใดๆ แถมยังนานๆ ทีที่จะปั่นไปธุระในเมือง (ไปต่อรถไฟฟ้าอีกที) แน่อนอนว่าทั้งหมดคือเอาไว้เดินทางตอนอารมณ์ดีๆ ไม่ได้ปั่นเพื่อออกกำลังกายเลย ดังนั้นระยะเกินยี่สิบกิโลนี่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่มีปัญญา 5555 (ที่จริงสาเหตุหลักคือลูกสาวสองตัวมันยุ่ง หนีไปปั่นคนเดียวไม่ได้ สงสารเมียรับมือคนเดียวไม่ไหว) (ข้ออ้างฟังขึ้นนะ)
ทั้งนี้เวลาไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ ทีนึงก็จะขออนุญาตพับยัดใส่ท้ายรถไว้เพื่อหาโอกาสตอนเช้าๆ ไปปั่นชมวิวสักหน่อย แน่นอนว่าไม่เคยปั่นเกินสิบกิโลหรอก เพราะปั่นไปก็ถ่ายรูปไปตลอด เป็นพวกสนใจกับอะไรข้างทาง มันได้สุขภาพใจ แต่สุขภาพกายไม่ได้

แรงบันดาลใจในการเริ่มปั่นก็คงเพราะตอนไปเที่ยวโอซาก้าเมื่อ 2 ปีก่อน (เป็นรุ่นท้ายๆ ที่ค่าตั๋วเครื่องบินขนาดมีโปรยังแพง แถมต้องทำวีซ่าญี่ปุ่นด้วย มันน่าภูมิใจไหมสัส) แล้วเจอพี่คนนี้

Osaka biker

ไอดอลเลย พี่ฮิปได้ขนาดนี้ แถมยังปั่น “เพื่อการเดินทางในชีวิตประจำวัน” โดยไม่ต้องแต่งชุดยอดมนุษย์วาร์ปบอย หรือซื้อจักรยานแข่งมาปั่นในถนนที่มีแต่ฝาท่อระบายน้ำแบบนักปั่นในบ้านเรา ขอแสดงความนับถือและปฏิบัติตามครับ
เสียดายเหมือนกันที่ว่าจะเขียนบล็อกเรื่องไปเที่ยวญี่ปุ่น เอาเฉพาะมุมมองเกี่ยวกับจักรยานที่โอซาก้าอย่างเดียวเพราะสนใจมากๆ แต่ก็ไม่ได้เขียน ในขณะที่อีปิงที่สนใจเรื่องของกิน ก็เล่าไว้อย่างจัดเต็มจนเป็นกระทู้เมพของพันทิปไปแล้ว จนเดี๋ยวนี้คนไทยแม่ง(โชว์การ)ไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยกว่าไปหัวหินอีก ที่สำคัญคือบนท้องถนนเรารู้จักจักรยานกันแล้ว ในขณะที่เมื่อ 2 ปีก่อนมันยังเป็นสิ่งแปลกปลอมอยู่เลย ก็ถือว่าก็ช่างมันละกัน 555 (เรื่องจักรยานที่ญี่ปุ่นนี่ ไปอ่านของ @arjin หรือดูอัลบั้มที่มีแต่ภาพจักรยานนี่ก็ได้)

อันนี้บล็อกจักรยานที่ขยันอัปกว่าบล็อกหลัก ride.iannnnn.com

. Continue reading ปั่นจักรยานสร้างบ้าน

สำนักข่าวจักรยานแม่บ้านรายงานน้ำท่วมลาดปลาเค้า – ม.อารียา /2

//บล็อกตอนนี้อัปเดตเรื่อยๆ ทุกวันในช่วงน้ำท่วมครับ ไล่ดูตามวันที่ได้เลย
ส่วนชาวอารียา สามารถเข้าไปใน Facebook ได้ครับ มีกรุ๊ปรวมชื่อ Areeya Sky และกรุ๊ปย่อย Areeya Mova ครับ

และเนื่องจากเห็นว่าตอนที่ 1 มันยาวเกินไปแล้ว ก็เลยขอหั่นบล็อกเพิ่มเพื่อไม่ให้โหลดโหดไปจ้ะ

.

6 พฤศจิกายน 2554

วันนี้ออกไปเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ หมู่บ้าน และหน้าวัดลาดปลาเค้ามาครับ
กดไปดูขนาดเต็มได้นะ

ลาดปลาเค้า แกรนด์ คาแนล


ลาร์ทพลาเค้าท์ แกรนด์ คาแนล

หน้าวัดลาดปลาเค้า


หน้าวัดลาดปลาเค้า

ป่าชายเลนหน้าหมู่บ้านอารียา


ป่าชายเลนหน้าโครงการ

โครงการ The Colors 1 น้ำเริ่มซึมละ


The Colors เฟสหนึ่ง เริ่มผุดขึ้นมาเป็นสัญญาณแรก

วงเวียน Metro ท่วมหมด


โครงการบ้านเดี่ยวไม่มีวัยรุ่นอยู่เลยขาดแรงงานครับ อันนี้ขอแสดงความเสียใจจริงๆ

ลูกหมาของคนงานเล่นน้ำหนุกหนาน


ลูกหมาของช่างที่ยังคงก่อสร้างบ้านเพิ่มในโครงการครับ
(โครงการยังคงมีการก่อสร้างอยู่นะครับ ใช่ ยังไม่หยุด! ท่วมลูกบ้านโวยแค่ไหนก็ไม่หยุด!)

และนี่คือคลิปจักรยานแม่บ้านรายงานน้ำท่วมเหมือนเดิม


คลิปนี้ยาวหน่อย แต่ลองหัดทำเมนูให้เลือกจิ้มดูเฉพาะที่สนใจได้จ้ะ

.

7 พฤศจิกายน 2554

วันจันทร์ วันทำงาน (สำหรับบริษัทไหนที่ไม่หยุด) ครับ


ตอนเช้าสั้นๆ ถ่ายตอนไปขอข้าวกินฟรีที่ ศปม.ครับ


ส่วนตอนเย็น จัดยาวๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนบ้านชัดเจน

น้ำท่วมอารียา 7-11-54

.

8 พฤศจิกายน 2554


วันนี้ตื่นเช้ามาถ่ายแป๊บนึง แล้วกลับมาทำงานตอนกลางวันครับ เลยไม่ได้ออกไปไหนจนเย็น


ตอนเย็นลองเปิดเส้นทางใหม่ โดยขี่ไปตลาดรามอินทรา ก.ม.2 ซะเลย
อยากรู้ว่ามันจะเป็นไงแค่ไหนกันเชียว แล้วก็พบว่าค่อนข้างแห้งสบายครับ เพราะถนนเขาสูง
แต่พอถึงตลาดก็ท่วมระดับเข่าครับ

น้ำท่วมตลาดรามอินทรา 8-11-54


ที่ตลาดรามอินทรา ก.ม.2 มีคนพายเรือยางเล่นกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ชิวโคตรเลยล่ะ

P1140936 ตลาดรามอินทรา พาโนรามา


เห็นตึกมันเยอะดีเลยถ่ายพาโนรามามาฝากอีกทีครับ (กดไปดูขนาดอื่นๆ ได้ ใหญ่บะเล่ง)

.

9 พฤศจิกายน 2554

วันนี้ทำงานเต็มวัน ปกติจะทำช่วงกลางวันแล้วพักไว้ทำกลางคืน (ที่บริษัทใช้ระบบจับเวลาวันละ 8 ชั่วโมง)
ก็เลยไม่ได้ออกไปไหนเว้นแต่ช่วงบ่ายๆ ที่ไปดูการประชุมเพื่อนบ้านหลายๆ โครงการ เลยเอามาฝาก


ก็เป็นวันเบาๆ สักวันละกันครับ ใครไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านจะได้รู้ว่านี่เขาทำงานกันเป็นระบบนะเนี่ย

.

เว้นวรรคไปสองวันเพราะทำงานตอนกลางวันเต็มเวลาครับ
จนมาวันเสาร์ค่อยได้ออกเดินทางไปถ่ายบรรยากาศมาอีกที

12 พฤศจิกายน 2554


คราวนี้เลยได้ลุยน้ำไปถึงตลาดบัวจนได้ น้ำลึกและถีบเหนื่อยโคตร
ที่เจ๋งคือมีปลาตอดตีนระหว่างขี่จักรยานกลางถนนด้วย เกิดมาไม่เคยเจอ

.

17 พฤศจิกายน 2554


หายหัวไปหลายวันครับ ติดทำงาน (ออฟฟิศผมต้องอัดเวลาให้ครบวันละ 8 ช.ม.)
กลับมาคราวนี้ได้ก็เพราะเมียใช้ไปซื้อผลไม้ที่ตลาดครับ ระดับน้ำลดลงเยอะเลย

สำนักข่าวจักรยานแม่บ้านรายงานน้ำท่วมลาดปลาเค้า – ม.อารียา /1

//บล็อกตอนนี้อัปเดตเรื่อยๆ ทุกวันในช่วงน้ำท่วมครับ ไล่ดูตามวันที่ได้เลย
ส่วนชาวอารียา สามารถเข้าไปใน Facebook ได้ครับ มีกรุ๊ปรวมชื่อ Areeya Sky และกรุ๊ปย่อย Areeya Mova ครับ

30 ตุลาคม 2554

วัดลาดปลาเค้าในเงาน้ำ

เมื่อกี้แขวนกล้องห้อยพุงขี่จักรยาน(แม่บ้าน)คันใหม่ ที่เพิ่งซื้อมาจากบิ๊กซีเมื่อวานครับ
พอดีเห็นคลิปโฆษณากล้อง GoPro ตัวใหม่ (อยากให้ดูมาก เจ๋งสุดๆ) เลยอยากทำแบบนั้นบ้าง
แต่ GF1 มันก็หนักกว่ากันเยอะ เอามาติดบนหัวแบบโกโปรคงคอเคล็ดตายห่า

ก็อย่างที่เห็นครับว่าน้ำเริ่มล้นคลองมาสู่ถนนละ

ส่วนในหมู่บ้านผมยังไม่ท่วม เพราะระดับพื้นดินที่หมู่บ้านสูงกว่าข้างนอกอยู่หน่อยนึง
แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ที่คอยเช็กระดับน้ำและสูบน้ำออกไปอยู่เรื่อยๆ (แต่รอบๆ ท่วมแล้ว)
ถ้าเกิดน้ำท่วมในหมู่บ้านจริงๆ ผมว่าไม่เกิน 30 ซ.ม.ครับ
ตอนนี้ที่บ้านเลยกลายเป็นศูนย์อพยพชั่วคราวไปละ น้องเมียเพียบ (ผู้ชายน่า! โวะ!)


อันนี้พี่เจ้าหน้าที่สองท่านกำลังช่วยกันอุดรูระบายน้ำ ฟิตมาก น้ำไม่ใช่หอมๆ นะนั่น!

.

31 ตุลาคม 2554

น้ำมาแล้วครับ!
ผมขี่จักรยานไปรายงานไปเหมือนเดิม
แต่คราวนี้ขี้เกียจอัปโหลดเป็น HD แล้วครับ ไฟล์มันใหญ่เกิน :05:


อันนี้เป็นระดับน้ำในหมู่บ้าน เหลืออีกหน่อยถึงจะเท่ากับพื้นถนนครับ
ครึ่งหลังของคลิปเป็นการเตรียมตัวของหน่วยงานและหมู่บ้าน ที่กำลังจัดการกับเครื่องจักรสังหารขนาดยักษ์


พาเข้าไปดูในวัดลาดปลาเค้า และโค้งถนนหน้าวัดครับ (เริ่มท่วมละ)

.

DRAMA-AREEYA


ช่วงกลางคืน มีชาวบ้านในชุมชนรอบๆ มารวมตัวกันเพื่อประท้วงการกั้นน้ำในคลองครับ
ผมไปอยู่ในที่เกิดเหตุและรายงานสถานการณ์จนเกือบเที่ยงคืนค่อยกลับมา อ่านทวีตจากที่นี่ครับ
สรุปเหตุการณ์หลังจากคืนนั้นก็คือเขคลาดพร้าวได้ถอนเครื่องสูบน้ำและพนังกั้นน้ำออกไปครับ (ข่าว)

.

1 พฤศจิกายน 2554

วันนี้ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวานอีกประมาณ 10 ซ.ม.ครับ


ตอนเย็นหมู่บ้านได้เรียกลูกบ้านประชุมเพื่อเตรียมการรับมือกับน้ำท่วมครั้งนี้
ผมเพิ่งเคยเห็นชาวบ้านหมู่บ้านตัวเองมารวมตัวตบยุงกันเยอะขนาดนี้เป็นครั้งแรก
ถ้าไม่ได้น้ำท่วมนี่ก็คงไม่ได้เห็นอะไรเจ๋งๆ หลายอย่างเลยนะ

.

2 พฤศจิกายน 2554

ช่วงเที่ยงผมโดนเมียใช้ไปซื้อนมเปรี้ยวที่เซเว่นครับ เลยแวะดูระดับน้ำหน้าหมู่บ้านหน่อย
วันนี้หนักครับ บวกจากเมื่อวานไปเยอะและเร็วมากเหมือนกัน


(คลิปนี้ยาวหน่อยเลยไม่ได้อัปโหลดเป็น HD เพราะไฟล์ใหญ่เกิ๊น เน็ตที่บ้านกากง่ะ)

.

3 พฤศจิกายน 2554

เมื่อคืนลูกบ้านโครงการโมวาก็ชุลมันกันน่าดูครับ เพราะระดมพบกัน “อุดน้ำ” ที่รั่วเข้ามาทางกำแพง
ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นับถือน้ำใจของพี่ๆ ในหมู่บ้านที่ระดมทั้งแรงทั้งเงิน
เรี่ยไรบ้านละ 200 บาท เพื่อรวมกันซื้อเครื่องสูบน้ำและติดตั้งเพื่อสูบน้ำออกจากหมู่บ้าน
ช่วยกันจนดึกมากๆ ผมกลับถึงบ้านก็หมดแรงหลับคาคอม งานออฟฟิศไม่เสร็จ :05:
ด้านล่างเป็นความคืบหน้าของความช่วยเหลือจากชาวบ้านอารียา โมวาครับ


ยังไม่ได้ออกไปนอกโครงการเลย วันนี้มีรายงานว่ารถเล็กเข้าไม่ได้แล้วครับ

.

4 พฤศจิกายน 2554

วันนี้พบว่าบรรยากาศตอนน้ำท่วมนี่ก็ดีชะมัดเลยนะ

น้ำท่วมบ้านฉัน


เช้านี้สั้นๆ แต่เห็นพัฒนาการของน้ำในซอยหมู่บ้านอย่างชัดเจนครับ
ส่วนภาคบ่าย ขี่ชมรอบหมู่บ้านเลยครับ


ขออภัยที่อัปโหลดเป็นคลิปเล็ก เพราะว่าถ่ายนาน กลัวอัปโหลดไม่ไหว ไฟล์ใหญ่เกิน


และนี่ตอนเย็น ขี่ดูที่ซอยสุดท้ายของโครงการ พบว่าเป็นคลองที่สวยดีเหมือนกันนะ
หลังจากการปล้ำสู้กับน้ำของชาวโมวาสามวันสามคืน สามทุ่มคืนนี้ น้ำที่เห็นข้างบนก็แห้ง เย้!

.

5 พฤศจิกายน 2554

ตื่นมาน้ำท่วมเหมือนเดิมครับ เครื่องสูบน้ำหยุดทำงานเพราะมีปัญหาที่สายพาน


ผมพาไปดูที่หน้าโครงการโมวา และกระดึ๊บไปดูเพื่อนบ้านคัลเลอร์เริ่มประชุมครับ
ตอนนี้ลูกบ้านเริ่มใช้แผนรวมพลังกันแบบนี้ละ (คอยดู หลังน้ำลดน่าจะมีอะไรสนุกอีกแน่!)


สถานการณ์น้ำในโครงการโมวาช่วงบ่ายครับ


ส่วนตอนเย็น น้ำแห้งแล้ว!!!!

.

เฮือก เห็นว่ายาวแล้ว ขอตัดตอนไปเขียนต่อในตอนที่ 2 นะครับ ตามไปอ่านได้เลย

กระสอบทรายไทยแลนด์ (ทดลองกับบ้านตัวเอง)

(ช่วงโฆษณา)

ก่อนอื่นขอโปรโมตเพจเฟซบุ๊กที่เดือนสร้างไว้วันก่อน ตามไอเดียอุตริที่ผมอยากเห็น
ว่าแหม ช่วงน้ำท่วมนี่ความคิดสร้างสรรค์ของพี่น้องชาวเรา มันเยอะแยะกันจริงๆ นะครับ
ถ้ามีใครรวมเป็นเล่ม ดีไซน์สวยๆ รับรองขายได้แน่นอน (อันนี้คิดไว้ว่าเดี๋ยวก็น่าจะมี)
อีกอย่างคืออยากเห็นเฟซบุ๊กสักเพจ ที่แต่ละบ้าน เอาไอเดียกันน้ำเข้าบ้านมาแบ่งๆ แชร์ๆ กัน
เพื่อเอาความสร้างสรรค์เป็นบ่อเกิดแห่งสติ และลดความโกลาหลที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของผมหลายคนแล้วตอนนี้

และในที่สุด เพจ กระสอบทรายไทยแลนด์ ก็บังเกิดขึ้นมาบนเฟซบุ๊ก เชิญไปกดลูบกดไล้กันได้ตามสะดวก

(ตัดเข้ารายการ)

วิธีกันน้ำเข้าบ้าน

จากการประเมินของนักวิชาการบ้างไม่วิชาการบ้างหลายท่าน พบว่าเขตบ้านผมน้ำจะสูงสัก 10-20 ซ.ม. ครับ
อันนี้เขาประเมินกันมาตั้งนานละ ผมเผื่อเออเรอร์ไว้สักหน่อยก็กันไว้ที่ +50 ซ.ม.จากพื้นถนนหน้าบ้าน
ในบ้านชั้นล่างผมก็เก็บข้าวเก็บของยกขึ้นที่สูงหมดเกินเมตรแล้ว แต่ไหนๆ ก็ขอกันน้ำเข้าบ้านไว้อีกชั้น
ด้วยการทำคันกั้นหน้าบ้านแบบลวกๆ และชิวๆ จากเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่แล้ว ตามนี้ครับ

พอดีว่าบ้านผมเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ในหมู่บ้านจัดสรร (ที่จริงมันก็คือตึกแถวนั่นแหละ) หน้าตาเป็นแบบนี้

มีความสูงจากผิวถนนประมาณ 20 ซ.ม. นั่นแปลว่าถ้ากั้นน้ำตาม Worst Case ที่ รศ.เสรีว่าไว้ ก็กันไว้ที่ 30 ซ.ม.
(อันนี้เป็นแผน A นะครับ ผมเผื่อแผน B ไว้แล้วที่ 1 เมตร ซึ่งเดี๋ยวจะว่ากันต่อไป)

ตอนต่อเติมขยักประตูบานเลื่อนด้านซ้าย ปรากฏว่าไม้พื้นเหลือ ช่างก็เลยแถมให้ด้วยการเอามาต่อเป็นม้านั่งครับ
แล้วมันก็เป็นม้านั่งที่หนักมากเพราะขามันเป็นเหล็กกล่อง ยกคนเดียวไม่ไหวแน่นอน เลยเอามาเอียงขวางไว้
ส่วนรูที่เหลือก็อุดด้วยกระถางต้นไม้ที่ทำจากปูนเป็นก้อนๆ นี่ก็หนักแบบยกเกือบไม่ไหวเหมือนกัน เรียบดีด้วย
ทั้งหมดนี่เสริมด้วยกระสอบทรายที่ซื้อมาอีกนิดหน่อย เอาไว้ดันเป็นทัพหลัง กันทัพหน้าโดนศัตรูไล่เลื่อนเท่านั้น
เสร็จแล้วก็ยาแนวรอยต่อทุกรอยด้วยซิลิโคนหนึ่งชั้น

เสร็จแล้วก็เอาเสื่อน้ำมัน (ไปซื้อมาเมื่ออาทิตย์ก่อน ที่จริงจะหาซื้อพลาสติกใสอย่างหนาแต่ไม่มีขายแล้ว) มาโปะ
โปะเสร็จแล้วก็ใช้เทปกาวผ้าเหนียวๆ (เขาเรียกแลกซีนใช่ไหม ความรู้ใหม่) มาแปะขอบ แล้วยาแนว(อีกแล้ว)
สุดท้ายก็เอากระสอบทรายว่างงานมาวางนอนยิ้มไว้ข้างหน้า เป็นอันจบพิธี

จริงๆ ถ้าบ้านไหนมีทีท่าว่าน้ำคงท่วม “ไม่มาก” แบบบ้านผมเนี่ย
ก็ให้นึกว่าเราอยู่กับบ่อปลาครับ เพียงแต่ว่าเป็นบ่อปลาแบบกลับด้าน คือในบ้านเราดันเป็นที่แห้ง
และโลกภายนอกน่ะดันมีปลาอยู่ (เผลอๆ บางบ้านก็มีตะเข้) ดังนั้นจึงใช้วิธีคิดเดียวกับการทำบ่อปลา

ส่วนแผน B ที่ค้างไว้ตะกี้คือถ้าระดับน้ำสูงเกินระยะที่เขาคาดไว้
ผมจะปิดตายประตูบ้านและประตูแมวด้วยวิธีเดียวกัน คือเสื่อน้ำมัน+เทปกาวผ้า+ซีลขอบทุกขอบ
ทั้งนี้อยากเห็นผลแบบเดียวกับบ้านนครสวรรค์ในตำนาน (แต่บ้านอื่นไม่เห็นมีใครเอาอยู่กันเลย)

แล้วในบ้านล่ะ

ปัญหาที่ต้องเจอนอกจากศึกภายนอก ก็คือศึกภายใน ในบ้านน้ำไม่น่าสูงเกิน 30 ซ.ม. ..เอาไงดีหว่า
บ้านผมมีท่อน้ำทิ้งหลังบ้าน 1 จุด ในครัว 1 จุด และในห้องน้ำอีก 1 จุด ซึ่งล้วนแล้วแต่ไม่น่าจะเอาอยู่
เห็นหลายๆ ท่านแนะนำกันว่าให้ใช้ก้อนผ้าอะไรเข้าไปอุด แล้วเอากระสอบทรายทับ ก็ทำไปแล้วที่หลังบ้าน
ทีนี้มานึกได้ว่าเราน่าจะเลี้ยงระดับน้ำไว้ให้เท่าๆ กับนอกบ้านนะ ไม่ตองไปอุดมันให้อึดอัด ลองดูดีกว่า!

หลักการคือแบบนี้ครับ

ถ้าคิดจะเอาอะไรไปอุด จะต้องทานแรงดันน้ำได้เท่ากับความพยายามของมันที่จะรักษาระดับให้เท่ากับข้างนอกอยู่ดี
ถ้าอุดไม่ดี มีรูรั่วนิดนึง ทีนี้มันก็จะเครียดและพุ่งปรี๊ดจนเอาไม่อยู่ .. แล้วทำไมไม่ญาติดีกับมันเลยล่ะ?

ตะกี้ก็เลยทำแบบนี้ครับ

ก็จะได้แบบนี้

ที่จริงท่อแป๊บนี่ผิดโจทย์ของใช้ในบ้านไปหน่อยเพราะพอดีผมเคยซื้อไว้นานแล้ว มันเหลือเศษๆ เลยเอามาใช้ได้
แต่ถ้าบ้านใครออกไปหาท่อแป๊บไม่ทัน จะลองเป็นขวดโค้กแบบ 1.25 ลิตรก็ได้นะครับ ไว้ดูระดับน้ำชิวๆ ได้ด้วย
แต่ระวังซีลไม่ดี หรือใครเดินไปแตะล้มแล้วน้ำท่วมเต็มบ้านขึ้นมาละกันครับ

ย้ำอีกทีว่าทั้งหมดนี้คือการทดลอง จะเอาอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่รู้นะครับ ..ที่แน่ๆ ตอนนี้รอน้ำมาอยู่ กูพร้อมแล้ว!
แต่ถ้าเอาไม่อยู่ กูก็พร้อมอพยพเหมือนกัน ไม่ได้อยากอยู่นักหนรอก เมืองหลวงที่หาน้ำจืดกินยากฉิบหายเนี่ย!
แต่บริษัทกูไม่หยุด! และบ้านแม่กูที่เพชรบุรีก็ห่างไกลความเจริญ ไม่มีเน็ตซะงั้น! โวะ! จะตกใจทำไมเยอะ!

ป.ล.
ขอบคุณเว็บแก้มลิงของ @tanin47 มากๆ ครับที่ให้ทุกคนได้ปักหมุดรายงานข้อมูลกันสดๆ
เชียร์อย่างออกหน้าออกตาว่าสิ่งที่น้องทำนี่แหละคือนวัตกรรม! เจ๋งมาก! เครื่องหมายตกใจอีกแล้ว!