วิธีเตรียมตัวสอบเข้าสาธิตธรรมศาสตร์

ช่วงนี้เป็นช่วงที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กำลังรับสมัครนักเรียนใหม่ชั้น ม.1 และ ม.4 พอดี

เรามองย้อนไปปีที่แล้ว ที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของนิทาน ที่เป็นเด็ก ป.6 และต้องหาที่เรียนมัธยม เราก็ไม่ต่างจากผู้ปกครองบ้านอื่นๆ ที่ถ้าเป็นไปได้ ก็จะหาโรงเรียนที่ดีที่สุด (เท่าที่จ่ายไหว) ที่ถูกใจทั้งเด็กเอง และพ่อแม่

หลังจากไปดูมาหลายที่ ก็พบว่าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นี่เอง ก็เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจของบ้านเรา

พอถึงช่วงสอบเข้า เราก็พอรู้มาว่าโรงเรียนนี้ไม่ได้สอบแบบวิชาการแบบที่เราคุ้ยเคย แต่เป็นระบบยื่นพอร์ตโฟลิโอ เลยลองเสาะหาและถามไถ่รุ่นพี่ ผู้ปกครองบ้านอื่นๆ หรือคุณครูที่รู้จักโรงเรียนนี้ ขอคำปรึกษา และเอามาปรับใช้ จนสามารถสอบเข้าได้สำเร็จ

เราคุยกับลูกไว้ว่า อยากคืนกำไร–เรียกแบบนี้ได้ไหม งั้นเอาเป็นเรียกว่าขอบคุณแทนละกัน–ขอบคุณความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาจากรุ่นพี่ๆ ด้วยการเป็นรุ่นพี่คนนั้นให้รุ่นน้อง

เราพ่อแม่ลูก (ท้ายคลิปมีเพื่อนลูกด้วย) จึงมาช่วยกันเล่าว่าการจะเตรียมสอบเข้าสาธิตธรรมศาสตร์นั้นต่างจากที่อื่นยังไง อะไรบ้างที่ควรรู้ ต้องเตรียมตัวยังไง และทำไงให้สอบติด

ทำเสร็จแล้วก็โล่งใจ จึงฝากส่งต่อเรื่องราวให้น้องๆ ได้รู้กันต่อไปจ้ะ

(เสียงเบาไปนิดนึง ใช้มือถือถ่าย แล้วลืมว่ามีไมค์ติดเสื้อ ต้องขออภัยครับ)

กระสอบทรายไทยแลนด์ (ทดลองกับบ้านตัวเอง)

(ช่วงโฆษณา)

ก่อนอื่นขอโปรโมตเพจเฟซบุ๊กที่เดือนสร้างไว้วันก่อน ตามไอเดียอุตริที่ผมอยากเห็น
ว่าแหม ช่วงน้ำท่วมนี่ความคิดสร้างสรรค์ของพี่น้องชาวเรา มันเยอะแยะกันจริงๆ นะครับ
ถ้ามีใครรวมเป็นเล่ม ดีไซน์สวยๆ รับรองขายได้แน่นอน (อันนี้คิดไว้ว่าเดี๋ยวก็น่าจะมี)
อีกอย่างคืออยากเห็นเฟซบุ๊กสักเพจ ที่แต่ละบ้าน เอาไอเดียกันน้ำเข้าบ้านมาแบ่งๆ แชร์ๆ กัน
เพื่อเอาความสร้างสรรค์เป็นบ่อเกิดแห่งสติ และลดความโกลาหลที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของผมหลายคนแล้วตอนนี้

และในที่สุด เพจ กระสอบทรายไทยแลนด์ ก็บังเกิดขึ้นมาบนเฟซบุ๊ก เชิญไปกดลูบกดไล้กันได้ตามสะดวก

(ตัดเข้ารายการ)

วิธีกันน้ำเข้าบ้าน

จากการประเมินของนักวิชาการบ้างไม่วิชาการบ้างหลายท่าน พบว่าเขตบ้านผมน้ำจะสูงสัก 10-20 ซ.ม. ครับ
อันนี้เขาประเมินกันมาตั้งนานละ ผมเผื่อเออเรอร์ไว้สักหน่อยก็กันไว้ที่ +50 ซ.ม.จากพื้นถนนหน้าบ้าน
ในบ้านชั้นล่างผมก็เก็บข้าวเก็บของยกขึ้นที่สูงหมดเกินเมตรแล้ว แต่ไหนๆ ก็ขอกันน้ำเข้าบ้านไว้อีกชั้น
ด้วยการทำคันกั้นหน้าบ้านแบบลวกๆ และชิวๆ จากเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่แล้ว ตามนี้ครับ

พอดีว่าบ้านผมเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ในหมู่บ้านจัดสรร (ที่จริงมันก็คือตึกแถวนั่นแหละ) หน้าตาเป็นแบบนี้

มีความสูงจากผิวถนนประมาณ 20 ซ.ม. นั่นแปลว่าถ้ากั้นน้ำตาม Worst Case ที่ รศ.เสรีว่าไว้ ก็กันไว้ที่ 30 ซ.ม.
(อันนี้เป็นแผน A นะครับ ผมเผื่อแผน B ไว้แล้วที่ 1 เมตร ซึ่งเดี๋ยวจะว่ากันต่อไป)

ตอนต่อเติมขยักประตูบานเลื่อนด้านซ้าย ปรากฏว่าไม้พื้นเหลือ ช่างก็เลยแถมให้ด้วยการเอามาต่อเป็นม้านั่งครับ
แล้วมันก็เป็นม้านั่งที่หนักมากเพราะขามันเป็นเหล็กกล่อง ยกคนเดียวไม่ไหวแน่นอน เลยเอามาเอียงขวางไว้
ส่วนรูที่เหลือก็อุดด้วยกระถางต้นไม้ที่ทำจากปูนเป็นก้อนๆ นี่ก็หนักแบบยกเกือบไม่ไหวเหมือนกัน เรียบดีด้วย
ทั้งหมดนี่เสริมด้วยกระสอบทรายที่ซื้อมาอีกนิดหน่อย เอาไว้ดันเป็นทัพหลัง กันทัพหน้าโดนศัตรูไล่เลื่อนเท่านั้น
เสร็จแล้วก็ยาแนวรอยต่อทุกรอยด้วยซิลิโคนหนึ่งชั้น

เสร็จแล้วก็เอาเสื่อน้ำมัน (ไปซื้อมาเมื่ออาทิตย์ก่อน ที่จริงจะหาซื้อพลาสติกใสอย่างหนาแต่ไม่มีขายแล้ว) มาโปะ
โปะเสร็จแล้วก็ใช้เทปกาวผ้าเหนียวๆ (เขาเรียกแลกซีนใช่ไหม ความรู้ใหม่) มาแปะขอบ แล้วยาแนว(อีกแล้ว)
สุดท้ายก็เอากระสอบทรายว่างงานมาวางนอนยิ้มไว้ข้างหน้า เป็นอันจบพิธี

จริงๆ ถ้าบ้านไหนมีทีท่าว่าน้ำคงท่วม “ไม่มาก” แบบบ้านผมเนี่ย
ก็ให้นึกว่าเราอยู่กับบ่อปลาครับ เพียงแต่ว่าเป็นบ่อปลาแบบกลับด้าน คือในบ้านเราดันเป็นที่แห้ง
และโลกภายนอกน่ะดันมีปลาอยู่ (เผลอๆ บางบ้านก็มีตะเข้) ดังนั้นจึงใช้วิธีคิดเดียวกับการทำบ่อปลา

ส่วนแผน B ที่ค้างไว้ตะกี้คือถ้าระดับน้ำสูงเกินระยะที่เขาคาดไว้
ผมจะปิดตายประตูบ้านและประตูแมวด้วยวิธีเดียวกัน คือเสื่อน้ำมัน+เทปกาวผ้า+ซีลขอบทุกขอบ
ทั้งนี้อยากเห็นผลแบบเดียวกับบ้านนครสวรรค์ในตำนาน (แต่บ้านอื่นไม่เห็นมีใครเอาอยู่กันเลย)

แล้วในบ้านล่ะ

ปัญหาที่ต้องเจอนอกจากศึกภายนอก ก็คือศึกภายใน ในบ้านน้ำไม่น่าสูงเกิน 30 ซ.ม. ..เอาไงดีหว่า
บ้านผมมีท่อน้ำทิ้งหลังบ้าน 1 จุด ในครัว 1 จุด และในห้องน้ำอีก 1 จุด ซึ่งล้วนแล้วแต่ไม่น่าจะเอาอยู่
เห็นหลายๆ ท่านแนะนำกันว่าให้ใช้ก้อนผ้าอะไรเข้าไปอุด แล้วเอากระสอบทรายทับ ก็ทำไปแล้วที่หลังบ้าน
ทีนี้มานึกได้ว่าเราน่าจะเลี้ยงระดับน้ำไว้ให้เท่าๆ กับนอกบ้านนะ ไม่ตองไปอุดมันให้อึดอัด ลองดูดีกว่า!

หลักการคือแบบนี้ครับ

ถ้าคิดจะเอาอะไรไปอุด จะต้องทานแรงดันน้ำได้เท่ากับความพยายามของมันที่จะรักษาระดับให้เท่ากับข้างนอกอยู่ดี
ถ้าอุดไม่ดี มีรูรั่วนิดนึง ทีนี้มันก็จะเครียดและพุ่งปรี๊ดจนเอาไม่อยู่ .. แล้วทำไมไม่ญาติดีกับมันเลยล่ะ?

ตะกี้ก็เลยทำแบบนี้ครับ

ก็จะได้แบบนี้

ที่จริงท่อแป๊บนี่ผิดโจทย์ของใช้ในบ้านไปหน่อยเพราะพอดีผมเคยซื้อไว้นานแล้ว มันเหลือเศษๆ เลยเอามาใช้ได้
แต่ถ้าบ้านใครออกไปหาท่อแป๊บไม่ทัน จะลองเป็นขวดโค้กแบบ 1.25 ลิตรก็ได้นะครับ ไว้ดูระดับน้ำชิวๆ ได้ด้วย
แต่ระวังซีลไม่ดี หรือใครเดินไปแตะล้มแล้วน้ำท่วมเต็มบ้านขึ้นมาละกันครับ

ย้ำอีกทีว่าทั้งหมดนี้คือการทดลอง จะเอาอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่รู้นะครับ ..ที่แน่ๆ ตอนนี้รอน้ำมาอยู่ กูพร้อมแล้ว!
แต่ถ้าเอาไม่อยู่ กูก็พร้อมอพยพเหมือนกัน ไม่ได้อยากอยู่นักหนรอก เมืองหลวงที่หาน้ำจืดกินยากฉิบหายเนี่ย!
แต่บริษัทกูไม่หยุด! และบ้านแม่กูที่เพชรบุรีก็ห่างไกลความเจริญ ไม่มีเน็ตซะงั้น! โวะ! จะตกใจทำไมเยอะ!

ป.ล.
ขอบคุณเว็บแก้มลิงของ @tanin47 มากๆ ครับที่ให้ทุกคนได้ปักหมุดรายงานข้อมูลกันสดๆ
เชียร์อย่างออกหน้าออกตาว่าสิ่งที่น้องทำนี่แหละคือนวัตกรรม! เจ๋งมาก! เครื่องหมายตกใจอีกแล้ว!