(ช่วงโฆษณา)
ก่อนอื่นขอโปรโมตเพจเฟซบุ๊กที่เดือนสร้างไว้วันก่อน ตามไอเดียอุตริที่ผมอยากเห็น
ว่าแหม ช่วงน้ำท่วมนี่ความคิดสร้างสรรค์ของพี่น้องชาวเรา มันเยอะแยะกันจริงๆ นะครับ
ถ้ามีใครรวมเป็นเล่ม ดีไซน์สวยๆ รับรองขายได้แน่นอน (อันนี้คิดไว้ว่าเดี๋ยวก็น่าจะมี)
อีกอย่างคืออยากเห็นเฟซบุ๊กสักเพจ ที่แต่ละบ้าน เอาไอเดียกันน้ำเข้าบ้านมาแบ่งๆ แชร์ๆ กัน
เพื่อเอาความสร้างสรรค์เป็นบ่อเกิดแห่งสติ และลดความโกลาหลที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของผมหลายคนแล้วตอนนี้
และในที่สุด เพจ กระสอบทรายไทยแลนด์ ก็บังเกิดขึ้นมาบนเฟซบุ๊ก เชิญไปกดลูบกดไล้กันได้ตามสะดวก
(ตัดเข้ารายการ)
วิธีกันน้ำเข้าบ้าน
จากการประเมินของนักวิชาการบ้างไม่วิชาการบ้างหลายท่าน พบว่าเขตบ้านผมน้ำจะสูงสัก 10-20 ซ.ม. ครับ
อันนี้เขาประเมินกันมาตั้งนานละ ผมเผื่อเออเรอร์ไว้สักหน่อยก็กันไว้ที่ +50 ซ.ม.จากพื้นถนนหน้าบ้าน
ในบ้านชั้นล่างผมก็เก็บข้าวเก็บของยกขึ้นที่สูงหมดเกินเมตรแล้ว แต่ไหนๆ ก็ขอกันน้ำเข้าบ้านไว้อีกชั้น
ด้วยการทำคันกั้นหน้าบ้านแบบลวกๆ และชิวๆ จากเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่แล้ว ตามนี้ครับ
พอดีว่าบ้านผมเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ในหมู่บ้านจัดสรร (ที่จริงมันก็คือตึกแถวนั่นแหละ) หน้าตาเป็นแบบนี้
มีความสูงจากผิวถนนประมาณ 20 ซ.ม. นั่นแปลว่าถ้ากั้นน้ำตาม Worst Case ที่ รศ.เสรีว่าไว้ ก็กันไว้ที่ 30 ซ.ม.
(อันนี้เป็นแผน A นะครับ ผมเผื่อแผน B ไว้แล้วที่ 1 เมตร ซึ่งเดี๋ยวจะว่ากันต่อไป)
ตอนต่อเติมขยักประตูบานเลื่อนด้านซ้าย ปรากฏว่าไม้พื้นเหลือ ช่างก็เลยแถมให้ด้วยการเอามาต่อเป็นม้านั่งครับ
แล้วมันก็เป็นม้านั่งที่หนักมากเพราะขามันเป็นเหล็กกล่อง ยกคนเดียวไม่ไหวแน่นอน เลยเอามาเอียงขวางไว้
ส่วนรูที่เหลือก็อุดด้วยกระถางต้นไม้ที่ทำจากปูนเป็นก้อนๆ นี่ก็หนักแบบยกเกือบไม่ไหวเหมือนกัน เรียบดีด้วย
ทั้งหมดนี่เสริมด้วยกระสอบทรายที่ซื้อมาอีกนิดหน่อย เอาไว้ดันเป็นทัพหลัง กันทัพหน้าโดนศัตรูไล่เลื่อนเท่านั้น
เสร็จแล้วก็ยาแนวรอยต่อทุกรอยด้วยซิลิโคนหนึ่งชั้น
เสร็จแล้วก็เอาเสื่อน้ำมัน (ไปซื้อมาเมื่ออาทิตย์ก่อน ที่จริงจะหาซื้อพลาสติกใสอย่างหนาแต่ไม่มีขายแล้ว) มาโปะ
โปะเสร็จแล้วก็ใช้เทปกาวผ้าเหนียวๆ (เขาเรียกแลกซีนใช่ไหม ความรู้ใหม่) มาแปะขอบ แล้วยาแนว(อีกแล้ว)
สุดท้ายก็เอากระสอบทรายว่างงานมาวางนอนยิ้มไว้ข้างหน้า เป็นอันจบพิธี
จริงๆ ถ้าบ้านไหนมีทีท่าว่าน้ำคงท่วม “ไม่มาก” แบบบ้านผมเนี่ย
ก็ให้นึกว่าเราอยู่กับบ่อปลาครับ เพียงแต่ว่าเป็นบ่อปลาแบบกลับด้าน คือในบ้านเราดันเป็นที่แห้ง
และโลกภายนอกน่ะดันมีปลาอยู่ (เผลอๆ บางบ้านก็มีตะเข้) ดังนั้นจึงใช้วิธีคิดเดียวกับการทำบ่อปลา
ส่วนแผน B ที่ค้างไว้ตะกี้คือถ้าระดับน้ำสูงเกินระยะที่เขาคาดไว้
ผมจะปิดตายประตูบ้านและประตูแมวด้วยวิธีเดียวกัน คือเสื่อน้ำมัน+เทปกาวผ้า+ซีลขอบทุกขอบ
ทั้งนี้อยากเห็นผลแบบเดียวกับบ้านนครสวรรค์ในตำนาน (แต่บ้านอื่นไม่เห็นมีใครเอาอยู่กันเลย)
แล้วในบ้านล่ะ
ปัญหาที่ต้องเจอนอกจากศึกภายนอก ก็คือศึกภายใน ในบ้านน้ำไม่น่าสูงเกิน 30 ซ.ม. ..เอาไงดีหว่า
บ้านผมมีท่อน้ำทิ้งหลังบ้าน 1 จุด ในครัว 1 จุด และในห้องน้ำอีก 1 จุด ซึ่งล้วนแล้วแต่ไม่น่าจะเอาอยู่
เห็นหลายๆ ท่านแนะนำกันว่าให้ใช้ก้อนผ้าอะไรเข้าไปอุด แล้วเอากระสอบทรายทับ ก็ทำไปแล้วที่หลังบ้าน
ทีนี้มานึกได้ว่าเราน่าจะเลี้ยงระดับน้ำไว้ให้เท่าๆ กับนอกบ้านนะ ไม่ตองไปอุดมันให้อึดอัด ลองดูดีกว่า!
หลักการคือแบบนี้ครับ
ถ้าคิดจะเอาอะไรไปอุด จะต้องทานแรงดันน้ำได้เท่ากับความพยายามของมันที่จะรักษาระดับให้เท่ากับข้างนอกอยู่ดี
ถ้าอุดไม่ดี มีรูรั่วนิดนึง ทีนี้มันก็จะเครียดและพุ่งปรี๊ดจนเอาไม่อยู่ .. แล้วทำไมไม่ญาติดีกับมันเลยล่ะ?
ตะกี้ก็เลยทำแบบนี้ครับ
ก็จะได้แบบนี้
ที่จริงท่อแป๊บนี่ผิดโจทย์ของใช้ในบ้านไปหน่อยเพราะพอดีผมเคยซื้อไว้นานแล้ว มันเหลือเศษๆ เลยเอามาใช้ได้
แต่ถ้าบ้านใครออกไปหาท่อแป๊บไม่ทัน จะลองเป็นขวดโค้กแบบ 1.25 ลิตรก็ได้นะครับ ไว้ดูระดับน้ำชิวๆ ได้ด้วย
แต่ระวังซีลไม่ดี หรือใครเดินไปแตะล้มแล้วน้ำท่วมเต็มบ้านขึ้นมาละกันครับ
ย้ำอีกทีว่าทั้งหมดนี้คือการทดลอง จะเอาอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่รู้นะครับ ..ที่แน่ๆ ตอนนี้รอน้ำมาอยู่ กูพร้อมแล้ว!
แต่ถ้าเอาไม่อยู่ กูก็พร้อมอพยพเหมือนกัน ไม่ได้อยากอยู่นักหนรอก เมืองหลวงที่หาน้ำจืดกินยากฉิบหายเนี่ย!
แต่บริษัทกูไม่หยุด! และบ้านแม่กูที่เพชรบุรีก็ห่างไกลความเจริญ ไม่มีเน็ตซะงั้น! โวะ! จะตกใจทำไมเยอะ!
ป.ล.
ขอบคุณเว็บแก้มลิงของ @tanin47 มากๆ ครับที่ให้ทุกคนได้ปักหมุดรายงานข้อมูลกันสดๆ
เชียร์อย่างออกหน้าออกตาว่าสิ่งที่น้องทำนี่แหละคือนวัตกรรม! เจ๋งมาก! เครื่องหมายตกใจอีกแล้ว!
Like this:
Like Loading...