ถ้าไม่มีมือถือ มึงจะอยู่ได้ไหม?

galaxy-none

1.
ถ้าไม่มีมือถือ มึงจะทำอะไรได้?

นี่เป็นคำถามที่ถามตัวเองเมื่อคืนนี้ครับ หลังจากพบว่ามือถือ (โน้ตสอง) ของตัวเองชาณ์จแบตไม่เข้า แบบเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง ไม่ได้แตะอะไรเลยเดี๋ยวอยู่ดีๆ ก็ร้องจ๊ากว่าที่ชาร์จหลุดไรงี้ ซึ่งอาการนี้เป็นมาสักพักใหญ่แล้ว แต่มาเป็นหนักหน่อยในระยะหลังๆ พอเอาไปถามอินเทอร์เน็ต ก็พบว่าผู้ใช้โน้ตสองจำนวนมากที่เกิดอาการเดียวกัน มีทั้งแบบสายชาร์จผลิตมาไม่พอดี จนเสียบหล่นเสียบหล่น ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นได้เลยนะ แต่ก็เกิด (จนสายชาร์จของผมลงถังขยะไปเป็นอย่างแรก ก่อนจะมารู้จากชาวบ้านว่ามันเอาไปเคลมได้)
พอมือถือทำท่าจะเสีย ก็ตัดสินใจว่าวันนี้แหละ จะเอาไปเข้าศูนย์ ทวีตถามก็มีคนบอกว่าเจอกันเยอะ เยอะขนาดที่ศูนย์เองก็มีอุปกรณ์พร้อมเปลี่ยน ไปถึง รับบัตรคิว (รอนานเพราะคนเยอะแน่) เสร็จแล้วก็แจ้งอาการ ออกมาเดินเล่นแป๊บนึง แล้วรับเครื่องกลับได้เลย

ใจหนึ่งก็อยากเห็นบรรยากาศแบบนั้น แต่ก็คิดว่าเป็นไปได้ยากแหละ เพราะเอาเข้าจริงเคสแบบนี้มันต้องเอาเครื่องไปแงะ ไปตรวจอาการก่อน เลยทำใจไว้ว่า เราจะทิ้งมือถือไว้ที่ศูนย์ ไม่รู้แหละว่ากี่วัน แต่ช่วงนี้เราจะกลายเป็นมนุษย์ผู้ไร้โทรศัพท์ไปเลย

อ่านดูแล้วกระแดะสุดๆ เลยนะครับ สลิ่มมากอะ นี่มึงจะเป็นจะตายให้ได้เลยใช่ไหมกับการที่ไม่มีมือถือเนี่ย?

ใช่ครับ ผมจะเป็นจะตายให้ได้เลย
Continue reading ถ้าไม่มีมือถือ มึงจะอยู่ได้ไหม?

หวั่นซ้ำรอยคดีอากง

ลองเขียนบล็อกและการ์ตูนให้จบในมือถือครับ (กำลังเห่อ Galaxy Note)
ปรากฏว่าแอป WordPress ดันใส่โค้ดภาพจาก Flickr ไม่ได้ กากจริง!
เลยต้องเอามาใส่ในเบราว์เซอร์อีกที

โปรดตรวจสอบทรัพย์สินในการดูแลของท่าน

สวัสดี Galaxy Note: มันคือ PDA พร้อมปากกาแห่งยุคนี้

บล็อกตอนนี้ทุนนิยมสุดขั้วครับ
ใครคิดจะถือศีลแปดศีลสิบกรุณากดปิดแท็บซะ และไปหาอะไรสร้างสรรค์ๆ ทำแทน

ผมจะคุยโอ้อวดว่าตัวเองเพิ่งซื้อมือถืออันใหญ่เท่าควายมาเมื่อกี้
มันเป็นมือถือที่ไม่มั่นใจว่าสรุปแล้วนี่กูเป็นมือถือหรือแท็บเล็ตกันแน่?
ใครไม่เก็ต ให้ดูโฆษณานี้ก่อน

สรุปว่ามันคือของเล่นครับ ของเล่นราคาแพง (มาก) ชิ้นล่าสุดที่ขอเงินเมียไปซื้อมา
เป็นของไม่กี่อย่างที่จ่ายตังค์ซื้อเลยโดยยังไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน
และเป็นของบันเทิงไม่กี่อย่างที่ผมเสียเงินซื้อ นอกจากการ์ตูนและแผ่นซีดีเพลง

คือผมอยากได้ Galaxy Tab มานานมาก ตั้งแต่มันออกรุ่น 7 นิ้วแรกๆ ละครับ
เนื่องจากพนันข้างแอนดรอยด์มานาน แบบเดียวกับที่พวกสาวกแอปเปิลทำกับสินค้าตระกูลไอต่างๆ นั่นแหละ
แต่นี่อยู่ค่ายแอนดรอยด์ครับ เพราะชีวิตตัวเองผูกกับกูเกิลมาตลอด กะว่าถ้าบริษัทมึงเจ๊งกูคงเจ๊งตามแน่
แล้วก็กะว่าเดี๋ยวจะเลิกใช้มือถือ หันมาใช้ไอ้พวกนี้เป็นหลัก ตัดขาดกับโลกแห่งโทรศัพท์ไปเลย
ใครจะติดต่อกรุณาผ่านทวิตเตอร์และอีเมลเท่านั้น สันโดษมาก อยากโทรจงเอาเบอร์เมียไปซะ
คือผมไม่ชอบการคุยโทรศัพท์มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ถ้าจะคุยกันมาเจอตัวเป็นๆ กันเลยดีกว่า

ซึ่งเอาเข้าจริงก็โดนปฏิเสธไอเดียนี้จากคุณเมีย (จะไม่โทรหาใครก็ได้แต่ต้องโทรหาเมีย)
ก็เป็นอันพับโครงการไป

ทีนี้พอ Galaxy Tab 8.9 และ 10.1 นิ้วโผล่มา ก็อยากได้อีก เก็บเงินตั้งแต่ตอนนั้น
แต่พอได้เห็นได้จับของจริงกลับผิดหวัง คือรุ่น 10.1 นิ้วที่มันน่าจะชกรุ่นเดียวกะไอแพดได้สักหน่อย
แต่นี่ไม่เลย อึดอัดกว่ากันมากๆ หน้าตาอินเทอร์เฟสก็ไม่สวย (เป็นพวกจุกจิกกับความไม่สวยตรงนี้)
ก็เป็นอันพับโครงการไป

จนได้เห็นการเปิดตัว Galaxy Note ตามคลิปข้างต้น
มันคือคำตอบของสิ่งที่หามานานครับ กูอยากได้ไอ้นี่แหละ เพราะมันมีปากกา..
พี่เช่ @suppakit_ แกบอกว่ามันคือมือถือราคาหมื่นแปด ที่ขายพ่วงปากกาอีกสี่พัน ก็ฟังดูสมเหตุสมผล!

สมัยก่อนผมเคยทำเว็บให้พี่ที่สนิทสนมกันคนนึง แกมีอาชีพขาย PDA มือสอง
และได้ค่าจ้างเป็น PDA เครื่องเก่าๆ ที่ข้างในยัด WindowsCE รุ่นเก่ากึ้ก แต่โคตรเปิดโลกจินตนาการเลย
มันทำให้ผมรู้ว่าเฮ้ย ไอ้อะไรที่ถือในมือและวาดด้วยปากกาลงไปบนจอได้เนี่ย มึงครองโลกได้เลยนะ
เพราะผมเป็นพวกขี้วาด วาดแบบทิ้งขว้าง ไม่สวยกูก็จะวาด สมัยนั้นสมุดบันทึกกี่เล่มก็ไม่พอรองมือรองตีน
พอได้ไอ้ตัวนั้นมาเลยตอบโจทย์ และพกพาเป็นของเล่นอย่างสนุกสนาน (ยุคนั้นไม่ได้ต่อเน็ตใดๆ)
จำได้ว่านึกสนุก นั่งวาดๆ เขี่ยๆ ออกแบบตัวอักษรใน PDA จนเสร็จออกมาเป็นฟอนต์ผีชื่อ iannnnnPDA
ที่ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งแบบอักษรแฟนซีที่เป็นตัวแทนแห่งเรื่องผีเอย หนังผีไทยเอยไปแล้ว เย้! ขี้อวด!

แล้ววันหนึ่งมันก็เจ๊งไปตามสภาพ
พร้อมกับการล้มหายตายจากของสมุดบันทึก ที่เขียนได้ร้อยกว่าเล่มก็ยุ่งกับชีวิตวัยทำงาน จนไม่ได้เขียนอีก
ผมเลิกทำฟอนต์ตั้งแต่ตอนนั้น ความสนุกของรสสัมผัสที่หลายปากกา มันหมดลงที่ตรงนั้น

เสียดายลายมือตัวเอง เดี๋ยวนี้ลายมืออย่างเหี้ย

จนได้มาเจอไอ้เครื่องนี้แหละครับ ที่เขาคุยว่าปากกามันไม่กากเหมือนแท็บเล็ตของอีกค่ายที่ออกมาก่อนหน้า
ก็เลยสนใจ ศึกษาข้อมูล เปิดโหมดสาวกเต็มที่ ต่อสู้กับเมียเสร็จเรียบร้อย ทำเรื่องผ่านและเตรียมเสียเงิน

และแล้วมันก็มา..
ของเล่นราคาแพงชิ้นล่าสุด ในราคาสองหมื่นกว่าบาท
ราคานี้สามารถซื้อ Nexus S ได้สองเครื่อง (เป็นรุ่นที่ผมว่าคุ้มสุดละตอนนี้)
หรือซื้อมือถือโนเกียรุ่นขาวดำ(ที่เคยซื้อตอนรอซ่อมมือถือเก่าแล้วประทับใจมาก) ได้ถึงเกือบ 30 เครื่อง
หรือซื้อไอโฟน มือถือที่มนุษย์ครึ่งรถไฟฟ้าในเมืองหลวงเขาถือกันได้ 1 เครื่อง (เออ ราคาเท่ากันนี่หว่า)
อืม.. ไม่รู้จะเขียนรีวิวช่วยซัมซุงเขาโฆษณาบ้างดีไหม เพราะเขาเขียนกันเกลื่อนเมืองแล้วนี่
งั้นไม่เขียนละกันครับ แต่ยินดีจะตอบคำถามในฐานะคนที่ซื้อใช้จริง(หรือเรียกอย่างสุภาพว่าสาวก)ละกันจ้ะ

ขอบคุณมือถือเครื่องเก่าที่ต่อไปเจ้าจะเป็นเครื่องฟังเพลงและนาฬิกาปลุกต่อไป: HTC Legend อันเป็นตำนาน
คือไม่มีใครขุดมาอัปเกรดให้เป็นปัจจุบันเลย ปล่อยให้แม่งตกรุ่นไปจนแทบจะลงอะไรไม่ได้เลย :05:

จบ.

เออเดี๋ยวๆ นี่เป็นภาพแรกที่ใช้ปากกาของมันนี่แหละวาดครับ

GalaxyNote

ลื่นดี ประทับใจ สมเป็นปากกาญาติๆ ของ Wacom รุ่นแพงๆ ที่วาดลงบนจอได้เลย
แต่ยังไม่ดีที่สุด คือมันจะหน่วง “นิดนึง” สู้ปากกาสมัย PDA โบราณที่วาดปุ๊บติดปั๊บไม่ได้
เออแปลก สงสัยอยู่ที่ซอฟต์แวร์ของมันด้วย ซึ่งผมไม่ห่วง ไอ้ตัวนี้อนาคตไกล เดี๋ยวก็มีพัฒนาเรื่อยๆ แหละ
ยังไงขอใช้ไปสักพักให้คุ้นมือ น่าจะใช้ประโยชน์ได้จากมันมากกว่านี้ครับ!

ป.ล.
#กินมาม่าที่เหลือจากการตุนไว้ตอนน้ำท่วมต่อไปได้อีกเดือน

HTC Blogger Day ครั้งที่ 2

ทีแรกคิดชื่อตอนกวนตีนๆ ไว้เยอะแยะแต่ไม่ลงตัวซะที
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่ถูกใจซะที.. งั้นเอาแม่งทื่อๆ แบบนี้แหละ

มือถือรุ่นที่ผมใช้อยู่คือ HTC Legend อายุหนึ่งขวบกว่าๆ
สภาพมันยังดีอยู่มาก ไม่มีอะไรเสีย ไม่สิ เคยเสียส่งซ่อมไปแล้ว และกลับมาดีเหมือนเดิม
ระหว่างที่ส่งซ่อมเนื่องจากไม่มีมือถือใช้ ก็เลยไปซื้ออะไรก็ได้ที่ราคาถูกๆ มาใช้
แล้วก็ไปถูกใจโนเกียขาวดำจากบิ๊กซีอยู่รุ่นนึง นั่นคือ Nokia 1280

พอใช้ไปสักพักก็รู้สึกชอบมาก ชอบฉิบหายเลย ก็เลยรีวิวเปรียบกะ iPhone 4 ไว้
จิ้มดูนี่เลยครับ : เปรียบมวย Nokia 1280 vs iPhone 4
แต่บล็อกเสือกพัง :05: ทีแรกกะว่าจะซ่อมให้หายก่อนค่อยเอามาลง
ก็เลยอดใจรอไม่ไหว ทวีตแจกแม่งเลย ปรากฏว่าพักเดียวก็ถูกจิ๊กกระจายเต็มเน็ต :30:

แต่ข้างบนทั้งหมดไม่เกี่ยวกับบล็อกตอนนี้ครับ งั้นเข้าเรื่องละนะ..

อยู่มาวันหนึ่งผมก็ได้รับคำชวนไปงานเปิดตัวอุปกรณ์ไฮเทค 4 ตัว ภายใต้ยี่ห้อ HTC
ได้แก่ HTC Flyer, HTC Sensation
, HTC Wildfire S, HTC ChaCha กับ HTC Salsa (มัน 4 ยังไงวะ)
โดยในงานนี้เขาเชิญคนที่เป็น “บล็อกเกอร์” เข้ามาร่วมในงาน
(ทีแรกไม่รู้ว่าข้าวปลาอาหารฟรีหรือเปล่า เลยไม่กล้ากิน นั่งดูอยู่เฉยๆ เปิ่นมาก)
โดยงานนี้มีชื่อว่า “HTC Blogger Day ครั้งที่ 2” (ในทวิตเตอร์จะมีแท็ก #HTCDay2 ท่วมไทม์ไลน์)

ผมออกจากออฟฟืศตอนหกโมงค่อน ซึ่งตามกำหนดการ ป่านนี้เขาก็เริ่มงานกันไปแล้ว
กว่าจะเดินทางไปถึงก็ล่อเข้าไปทุ่มกว่าๆ (คือหลงทางแถวทางเข้าร้านอยู่พักใหญ่)
เนื่องจากผมไม่เคยข้องแวะกับวงการนี้มาก่อน เลยจินตนาการไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นไง

ทีแรกคิดว่าบรรยากาศงานจะเป็นแนวจริงจังแบบเปิดตัวสินค้า(สำหรับผู้ชาย)ต่างๆ
ที่มีพริตตี้ตึงๆ มาแอ๊บแม้วทำท่าดัดจริตเพื่อให้น้าๆ มาส่องนม ถ่ายรูปคู่กับอุปกรณ์ล้ำๆ
(ซึ่งก็จะเป็นอย่างมอเตอร์โชว์ในแต่ละปี ทีไม่เห็นจะรู้เลยว่ามีรถอะไรมั่ง มีแต่พริตตี้)
แต่สำหรับงานนี้ บรรยากาศในงานเป็นแบบนี้ครับ

HTCDay2

ปรากฏว่าเป็นร้านอาหารแนวๆ นั่งกินดื่มสังสรรค์แห่งหนึ่งย่านสีลมครับ
จริงๆ ก็เหวอตั้งแต่เดินไปถึงหน้างานแล้วแหละ ว่าเฮ้ย ทำไมคนแน่นจนล้นเลยวุ้ย
แต่ถามว่าแบบนี้กับแบบทางการนั้นอะไรน่าจะถูกจริตกว่ากัน ..ผมชอบแบบนี้ครับ :22:
ภายในงานก็จะเหมือนงานเลี้ยงโต๊ะจีน ที่มีแขกเหรื่อมาอัดกันแน่นเป็นปลากระป๋อง
เนื่องจากผมไปถึงสายกว่าชาวบ้านเลยเก้าอี้ไม่พอนั่ง ทีแรกก็นั่งตรงหลืบแคบๆ
แต่สักพักก็มีเก้าอี้ว่างมาจนได้ (ขอบคุณ @muemue เด้อ)

อย่างที่บอกว่าไม่เคยมาอะไรแบบนี้เลย ก็เลยสนใจเพราะว่ามันไม่ใช่สิ่งปกติในชีวิต
ถ้าคนที่เขียนบล็อกรีวิวอะไรแบบนี้อยู่แล้วผ่านมาอ่านคงส่ายหน้า เพราะกูชิ้นชิน
แต่สำหรับผมแล้่วทุกอย่างดูแปลกแยกและผิดที่ผิดทาง เหมือนตัวเองเป็นหมาหลง :30:

คือไอ้อาการหมาหลงนี่ก็น่าสนุกนะ ตรงที่รู้ว่ามันไม่ใช่ที่ของเรานี่แหละเลยสนุก
อย่างการได้เจอคนนึงที่น่าสนใจ คือเขาเซนซิทีฟกับมุกที่มนุษย์โลกอย่างเราไม่ควรเก็ต
เช่น “มือถือรุ่นนี้อย่างเมพนะครับ เผื่อคุณไม่เชื่อก็ลองเอาไปลอง Benchmark ดู” …
ปรากฏว่าแม่งฮาเว้ย ไม่ใช่ฮาเบาๆ ด้วยนะ แต่หัวเราะลั่นร้านแบบนักเลงต่างจังหวัด
เหมือนจะประกาศกร่างว่าเฮ้ยกูขำเว้ยพี่น้องงงง :30:
คือพอคุณพี่เจ้าของงานเขาพูดอะไร คุณคนนี้ก็จะตบมือสะใจโดยไม่ต้องเกรงใจใคร
จนหลายจังหวะต่อมาเขาก็ยังสนุกกับการคุยและแสดงพลังดังลั่นร้าน
อันนี้ไม่ได้ว่าอะไรเขานะครับ คือใครมีเพื่อนชอบโชว์พาวแบบนี้คงนึกออกชิมิ
เพียงแต่เป็นความประทับใจที่ผมได้เจอ ว่าเออว่ะ วงการนี้มันเป็นยังงี้นี่เองวุ้ย

เปล่าๆ ไม่ได้จะเหมารวมนะ เพราะคนที่มาก็หลากหลายกว่านั้นมากๆ
คือมันเป็นงานรวมพลบล็อกเกอร์ ก็เลยมีทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพปะปนกันไป
ดูจากบรรยากาศรวมๆ แล้วส่วนมากจะรู้จักกันอยู่แล้ว เฮฮาเอะอะกันได้อย่างสนิทสนม
โดยที่แต่ละคนไม่ว่าจะทำงานการอะไร ในงานนี้ก็ขอสวมหมวกคนเขียนบล็อกซะหน่อย
หรือไม่ก็ต้องมีอะไรสักอย่างที่เป็นส่วนช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับเจ้าภาพข้าวเย็นมื้อนี้
(สำหรับผมเองก็งงๆ เหมือนกันว่ามาได้ยังไง หรือเพราะบล็อกเราหายเน่าแล้ว :30:)

ส่วนเรื่องรายละเอียดของสินค้านั้นคงขอละไว้ละกันครับ (อ้าว) ..ก็หาอ่านได้ทั่วไปนี่นา!

ฟังไปฟังมาก็ได้รู้ธรรมเนียมว่าเขาจะแจกเครื่องที่เปิดตัวในงานให้กลับบ้านเอาไปรีวิวกัน
แต่เนื่องจากคนมาเยอะเกินปริมาณของ ก็เลยคงเลือกจากความมีประโยชน์ของแต่ละคนไ
ผมเลยได้ HTC Wildfire S รุ่นเล็กมาให้ยำ แล้วก็เขียนบล็อกคืนเขาเป็นเวลา 14 วันครับ
ส่วนคนเขียนบล็อกเมพๆ หรือเขียนแนวมือถืออยู่แล้ว ก็จะได้ใช้รุ่นที่เมพขึ้นไปตามลำดับ

ที่ผ่านมาเคยแต่อ่านเว็บที่เขารีวิวของใหม่ๆ กัน ก็สงสัยว่าเอ๊ะ นี่มันลงทุนซื้อกันหรือยังไง
ที่ไหนได้ มันยังนี้นี่เอง ..ก็ดีนะ การที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ทุกอย่างเลยดูแปลกใหม่
ทางคนเขียนบล็อกก็รู้สึกดีที่ได้โอ้อวดว่าตัวเองนี่เจ๋งมากเลย มีอะไรมาอวดด้วย
ส่วนทางเจ้าของสินค้าก็มีคนโฆษณาให้ด้วย และถ้าของดีจริงก็คงช่วยอวยกันหูดับตับไหม้

อ้ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เลยจะลองแปลงร่างเป็นคนเขียนบล็อกรีวิวมีถือดูกะเขาบ้างสักที
แต่ขอลองเล่นของฟรีสักพักก่อน แล้วจะมาเขียนรีวิวให้ดูครับ!