พฤติกรรมการใช้งานเฟซบุ๊กที่ผิดเพี้ยน

เปลี่ยนโหมดมาคุยเรื่องการออกแบบเว็บกันนิดนึงครับ

ทุกวันนี้ผมเสพติดโลกออนไลน์ จมปลักอยู่หลายบริการ แต่ที่รับไม่ได้จริงๆ คือเฟซบุ๊ก ที่ถึงแม้บ่อยครั้งจำเป็นต้องเข้าไปอ่านเพราะคนไทย (ปกติจะเกลียดการเหมารวม “คนไทย” แต่นี่เราเป็นกันจริงๆ เลยเหมาได้) แม่งเอะอะอะไรก็เอาทุกอย่างไปฝากไว้ในนั้นหมด ขี้หมูขี้หมาก็โยนลงไปจนทุกวันนี้เฟซบุ๊ก = อินเทอร์เน็ตไปแล้ว

ซึ่งมันดันเป็นอินเทอร์เน็ตที่ไม่เสรีเลยนะ แต่ถูกควบคุมด้วยเอกชนเพียงรายเดียว

นั่นเลยส่งผลให้ทุกครั้งไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่ว่าจะเป็น Policy ใหม่ หรือประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ ถึงจะแค่นิดหน่อย แต่ถ้ามีผู้ใช้จำนวนมหาศาลโคตรพ่อโคตรแม่อันดับหนึ่งของโลกแบบนี้ เฟซบุ๊กจึงโดนด่าอยู่ร่ำไป ก็ดูอย่าง UI แบบไทม์ไลน์ที่ผมเคยชมนั่นสิ ชาวบ้านด่าจนต้องเปลี่ยนเป็นแบบใหม่ล่าสุดของล่าสุดของล่าสุด (อีกไม่กี่วันก็จะเปิดตัวละ)

ซึ่งก็เป็นสัญญาณอันดีที่จะค่อยๆ เปลี่ยนเว็บที่เปลี่ยนยากที่สุดในโลก (เพราะมันออกแบบมาห่วยตั้งแต่ต้น) ให้ใช้ง่ายขึ้นบ้าง

ที่จริงคำว่า “ใช้ง่าย” เนี่ยไม่เคยเกิดกับเฟซบุ๊กเลยนะครับ มันเลยเป็นเรื่องน่าสนใจมากว่า ที่จริงแล้ว user ทั่วโลกไม่ได้โง่รึเปล่า คนที่เป็นนักออกแบบ UI นั้นถูกปลูกฝังมาตลอดว่าเวลาออกแบบอะไร ให้คิดถึง user ที่โง่ที่สุด แต่เฟซบุ๊กซึ่งเป็นเว็บใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก ดันเป็นเว็บที่ใช้งานยาก ปุ่มนู่นนิด ต่อมนี่หน่อย ไหนจะตัวอักษรเล็กจนมดยังต้องเพ่ง หรือระบบนำทางที่ชวนงง กูกดภาพแล้วจะ back ไปอะไรยังไงต่อ เมนูหลักอยู่ไหน ฯลฯ

ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กเองก็คงพยายามไม่น้อยแหละครับ ในเรื่องที่จะค่อยๆ เปลี่ยนเว็บให้มันใช้ง่ายขึ้น และตอบโจทย์เรื่องพื้นที่ทุกพิกเซลสามารถสร้างรายได้ได้ ตอนนี้เลยลุ้นอยู่กับการออกแบบไทม์ไลน์แบบใหม่ล่าสุด ว่ามันจะเปลี่ยนอะไรได้แค่ไหน

อุตส่าห์ลอก Google+ มาทั้งที :27:

เรื่องลอกนี่ไม่มีปัญหานะครับ ลอกไปเลย ถึงจะเสียศักดิ์ศรีหน่อย แต่ก็เอาเหอะ เอาให้เนียนๆ ให้ user ที่แอนตี้สุดลิ่มทิ่มประตูอย่างผมรู้สึกว่ามันดีขึ้น ใช้ง่ายขึ้น ใครจะไม่ชอบล่ะ

จบเรื่องบน มาต่อเรื่องล่าง

ทั้งนี้ที่อยู่ดีๆ ก็เขียนบล็อกนี้ขึ้นมา เพราะผมตื่นมาแหกขี้ตาดูข่าวในมือถือ ก็เจอลิงก์นี้

เลยพบว่าการประกาศอะไรที่เป็นใจความสำคัญเนี่ย เจ้าของเพจ (และผู้ใช้ปกติ) จะถูกสั่งสอนกันมาว่า “อย่าโพสต์เป็นข้อความธรรมดาหรือแชร์มาสิ เดี๋ยวไม่มีภาพ หรือภาพมันเล็ก จะไม่เป็นที่สนใจ ดังนั้นให้โพสต์เป็นภาพไปเลย แล้วถ้ามีต้นฉบับก็ให้ใส่ที่มาเอา”

ทั้งนี้เพื่อล่าไลก์ ที่เหี้ยคือไม่ได้เกิดแค่บ้านเรา แต่เขาสั่งสอนกันมาทุกเพจทั่วโลก

กลายเป็นว่าทุกวันนี้เรามีประเภทของโพสต์ที่เป็น “รูปภาพพร้อมคำบรรยายใต้ภาพ” เต็มไปหมด ในฐานะคนออกแบบระบบ พฤติกรรมสุดฮิตที่คนหันไปใช้การโพสต์ภาพ เพื่อจะบอกเล่าเรื่องราวในฐานะข้อความใต้ภาพกันหมดเลยเนี่ย แบบนี้ถือว่าล้มเหลวนะครับ

แก้ยังไง?

ถ้าในฐานะคนออกแบบระบบและประสบการณ์การใช้งาน ก็แก้ง่ายๆ ครับ ในเมื่อเราเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้ทุกคนในโลกทันทีไม่ได้ ก็หันมาเปลี่ยนสเต็ปการโพสต์ จาก “เลือกประเภทข้อความก่อนที่จะโพสต์” (คือเลือกว่าจะเอา text หรือภาพก่อน) ให้กลายเป็น “โพสต์แล้วค่อยแนบภาพหรือคลิปลงไป” แทน

ดังนั้นผู้ใช้จะจะแนบหรือไม่แนบภาพก็ได้ อย่างน้อยแค่มีข้อความก็ถือเป็น “การ์ดข้อความ” 1 ใบ (เรียกว่าการ์ดเพราะผมอิงกับดีไซน์ใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัว (และลอกมาจาก Google+) นะครับ) แต่ถ้ามีภาพก็แสดงภาพประกอบไปด้วย จบเลย สวยงาม การปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานแบบนี้ใช้ได้ดีและเห็นผลมาแล้วกับทั้งทวิตเตอร์และ Tumblr และ แฮ่ม… Google+

แหม พอจะจับภาพประกอบก็พบว่าเฟซบุ๊กเขามีอัปเดต ใส่ไอ้ตัวข้างล่างมาแล้ว สงสัยแวะมาอ่าน 5555 แต่ยังไงผู้ใช้ก็ยังต้องเจอคำสั่งให้เลือกจากด้านบนอยู่ดีว่าจะโพสต์เป็นภาพ หรือเป็นข้อความ ดังนั้นตรงนี้ต้องใช้เวลาตัดสินใจอยู่อีกหน่อย

วิชา UX มันสนุกแบบนี้แหละ ถึงจะนิดๆ หน่อยๆ แต่ถ้าทำให้เว็บใช้ง่ายขึ้นมาอีกหน่อย คนออกแบบก็ยินดีครับ

ป.ล.
ทวีตเรื่องนี้ไปเมื่อกี้ นึกได้ว่าน่าขยายเลยเอามาต่อในบล็อก จบ

รำคาญตัวอักษรจิ๋วๆ ในเฟซบุ๊กใช่ปะ เอ้า ทำไอ้นี่มาให้

Facebook Text Enlarge / Chrome Extension

พอดีเพิ่งซื้อ iMac ใหม่มา (อวดๆ) แล้วผมใช้โครมเข้าเว็บเป็นหลัก ก็พบว่าตัวเองโคตรรำคาญตัวอักษรจิ๋วๆ บนเฟซบุ๊กเลยครับ (ที่จริงคือไม่ชอบดีไซน์ทุกประการของฟซบุ๊กเลย) เลยทำไอ้นี่ขึ้นมาใช้เองเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

มันเป็นตัวขยายขนาดตัวอักษรบนเฟซบุ๊กให้ใหญ่ขึ้นนิดนึงครับ จากเดิมที่จิ๋วๆ ก็ขยับมาเป็น 13px ซะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเลยปล่อยให้โหลดด้วยละกัน ดาวน์โหลดที่นี่เลยครับ:

Facebook Feed: Enlarge Text

ส่วนวิธีติดตั้งก็ไม่ยาก ใครใช้ Firefox ต้องโหลด Add-on ชื่อ Greasemonkey ก่อน แล้วก็โหลดไอ้ตัวนั้นมาลง

หรือถ้าใครใช้โครม ก็โหลดสคริปต์ลงมาจากลิงก์ข้างบน จะได้ไฟล์ชื่อ 157418.user.js มาตัวนึง แล้วก็เข้าไปที่ URL นี้รอไว้ chrome://extensions (ก็อปไปวางเลย) แล้วจับไฟล์ที่โหลดมาตะกี้ ลากมาวางแหมะลงหน้านี้แหละ จบแล้วครับ

ถ้าใช้แล้วโอเคก็ฝากบอกต่อหรือโหวตให้ด้วยนะครับ (แม่งบ้าคะแนน)
หรือจะให้ปรับอะไรก็บอกนะ พอดีตอนนี้อู้งานปั่นต้นฉบับส่งแซลมอนอยู่ แหะๆ

เมื่อคืนนั้น ฉันฝันเนิร์ด

(NERD ALERT)

ตอนนี้อยู่สระแก้วครับ มาชาร์จแบตชีวิต ปรากฏว่าเมื่อคืนดันนั่งเฝ้าจอดูแอปเปิลเขาขายของซะงั้น เลยนอนดึกมาก ..นอนดึกไม่พอ ดันฝันสนุกอีก (สนุกแบบเนิร์ดๆ นะ เตือนไว้ก่อน) พอตื่นมาเลยต้องรีบทวีตไว้ก่อน เดี๋ยวลืม แล้วก็ตามฟอร์ม บันทึกไว้เพราะเดี๋ยวทวีตแม่งก็จม (ยากจริงชีวิตกู)


(เผื่อใครไม่เก็ต ลองค้นหาวิดีโอเกี่ยวกะอนุบาลฝันในฝัน อะไรสักอย่าง สตีฟจ็อบส์ร่างยักษ์ก็อยู่ในนั้น)


ความเนิร์ดมาละครับ


อันนี้เจ๋ง พี่เม่นมายืนครีติกหน้าชั้นเลย ว่าถ้าจะมีความสามารถนี้จริง ทวิตเตอร์น่าจะเสียเอกลักษณ์เรื่องความง่ายไป เพราะผู้ใช้ต้องคิดเยอะขึ้นมาก เราเลยอ้อมแอ้มอ้างไปว่า มันก็ควรจะมี default ที่ดีพอ นั่นแปลว่า user ระดับทั่วไปไม่ต้องมานั่งนึกเรื่อง Circles นี้หรอกครับ ก็ใช้ตามปกติไปนั่นแหละ คนที่จะนึกน่าจะเป็นทวิตเตอร์ของแบรนด์มากกว่าที่จะเลือกเจาะจงว่าจะให้ข้อความนี้ส่งถึงใคร
นอกจากนี้แล้วยังมีฟีเจอร์ที่ไม่ได้ทวีตอีกแต่มันต่อเนื่องจากข้อนี้ เช่น ระบบกึ่งบังคับให้ผู้ใช้ใส่ profile ของตัวเองให้ละเอียดหน่อย เพื่อให้ความสามารถเรื่องการส่งข้อความให้เห็นเฉพาะลิสต์ที่ว่าเนี่ย ส่งไปถึงตัวคนง่ายขึ้น เช่น อาศัยอยู่แถวประเทศไทย (อันนี้ user ไม่ต้องปรับอะไร เพราะเขียน location อยู่แล้ว ยกเว้นพวกเขียนว่า “อยู่กลางใจเทอ” ไรงี้ มึงต้องแก้) หรืออายุ เพศ การศึกษา ฯลฯ สรุปคือลอกความสามารถนี้มาจากเฟซบุ๊ก


อันนี้พี่เม่น(ในฝัน)กับใครอีกคน น่าจะพี่อาท บอกว่าดูแล้วมันส่งเสริมธุรกิจใต้สะดือนะเนี่ย ซึ่งเราว่าจริง และทวิตเตอร์ก็คงไม่แคร์เพราะเป็นช่องทางหารายได้ของเขา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือคนจะเริ่มรู้สึกว่าเออ ข้อความที่ทวีตออกไปเนี่ยมันมีลิขสิทธิ์ มีค่าสมองได้เหมือนกัน เผื่อใช้ในกรณีทวีตข่าว Exclusive หรือบทกวี หรือนิยาย (เคยเห็นที่ไหนไม่รู้แต่งนิยายในทวิตเตอร์เลยเก็บมาฝันเนี่ยแหละ)


ข้อนี้ติ่งเกาหลีหรือคนที่ใช้ทวิตเตอร์ไว้เพื่อแช็ตคุยกันหลายๆ คนเป็นหลัก (แบบเรา) จะสบายใจมาก ที่จริงมีอย่างอื่นอีกนะข้อนี้ แต่ในฝันเราเถียงกันว่าแบบไหนถึงจะดี เช่น ตั้งชื่อแบบ @[…] ซึ่งอย่างหลังนี่เสียพื้นที่ตัวอักษรไปอีกสองตัว ซึ่งไม่พอแน่ แต่ก็มีอีกข้อที่เสนอไปว่า ระบบใหม่ของทวิตเตอร์จะจำ username เป็นเพียง 1 ตัวอักษร (ข้อจำกัด 140 ตัวอักษรนั้นมาจาก SMS ซึ่งเลิกใช้ไปนานมากแล้ว) ดังนั้นถ้าใช้ร่วมกับข้อนี้ก็คงโอเค

ที่จริงมีอีกเยอะมากเลย ไม่รู้ไอเดียมันผุดขึ้นมาตอนหลับได้ไง แล้วทำไมต้องฝันซ้อนฝันด้วย เดาว่าคงเพราะกังวลว่าวันนี้เรานอนน้อย แล้วต้องขับรถไกลๆ กลับกรุงเทพฯ อีกแหงเลย เลยกังวลนิดๆ จนเก็บไปฝัน

จบครับ ไปขี้ละ

The Evolution of iMac

ป.ล.
เพิ่งเคยนั่งตามไทม์ไลน์งานแอปเปิลสดๆ สนุกดีเหมือนกัน
แต่ทวีตขวางทางตีนของชาวบ้านไว้ซะเยอะ รู้สึกบาป เลยเล่นมุกบูชาศาสดาหน่อย
เอาไปส่ง 9GAG มาด้วยนะ เลยก็อปไว้ที่นี่อีกสำเนานึง (เดี๋ยวฝรั่งมันแย่งเล่นก่อนฉิบ)

ป.อ.
งานคราวนี้เฉยๆ (ทุกทีก็เฉยๆ มีตอนเปิดตัวไอโฟนกะแมคบุ๊กขอบอะลูฯ แหละที่ชอบ)
ยังไงก็วางแผนซื้อ iMac อยู่แล้ว รอเมื่อไหร่มันจะออก พอออกมาดีก็เบาใจ เมียจะได้ไม่ว่ามาก แหะๆ

ป.ฮ.
นี่อัปอยู่ที่สระแก้วนะ ลาพักร้อน หอบลูกเมียมาเที่ยวครั้งแรกตั้งแต่นิทานเกิดมาเลย (ถ้าไม่นับเขาใหญ่ที่ไปกะเพื่อน)
ที่พักของ @zwingzet ชิวมาก อยากเกษียณตัวเองขึ้นมาทันที (อ้าว!)

Pixa: (ว่าที่)โปรแกรมดู-จัดการภาพสุดเมพของแมค

ก่อนอื่นต้องยอมรับกันก่อนนะครับ ว่าในแมคที่หลายคนต่างบูชาเนี่ย ไม่มีโปรแกรมดูและจัดการภาพที่เข้าท่าเลย ถ้าเป็นในวินโดวส์ยังยกให้ FastStone Image Viewer และ Picasa (ซึ่งตัวหลังนี่หน้าตาเป็นมิตรต่อผู้ใช้กว่า และมีในแมคเหมือนกันแต่แม่งหน่วงๆ)

จนไปเจอตัวนี้ครับ “Pixa” ซึ่งตอนนี้ยังเป็นรุ่นเบต้าอยู่ เลยโหลดฟรี แต่แลกมาด้วยความสามารถช่วงแรก ที่ยังไม่ค่อยเยอะ (ดูในเว็บแล้วคิดว่าต่อไปคงเยอะแหละ) ซึ่งที่ต่างจากโปรแกรมอื่นๆ ในท้องตลาด รวมถึง iPhoto เองที่คนใช้แมคเขาต้องใช้กัน (เหรอวะ) คือมันคิดเครื่องมือกรุบกริบมาให้คนทำงานออกแบบเอย กราฟิกเอยโดยเฉพาะ

เอาที่เห็นเป็นประจักษ์ตาก่อนนะ


หน้าตาโปรแกรมดูแล้วเข้าใจเลย ข้างบนเป็นแท็บ ยังไม่ยืดหยุ่นเท่าไหร่ เช่นใช้เมาส์ปุ่มกลาง-ที่แอปเปิลไม่มีนี่หว่า-ทำนู่นนี่ไม่ได้ หรือต้องคลิกขวาโอเพ่นนิวแท็บอย่างเดียวไรงี้ ถ้าหล่อและเก่งเท่าโครมได้นี่จะกรี๊ดมาก ส่วนข้างซ้ายก็เป็น Sidebar แบ่งเป็นไลบราลี่ และโปรเจ็กต์ ซึ่งเราจะเพิ่มโฟลเดอร์แบบ Live ได้ (มันก็คือโฟลเดอร์ธรรมดาแต่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงเวลามีไฟล์ใหม่เข้ามาน่ะ) แล้วก็พวกใส่แท็กป้ายสีแบ่งประเภทให้ภาพคล้ายโปรแกรมอื่นๆ

03-loupe
มีเครื่องมือดูดสี (Loupe Tool) ออกไปเป็นโค้ด RGB / Hex Code / CSS3 / ฯลฯ

02-blank tamplate
อันนี้ของดี ที่บอกว่าเหมาะกะคนทำงานออกแบบ คือมี New Image From Template แล้วก็ให้เลือกเลยว่าจะเอาเทมเพลตอะไรล่ะ

05-PSD Layer
มันก็จะบ้วนถุยออกมาเป็นไฟล์ PSD ที่แบ่งเลเยอร์ไว้แล้วเรียบร้อย อย่างไอแพดนี่มีหมดต้งแต่ 1-2-3 เลย

04-export
และสุดท้าย Export ภาพออกไปเป็นตระกูลต่างๆ ซึ่งก็ตั้ง Preset ไว้ได้ครับ

นอกนั้นก็ จับหน้าจอได้แบบฉลาดๆ (เลือกจับเฉพาะหน้าต่างแอปได้ เช่นภาพข้างบนนี่ไง), อัปโหลดภาพขึ้น Dropbox และ Cloud App ได้ ฯลฯ (ลองเล่นแค่นี้แหละ) และย้ำว่าเขากำลังพัฒนาอยู่ นี่แค่รุ่นเบต้า พวกครอปภาพไรงี้ยังไม่มีเลย เอ๊ะ หรือมีแล้วแต่ยังหาไม่เจอวะ..

ถ้าดูแล้วหลงกลก็เข้าไปโหลดเหอะครับ: Pixa – organizing your images, the easy way

ป.ล.
เขียนห้วนหน่อยนะครับ พอดีอู้งานได้แว้บเดียว