ลงคอมยันเช้าในรอบเกือบสิบปี

เรื่องมันเป็นยังงี้ครับ เมื่อวานนี้ไปเยี่ยมญาติของเมียที่โรงพยาบาลรามาฯ พอเสร็จแล้วโบว์ก็บอกว่า “เดี๋ยวกลับบ้านก่อนเองก็ได้ ให้เตงไปงานคอมมาร์ตละกัน”

ชีวิตเปลี่ยนเลยครับพี่น้อง

ผมก็เลยนั่งรถไฟฟ้าไปงานคอมมาร์ตที่ศูนย์สิริกิติ์ แบบที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก่อนหน้านี้เลยสักนิด แม้แต่แบตมือถือก็เหลือไม่ถึงครึ่ง (ถ้าเป็นไอโฟนนี่ถือว่าวิกฤตแล้ว แต่นี่โน้ตสามครับ รอด #อวย) ผมโดดมาทำภารกิจนี้ เพื่อมุ่งหน้าไปซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ให้เมีย!

ตัดภาพย้อนกลับไปในอดีต โบว์มักจะบ่นอยู่ตลอดเวลาว่า “แมคบุ๊กเตงใช้ยากว่ะ” ซึ่งก็สมควรนะครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นคอมหรือมือถือของผมเนี่ย เป็นอุปกรณ์ที่ผ่านการปรับแต่งเพื่อความถนัดส่วนตัว อย่างที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้คนอื่นที่มายืมเล่นอย่างเด็ดขาด ใครที่มีนิสัยแบบนี้เหมือนกันก็คงนึกออกใช่ไหมครับ ที่พอมีใครมาใช้ก็จะถามระคนบ่นตลอด ว่าไอ้นั่นอยู่ไหน ไอ้นี่ทำไง ทำไมไม่เหมือนเครื่องชาวบ้านวะ นั่นคงเพราะนิสัยรำคาญความ default ของมันที่โคตรไม่ถูกใจเลย อาการนี้เป็นเหมือนกันหมดโดยเฉพาะกับอุปกรณ์พกพาทั้งแอปเปิลทั้งซัมซุง

เนื่องจาก default มันรองมือรองตีนได้ดีไม่พอ ดังนั้นก็เลยต้องเที่ยวไปหาตัวอื่นที่มันถนัดมือกว่ามาลง ถ้าเปรียบเป็นก๋วยเตี๋ยวก็คงใส่พริกใส่น้ำตาลจนแม่ค้าค้อนขวับ

นี่คงเป็นนิสัยของคนที่โตมากับการซื้อคอมประกอบเอง เอาลงวินโดวส์(เถื่อน)ให้ญาติมิตรบ่อยๆ ตั้งแต่โบราณล่ะมั้ง? (เออ เอาจริงๆ ตั้งกะสมัยยังเป็นดอสแน่ะ)

จนวันหนึ่งเลิกใช้วินโดวส์ หันไปใช้แมคเต็มตัวทั้งเครื่องตั้งโต๊ะและเครื่องฝาพับ ก็ยังเป็นผู้ใช้ที่ศาสดารังเกียจ เพราะไปลงนั่นเสริมนี่แบบที่ดูจะเป็นยี่ห้อมะม่วงมันมากกว่าแอปเปิลแคลิฟอร์เนีย

เหยาะเหตุนี้เอง เมียข้าพเจ้าจึงบ่นฉิบหาย จนวันหนึ่งก็มาถึงจุดพีก เมื่อโบว์ประกาศกร้าวขึ้นมาว่า

“งั้นซื้อโน้ตบุ๊กใหม่เลยละกัน แยกกันใช้ จะได้ไม่ต้องคอยบ่น”

โป๊งงง ตัดภาพกลับมาคอมมาร์ตเลยครับ บล็อกจะได้ไม่ยาว แค่นี้แม่งก็ไม่เหลือคนอ่านอยู่แล้ว

ผมมางานคอมมาร์ตครั้งล่าสุดคือหลายปีก่อน รู้สึกจะมาแบบงงๆ คล้ายๆ แบบนี้แหละ แต่ก็ตั้งใจจะซื้อของอยู่แล้ว (จำไม่ได้ว่าซื้ออะไร) ก็เลยไม่เสียเที่ยว

ส่วนโจทย์คราวนี้ชัดเจน คือจงซื้อโน้ตบุ๊กใหม่ให้เมีย โดยกำหนดคุณสมบัติดังนี้
• ราคาไม่เกินสองหมื่น เกินบาทเดียวก็ไม่เอา
• ขอเครื่องสวยๆ สีชมพูได้ยิ่งดี
Continue reading ลงคอมยันเช้าในรอบเกือบสิบปี

คอมเมนต์

กติกาการอวยสินค้าและบริการของข้าพเจ้า

คิดว่าจะหายไปพักใหญ่แล้วนะ แต่ช่วงนี้กลับมี (พนักงานฝ่ายอะไรสักอย่างของ) สินค้าบริการบางประเภท ชอบมาขอให้ผมเขียนรีวิวให้ บ้างก็แลกกับสิทธิประโยชน์บางอย่าง บ้างก็ให้เขียนเฉยๆ โดยไม่ได้มีค่าตอบแทน แต่ที่เหมือนกันเลยคือทั้งสองประเภทที่ว่ามานี้ไม่รู้ไปใช้วิธีอะไรมาจิ้มหาตัวเลือกผู้รีวิว จนมาเจอผม.. คงคิดว่าทวิตเตอร์ที่พูดแต่เรื่องขี้ หรือบล็อกที่ไม่มีคนอ่านนี้ น่าจะทำประโยชน์ให้สินค้าบริการเขาได้ละมั้ง แน่ใจนะครับ?

รู้สึกว่าเรื่องนี้เคยเขียนไว้นานแล้ว แต่ไม่ค่อยตรงประเด็นนี้เท่าไหร่ เลยขอเขียนสรุปไว้อีกที เผื่อใครจะส่งอะไรมาอีกจะได้อ่านและไม่ต้องมาเซ็งกันครับ

  1. ใครจะส่งอะไรมาให้ทดลองใช้ ผมยินดีครับ สนุกดี เป็นความสนุกแบบเนิร์ดๆ ส่วนตัว ที่ได้ลองเล่นอะไรแปลกๆ (โดยเฉพาะพวกของเล่นไฮเทคทั้งหลาย) ถึงจะไม่ได้ตังค์ ไม่ได้อะไรเลยนอกจากได้ลองเล่น หรือต้องเสียเวลาเดินทางไปรับไปส่งของก็ยังยินดี ข้อแรกฟังดูดีใช่ไหมครับ งั้นอ่านต่อ
  2. ถ้าสินค้าหรือบริการนั้นดี ก็จะชม แต่ถ้าห่วยก็จะด่า มันก็ง่ายๆ เท่านี้เอง
  3. ถ้าให้เขียนชมอย่างเดียวแบบห้ามด่า แบบนี้ไม่รับครับ หรือเขียนเสร็จแล้วต้องส่งต้นฉบับไปให้เจ้าของสินค้าเกลา (ให้เหลือแต่สิ่งดีงาม) ก่อนเผยแพร่อะไรแบบนี้ เสนอว่าลองเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่ผมเขียนให้ดีกว่า
  4. ถ้ามีสิทธิประโยชน์ใดๆ ติดมากับการรีวิว เช่นได้ของแถม หรือได้ตังค์ ผมเอาครับ ได้ตังค์หรือขายวิญญาณก็เอาครับ เอาหมด แต่จะเขียนบอกไว้ชัดๆ ขอไม่อุ๊บอิ๊บ ดังนั้นจึงขอ “งด” รีวิวอะไรก็ตาม ที่มีกติกาว่าห้ามบอกว่าได้สิทธิพิเศษอะไรมา คืองี้ครับ ผมเกลียดหน้าม้า เกลียดการ seeding (ยิ่งได้รู้ว่าวงการดิจิทัลเอเจนซี่เขาเรียก “หน้าม้า” แบบสวยๆ ว่า seeding และทำกันเป็นเรื่องปกติแบบไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเพราะใครๆ เขาก็ทำกัน ยิ่งเกลียดแบบเกลี๊ยดเกลียด เฮ้ยมึงทำลายระบบนิเวศน์อยู่นะรู้ไหม–รู้สิ)
  5. เกณฑ์การรีวิวนั้น จะขอพูดถึงเฉพาะสิ่งที่ผมสนใจครับ เช่น สมมติมีมือถืออันนึง จะให้มาทดสอบ CPU หรือประสิทธิภาพของเกม 3D อะไรแบบนี้ บายจ้ะ
  6. ผมใช้ทวิตเตอร์เป็นหลัก เฟซบุ๊กนั้นเอาไว้ทำงานครับ ไม่ได้เอาไว้เล่นเลย นานๆ จะตอบคอมเมนต์คนอื่นที ดังนั้นมาถามเรื่องจำนวนเพื่อน หรือจำนวนผู้ติดตาม หรือเพจที่ดูแล ฯลฯ อะไรพวกนี้ บาย
  7. ทุกข้อที่กล่าวมานี้ขอย้ำอีกทีครับ ว่าถ้าไม่รู้จักผมอย่ามาเสียเวลาเปล่าเลย ลองหาคนที่รับจ้างเป็นหน้าม้ามีอยู่ทั่วไปเยอะแยะครับ

เออ อ่านแล้วดูโอหังดีเว้ย งั้นเอาตามนี้ละกัน ขอบคุณครับ

คอมเมนต์

สไลด์ประกอบการเสวนา UX101: ออกแบบอย่างไรให้ใช้ง่าย

วันก่อน อีเบนท์มาชวนไปบรรยาย ให้พูดเรื่องอะไรก็ได้ ปกติผมเจอแบบนี้ก็จะปฏิเสธทันทีด้วยความสุภาพว่า “ไม่ล่ะ ขี้เกียจ”

แต่นี่มันน่าสนใจตรงที่ “จัดที่ราชบุรีนะพี่”

ถามมันว่าใครจัด มันบอกผมจัดเองส่วนตัวเลยพี่ อยากให้มีแบบนี้ที่ราชบุรีบ้าง เพราะคนที่กรุงเทพฯ เขามีโอกาสเยอะแล้ว แต่งานมันจะเล็กมากเลยนะ เพราะไม่ได้มีหน่วยงานอะไรมาสนับสนุน หรือโปรโมตอะไรเลย เฟซบ๊งเฟซบุ๊กก็ไม่มี แค่แปะป้ายไว้ที่ร้านกาแฟ dKunst ที่จัดงานเฉยๆ (บ้าที่สุด)

งานฟรีแถมต้องเดินทางไกลแบบนี้ก็เลยตอบตกลงไปทันที โอเควะ พาลูกเมียไปเที่ยวราชบุรีอีกทีดีกว่า

ปรากฏว่างานเสวนาครั้งนี้เป็นงานเล็กๆ โคตรๆ จริงๆ ครับ มีคนฟัง 5-6 คน :30:

พูดไปเกือบชั่วโมง กับอีก 2 คนคืออีแบงค์ (สไลด์สวยมาก) และอีเบนท์ เจ้าของงานอีกคนละ 15-30 นาที จึงจบงาน และแยกย้ายกันไปกินข้าวตากยุง (อร่อย ชื่อร้านอะไรนะ คราวหน้าจะไปกลางวันๆ)

และนี่คือสไลด์ครับ คิดว่าน่าจะพอพลิกๆ ดูแล้วจับประเด็นได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง ขี้เกียจบรรยายแล้ว มันยาวววว

ป.ล.บางภาพที่นำมาใช้ไม่ได้ให้เครดิตที่มาครับ เลวจริงๆ แต่คือเผาสไลด์กลางดึกเลยหลุดๆ ไปครับ กราบขออภัยเจ้าของภาพทุกท่าน

คอมเมนต์

รีวิว TSwipe-Pro Keyboard for Android (คร่าวๆ)

เมื่อคืนนี้ดู WWDC2014 (ที่จริงไม่ได้ดูสดหรอก มันชนเวลาทำงานพอดี เลยมานั่งอ่านสรุปเอาหลังงาน) แล้วมีฟีเจอร์นึงของ iOS 8 ที่ผมว่าเจ๋งมาก คือเราสามารถ “เปลี่ยนคีย์บอร์ด” ไปใช้คีย์บอร์ดนอกได้แล้ว!!!! มหัศจรรย์!!! นี่ถ้าจะแขวะกันก็คงบอกว่า แอนดรอยด์แม่งทำได้มาห้าสิบกว่าปีแล้ว แต่เราจะไม่ทำ เพราะอะไรดีๆ เราก็อยากให้ก็อปกันครับ ผู้ใช้ได้ประโยชน์นี่นา

เผอิญว่ามีคนสงสัยว่าคีย์บอร์ด iOS แต่เดิม (ที่ฉันก็ว่ามันเลิศอยู่แล้วนะ)เนี่ย มันสู้ของแอนดรอยด์ไม่ได้จริงๆ เหรอ ก็จะบอกว่าสู้ไม่ได้เลยครับ ห่างชั้นกันมากๆ (แต่ต่อจากนี้ไปจะสู้ได้และแซงไปด้วยซ้ำ) เพราะมือถือแอนดรอยด์นั้นให้อิสระกับผู้ใช้ในการเลือกแป้นพิมพ์สำหรับ input ค่าต่างๆ ลงในระบบได้มาแต่ไหนแต่ไร มันก็เลยมีคนที่ออกแบบคีย์บอร์ดสารพัดยี่ห้อ และหลากหลายเทคโนโลยี ไม่เว้นแม้แต่นักพัฒนาไทยที่ทำออกมาก็หลายเจ้า

ส่วนของผมเองนั้นใช้ของ TSwipe ครับ เป็นคีย์บอร์ดที่ทำอะไรได้เยอะมากกกก มากจนนั่งอธิบายให้ฟังหรือทวีตเกทับกันสั้นๆ คงมีเวลาไม่พอ ผมเลยทำคลิปนี้ขึ้นมาอวดครับ

ถ้าขี้เกียจฟังน้ำๆ ก็จิ้มเอาเฉพาะช่วงเวลาได้นะ

2:32 ทดลองเปลี่ยนฟอนต์ได้นะ
3:30 เปลี่ยนตีม
4:30 การเพิ่มลบคำศัพท์ลงไป
5:40 การจัดการคลังคำศัพท์
6:49 อีโมจิ และความสามารถอื่นๆ
7:28 โหมดภาษา / สัญลักษณ์ / Navigation tools
8:10 การพิมพ์ข้อความด้วยเสียง (อันนี้สาธิตแล้วแป้ก)
9:10 Web key (พิมพ์ข้อความผ่าน url)

ที่จริงยังมีฟีเจอร์อีกเยอะแนะเลยครับ หรือแม้แต่ความเมพของการ swipe ภาษาไทยที่แม่นมากๆ และฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ตามนิสัยของผู้ใช้เอง แต่ตอนอัดคลิปดันลืมโชว์ เฮ้ย 5555 :05:

คอมเมนต์

ข

พอดีนั่ง backup ข้อมูลในคอมขึ้น Google Drive เลยเจอการ์ตูนนี่ วาดไว้ตั้งกะปี 2549 (2006) แน่ะ พอดีบล็อกเก่าที่เคยอัปไว้สมัยนั้นพังไปแล้ว (จำได้ว่าคนคอมเมนต์หลักร้อยได้ ก็มันเป็นยุคก่อนเฟซบุ๊กนี่นา) ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เลยขออัปใหม่อีกทีละกัน

ป.ล.การ์ตูนใหม่ๆ ดันไปวาดในเพจ Endcut หมดเลย เลยไม่ได้ใส่ในบล็อกเลยแฮะ งั้นรอเฟซบุ๊กเจ๊งก่อนคอยทำสำเนามาที่นี่อีกทีจ้ะ

คอมเมนต์