ปั่นจักรยานผ่านมวลมหาประชาชน #ShutdownBangkok

เสร็จงาน ง่วงแล้ว สปีดเขียนบล็อกแล้วนอนดีกว่า

ถือเป็นภาคต่อจากการปั่นไปดูม็อบราชดำเนิน สมัยที่เขายังต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอยู่ละกันนะครับ

วันนี้บ่ายมีนัดที่สามย่าน อดีตที่ทำงานเก่าของเรา (เป็นชื่อบริษัทที่อยู่เพลินจิต นี่ต้องเสียเวลาหนึ่งประโยคเพื่ออธิบายงี้เสมอ) เลยกะว่าจะปั่นจากบ้านไปในเส้นที่ปกติไม่ได้ไป นั่นคือเส้นพหลโยธินตรงแนวรถไฟฟ้าพอดี (คือปกติถ้าจะไปก็ปั่นไปถึงหมอชิตแล้วขึ้นรถไฟฟ้าเอา จบเลย ง่ายดี) เพราะว่าจะได้แวะผ่านม็อบเสียหน่อย ถึงจะไม่ได้เห็นด้วยกับเขา แต่เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้มีให้ดูบ่อยๆ

กินข้าวเสร็จก็ปั่นออกไปจากลาดปลาเค้า แล้วเลาะเลี้ยวเข้าซอยภาวนา วิ่งผ่านเส้นลาดพร้าวไปจนถึงห้าแยก


เจอม็อบแรก ปิดแยกลาดพร้าวทั้งแยกเลย จอดรถไว้ใต้สะพานลอยแล้วเดินขึ้นไปถ่ายลงมา (ดูก็รู้ว่าแดดร้อนมาก)


จะมีเฮียหน้าดุมากบ้างน้อยบ้าง แต่ดุทุกคน เป็นนายทวารเฝ้าประตูแบบนี้ ห้ามรถยนต์รถเครื่องเข้า แต่พอหันมาเห็นจักรยาน เฮียยิ้ม แล้วเชิญเช้าไป รู้สึกเหมือนเป็นอภิสิทธิ์ชน


และยิ่งมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้จอดถ่ายตรงนี้ ซึ่งถ้าไม่มีม็อบปิดถนนละก็ ชาตินี้คงไม่มีโอกาส


ที่จริงตรงแยกลาดพร้าวไม่ค่อยมีอะไร เพราะมันไม่มีพื้นที่โล่งเยอะๆ เท่าไหร่ ตัวเวทีลาดพร้าวจะไปอยู่แถวหน้าสวน(สาธารณะ)จตุจักรมากกว่า ดังนั้นใต้สะพานข้ามแยกเลยมีกิจกรรมอื่นๆ แทน


ผู้คนทยอยมากันเยอะนะ นี่บ่ายสองเองมั้ง


มีเสื้อขายแน่นอน แต่ที่เจ๋งก็คือ มีการดัดแปลงจากลายที่เราออกแบบไว้ขาย เอามาเปลี่ยนสี ใส่ภาษาไทย ใส่ธงเข้าไป 5 ผืน เสร็จแล้ว! (ที่รู้ว่าเป็นลายที่เราออกแบบเองก็เพราะตัว K แบบนี้มีเจ้าเดียว)


ปั่นมาใกล้ BTS หมอชิต ก็พบความเหวอ คือถนนมันโล่งจริงๆ โล่งยังกะวอล์กกิ้งเด๊ด (ทวีตไว้)

อ้าว หน้าเดียวไม่พอละมั้ง ขอคั่นหน้าก่อน (เดี๋ยวมีอะไรขาวๆ ให้ดู กดเข้ามาข้างในเองนะ)

ตำรวจปลอม

…ปลอมเซ็ปชั่น

ป.ล.
ขี้เกียจบอกให้เสพสื่ออย่างมีสติแล้วครับ ก็คงรู้กันหมดแล้วแหละ อยู่ที่ใครจะสำเหนียกได้ตอนไหนเท่านั้นเอง

ป.อ.
เปิดเพจใหม่ครับ ชื่อ “Endcut การ์ตูนตัดจบ” (เฟซบุ๊กมันไม่ให้สะกด ENDCUT ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด)
เป็นเพจวาดการ์ตูนกับเพื่อนฝูงชาวฟร้อนและชาวอื่นๆ ที่โดนลากมา (บัฟโฟ่ยังโดนลากแบบงงๆ เลย) ซึ่งก็เหมือนงานหนุกๆ ครั้งก่อนๆ ที่เคยทำแบบไม่ได้คิดอะไร (จุดประกายจากบอร์ดฟอนต์เช่นเคย หลังบ้านของอีเว็บนี้มันปล่อยอะไรแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ มาตั้งแต่โบราณแล้ว เว็บเฟลนั่นก็ใช่) คือเหมือนเขียนการ์ตูนแลกกันอ่านสมัยเรียนงี้ แต่อันนี้เปลี่ยนภาชนะมาเป็นเฟซบุ๊กนั่นเอง
ซึ่งแอดมินแต่ละคนก็ไม่มีใครเชี่ยวชาญด้านเฟซบุ๊กสักคน พอกดไลก์ปั๊บ อ้าว กลายเป็นแอดมินไลก์โพสต์ตัวเอง (เป็นเพจที่ทุกโพสต์จะมีแอดมินกดไลก์ตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ) แล้วคอมเมนต์ทีไรก็เหมือนคุยกะตัวเอง 55555 คือมันมั่วๆ ล้มลุกคลุกคลานดีครับ ชอบ

ป.ฮ.
ส่วนมุกจะถ่อยสถุล น่ารักออกอากาศได้ หรืออินดี้อ่านไม่รู้เรื่องเลย นั่นก็เป็นเรื่องของความหลากหลายของแนวการ์ตูน ซึ่งเหล่าแอดมินเหนื่อยใจและขี้เกียจจะควบคุมครับ คอยดูต่อไปละกัน

สรุปสถานการณ์การเมืองในรอบ 2-3 วันมานี้

สรุปสถานการณ์การเมืองในรอบ 2-3 วันมานี้ครับ

ป.ล.
ทำไมบล็อกสองตอนล่าสุดถึงกลายเป็นถังเก็บภาพวาดที่เอาไปทวีตไว้ได้วะเนี่ย
เอาน่ะ อ้างว่าไม่มีเวลา + กลัวหาย เซฟขึ้นบล็อกไว้ก่อนละกัน
ส่วนต้นฉบับที่ทวีตไว้และโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กอีกทีก็ตามลิงก์

ลาดปลาเค้าถึงราชดำเนิน: ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

เมื่อวานปั่นไปดูม็อบมาครับ (อย่าเพิ่งอี๋ อ่านบล็อกที่แล้ว: ทัศนคติด้านการเมืองของข้าพเจ้าก่อน)

คืองี้ ตั้งใจว่าจะลองไปดูบรรยากาศการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสักวัน และตั้งใจว่าจะลองปั่นจักรยานไป เลยเลือกเอาวันที่ท่าทางอากาศจะไม่ร้อนมาก ก็คือมีเมฆเต็มฟ้าเนื่องจากพายุดีเปรสชันลูกก่อนหน้า แถมยังเป็นวันศุกร์ด้วย คิดว่าบรรยากาศช่วงหัวค่ำน่าจะคึกคักดี เพราะสถานการณ์ที่นักการเมืองกำลังยื้อกันไปยื้อกันมา และบิ๊วอารมณ์ผู้ติดตามข่าวนี้อยู่ให้รู้สึกว่ากูต้องไปดูของจริงหน่อยละ ทำให้วันศุกร์ที่คาดไว้ว่าคนน่าจะมากันเยอะ ก็เยอะจริงๆ รวมพนักงานออฟฟิศที่วันเสาร์ไม่ต้องทำงาน ก็สามารถมาร่วมฯ ได้อีก ด็โอเค บ่ายสามปั๊บ จะเริ่มปั่นไปละกัน

แต่ปัญหาคือ แม่งไกล..

เนื่องจากผมเป็นพวกมนุษย์หน้าคอม ที่ร่างกายปวกเปียก คือไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเลย ดังนั้นกล้ามเนื้ออะไรก็ไม่มี จักรยานที่มีปกติผมก็เอาไว้ปั่นแค่ซื้อก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน หรือปั่นเล่นตอนไปเที่ยว ที่เคยคึกสุดก็ปั่นจากเซ็นทรัลเวิลด์กลับมาบ้าน กับปั่นจากบ้านไปเมืองทองธานี แวะนอนบ้านพี่ติ๊กพี่เจน แล้วเช้ามาก็ปั่นต่อไปปทุม เรื่อยๆ ก็งวดละไม่ถึง 20 กิโล เท่านี้ก็เมื่อยขาและปวดไข่แล้ว แต่นี่ลองดูระยะทาง มันประมาณ 20 กิโลนิดๆ ไปกลับก็ 40 เศษๆ นี่กูจะตายเอาไหมนะ แถมถ้าขากลับเกิดดึกขึ้นมา จะโดนโจรปาดคอแบบไอ้ปิง (เพื่อนที่โดนจี้ทำร้ายก่อนนักข่าวที่เป็นข่าวดังๆ เมื่อช่วงต้นปีนี้แค่วันเดียว) ไหมนะ แล้วถ้าฝนตกขึ้นมา จะแบกขึ้นแท็กซี่ดีไหมนะ เขาจะรับไหมวะ เปียกแบบนั้น ฯลฯ

ก็เลยช่างแม่ง ให้ได้ปั่นออกมาก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน

เลยถีบรถมาเรื่อยๆ ครับ พบว่าบ่ายสามครึ่งที่ฟ้ากำลังครึ้มๆ นั้นปั่นสบายมาก ไม่ร้อน ตัวไม่เหนียว แม้ไม่ได้พกน้ำติดตัวมาก็ปั่นได้ยาวจนเกือบถึงที่หมายเลย

ที่บอกว่าเกือบ ก็เพราะหลงครับ ไปหลงเอาตั้งกะข้ามทางรถไฟแถวถนนพระรามห้าพระรามหก แล้วก็ขี่มั่วไปเรื่อยๆ จอดดูแผนที่กูเกิลเรื่อยๆ ถนนแมวอะไรไม่รู้จักสักเส้น แต่เชื่อว่าที่สุดแล้วมันต้องไปถึงจนได้ล่ะน่า

แล้วก็มาถึงครับ

คือพอคุ้นๆ กะถนนแถวสุโขทัย พิษณุโลก (แค่ชื่อถนนก็งงแล้วเห็นมะ) ปั๊บ หันไปมองทางซ้าย อ้าว แม่งเขมรเฉยเลย

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

คือมันเป็นแนวสกัดม็อบของตำรวจน่ะครับ มีแผงแบริเออร์ สลับกับลวดหนามเป็นทุ่งใหญ่นเรศวรเลย

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

โดยฝั่งที่ผมเอากล้องไปตั้งไว้ข้างบนเนี่ย สูงสัก 180 ซ.ม.ได้ กะว่ากันซอมบี้บุกได้เลยนะ

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

มองฝั่งนู้นก็เห็นตำรวจในชุดปราบจราจลเต็มยศนับร้อยๆ นาย แบบที่เคยเห็นแค่ในภาพข่าว แต่นี่พอเจอจริงๆ ก็หลอนอยู่เหมือนกัน แบบ ถ้าเกิดมีเหตุอะไรขึ้นมา กูอยู่ตรงคงปั่นหนีไม่ทันแน่ๆ

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

ถ้าจำไม่ผิด ตรงนี้คือสะพานมัฆวานรังสรรค์ครับ หันกลับมาทางฝั่งเรา ก็มีกลุ่มประชาชนจำนวนมาก นั่งๆ ยืนๆ คุยกันบ้าง ถ่ายรูปบ้าง ส่วนหนึ่งก็เตรียมอุปกรณ์ไว้เขียนและพ่นสีกำแพง เป็นกราฟิตี้หรือจะเขียนด่ารัฐบาลก็แล้วแต่จะสะดวก

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

ได้ยินเสียงปราศรัยบนเวที เนื้อหาเกี่ยวกับคดีเขาพระวิหาร ฟังแล้วไม่หยาบคายนะครับ ต่างจากภาพที่คิดไว้พอสมควร (เข้าใจว่าเป็นนักวิชาการมาให้ข้อมูล มากกว่านักรณรงค์ที่เน้นปลุกระดม) พอเดินไปถึงช่วงที่เป็นเวที ก็พบคนจำนวนหนึ่งนั่งฟังอยู่ ไม่เยอะครับดังภาพข้างบน นอกนั้นก็ท่าทางจะทยอยมาสมทบเรื่อยๆ

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

คือเราตามข่าวแค่ในเว็บกับในทีวี (ซึ่งก็ดูผ่านยูทูบอีกที) ก็เลยไม่ค่อยรู้ว่าม็อบแต่ละม็อบมันอะไรยังไงกัน คือผูกพิกัดแผนที่ไม่ถูกน่ะ พอมาเห็นของจริงเลยเข้าใจครับ เวทีนี้น่าจะเป็นของ คปท. โดยอยู่บนถนนราชดำเนิน (กลางใช่ปะ) หันหน้าไปฝั่งทำเนียบรัฐบาล โดยแนวรบของตำรวจก็ปกป้องอยู่ฝั่งทำเนียบฯ นี่เอง

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

ฟังสักพักก็ปั่นต่อมา เลยกระทรวงศึกษาธิการ แล้วก็แยกที่เลี้ยวไปขึ้นสะพานพระรามแปดน่ะครับ ตรงนี้การจราจรเปิดปกติดี โดยมีพี่วินตั้งคิวรออยู่ตลอดทาง เชื่อเหลือเกินว่าช่วงนี้คือช่วงโกยเงินเลยแหละ เพราะคนเข้าออกกันเยอะมาก

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

อีกม็อบนึงอยู่ตรงแยกผ่านฟ้าครับ เจ้าภาพคือกองทัพธรรม มีเต็นท์ใหญ่ๆ เหมือนกัน แต่ไม่ได้ตั้งขวางตรงแยกนะ คืออยู่บนถนนเส้นเดียวกะม็อบตะกี้ ดูเป็นสัดเป็นส่วนดี

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

มีคนฟังประมาณนี้ครับ เต็นท์ใหญ่ๆ นี้มีสองหลัง พอดีเลนส์กล้องมันเก็บภาพกว้างไม่ได้ (แบกขี่จักรยานมานะเว้ย)

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

หลักฐานของการปักหลักครับ มีเต็นท์อยู่เต็มไปหมดเลย

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

ก่อนหน้านี้ผมจะ “อะไรวะ” เวลาเห็นใครที่แสดงความเห็นด้านการเมืองแบบเข้าข้างรัฐบาล แล้วจะบอกว่าตรงข้ามกับแดงคือเหลือง เฮ้ย คือประชากรไทยมันถูกเหมารวมจนเหลือแค่นี้เหรอวะ แล้วสีเหลืองนี่คือยังไม่สูญพันธุ์เหรอวะ… พอมาได้เจอจริงๆ ก็พบว่าคนเสื้อเหลือง (แล้วเรียกตัวเองว่าเหลืองด้วยนะ) นั้นมีอยู่เยอะมากครับ คือปกติตัวเองจะคลุกคลีแต่กับข่าวสารจากฝั่งเสื้อแดง ฝั่งที่เรียกตัวเองว่าลิเบอรัลงี้ พอมาเจอว่าเออ มีกลุ่มคนที่มีรสนิยมด้านการเมืองแบบที่เห็นจากเว็บผู้จัดการอยู่เยอะจริงๆ นะ นี่ก็ช่วยเปิดกบาลตัวเองให้หายโลกแคบได้ดีเหมือนกัน

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

ฟ้าเริ่มมืด ขยับตัวไปหาอนุสาวรีย์ครับ ก็เห็นว่าอยู่ไกลลิบๆ นู้น แต่ที่แน่ๆ คือการจราจรแถวนี้เป็นอัมพฤกษ์ไปแล้ว ราชดำเนินแถบผ่านฟ้ากลายเป็นที่จอดรถไปเลย

20131108 ปั่นจักรยานผ่านประชาธิปไตย

ถึงชายแดนของม็อบใหญ่แล้วครับ ปลายแถวอยู่แยกที่มีป้อมมหากาฬ โดยมีพี่วินประจำการอยู่ 1 กองร้อย

เนื่องจากบล็อกจะยาวไปละ ขอซอยแบ่งหน้านะครับ กดดูต่อเอาจ้ะ