เหตุเกิดเมื่อสิบนาทีที่แล้วนี่เองครับ ฝากเตือนผู้ปกครองทุกท่านด้วยว่าอันตรายมากๆ
ป.ล.นิทานเวลานั่งข้างๆ ควบคุมการวาดการ์ตูนนี้ ด้วยเสียงหัวเราะสะใจสุดขีด
เหตุเกิดเมื่อสิบนาทีที่แล้วนี่เองครับ ฝากเตือนผู้ปกครองทุกท่านด้วยว่าอันตรายมากๆ
ป.ล.นิทานเวลานั่งข้างๆ ควบคุมการวาดการ์ตูนนี้ ด้วยเสียงหัวเราะสะใจสุดขีด
สวัสดีครับ บล็อกนี้ขออธิบายเรื่องเกี่ยวกับปรากฏการณ์น้ำท่วมจังหวัดเพชรบุรีแบบคร่าวๆ ให้คนต่างจังหวัด หรือคนเพชรเหมือนกันแต่ไม่เก็ตว่าทำไมน้ำท่วมถึงได้เกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ ในระยะหลัง ได้พอเห็นภาพรวมเบื้องต้นจากมุมมองของผมเองในฐานะที่ตัวเองเป็นชาวบ้านคนนึงที่สนใจ และเบื่อดราม่าจากความไม่รู้ 5555
ออกตัวไว้ก่อนว่า ข้อมูลบางส่วนเป็นข้อเท็จจริง (Fact) บางส่วนเป็นเพียงความคิดเห็น หรือประสบการณ์ส่วนตัว ดังนั้นถ้ามีจุดไหนอ่านแล้วมีข้อเท็จจริงมาหักล้าง หรือไม่เห็นด้วยตรงไหน รบกวนชี้แนะหรือคอมเมนต์แก้ไขได้เลยครับ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ (กลับกัน ผมจะขอบคุณมากๆ ด้วยครับ)
เริ่มเลยนะ
ผมวาดแผนที่ทางภูมิศาสตร์ให้ดูง่ายๆ แบบไม่ตรงสเกลเป๊ะให้ดูครับ ว่าคอนเซปต์ของเพชรบุรีจะเป็นแบบนี้นะ คืออยู่ตรงโคนสุดของด้ามขวาน ด้านบนชนราชบุรี, สมุทรสงคราม ด้านขวาชนอ่าวไทย ด้านล่างชนหัวหินประจวบฯ ส่วนด้านซ้ายมีเทือกเขาตะนาวศรีกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า
แต่ถ้าเราลบเส้นสมมติที่มนุษย์กำหนดขึ้นมาทั้งหมดออกไป เราจะเห็นว่าดินแดนแถบนี้เป็นแผ่นดินเอียงๆ มีภูเขาและป่าไม้ผืนใหญ่อยู่ครึ่งนึง ที่เหลือเป็นที่ราบ มีแม่น้ำสั้นๆ สายหลักอยู่สายนึงครับ นั่นคือแม่น้ำเพชรบุรี
แม่น้ำเพชรบุรีมีต้นน้ำอยู่ในป่าเทือกเขาตะนาวศรีครับ ไหลผ่านป่าผืนใหญ่มากๆ แล้วแตะระดับพื้นราบ รวมกับห้วยแม่ประจันต์ที่ไหลมาจากป่าทางเหนือ โป๊ะ กลายเป็นแม่น้ำเพชรบุรีที่เมื่อก่อนเขาภูมิใจกันว่าน้ำเนี่ยอร่อยเด็ดจนในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงออเดอร์ไปเสวยโดยเฉพาะ (อ่านเรื่องแม่น้ำเพชรบุรีแบบมีข้อมูลตัวเลข มีเกร็ดตำนานอะไรต่ออะไรได้ที่วิกิพีเดียครับ)
เสร็จแล้วพอแตะพื้นราบ ก็ไหลย้อนขึ้นทางทิศเหนือ จากแก่งกระจาน ผ่านท่ายาง บ้านลาด เมืองเพขร ไปลงอ่าวไทยที่บ้านแหลม ตรงนั้นก็จะมีแขนงที่เรียกว่าแม่น้ำบางตะบูนอีกหน่อย
ทีนี้พอประเทศเราเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ก็มีการพัฒนาระบบชลประทานและสร้างไฟฟ้า ในปี พ.ศ.2509 เขื่อนแก่งกระจานก็เลยถือกำเนิดขึ้นมากั้นแม่น้ำเพชรในหุบเขาช่วงที่จะแตะพื้นราบ กลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ พอไล่ลงมาช่วงกลางแม่น้ำเพชรก็สร้างเขื่อนเพชรขึ้นมาอีกต่อนนึง เพื่อเอาไว้คอนโทรลน้ำเข้าสู่คลองชลประทาน 3 สายหลัก ส่วนฝั่งเหนือ (หนองหญ้าปล้อง) ก็ทำอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ขึ้นมาอยู่ช่วงต้นของสายลำห้วยแม่ประจันต์อีกที (ในภาพลืมวาดไว้) นอกจากนั้นก็ยังมีโครงการพระราชดำริของในหลวง ร.9 อีก เช่นอ่างเก็บน้ำห้วยผาก ซึ่งคอนเซปต์คล้ายอ่างแม่ประจันต์ คือเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง
โอเค ทีนี้มาดูเรื่องน้ำท่วม
Continue reading อธิบายปรากฏการณ์น้ำท่วมเพชรบุรี (เวอร์ชันเข้าใจง่าย)ความสัมพันธ์มันรีบูตกันได้เนอะ
รีบูตนี่คล้ายๆ กับเทรนด์ของหนังฮอลลีวูด ที่ชอบเอาหนังเก่าๆ มาสร้างภาคต่อพร้อมกับเคลียร์ตัวเองให้ใหม่ปิ๊งน่ะ เรื่องที่ทำแล้วแป้กก็เยอะ แต่เรื่องที่ทำแล้วเจ๋งสัสๆ แบบ MAD MAX ก็มี – แน่นอน เราจะพูดในโหมดที่เจ๋ง ไม่ใช่เจ๊ง
ผมเพิ่งวางหูโทรศัพท์จากผู้ชายคนหนึ่ง เราคุยกันนานถึง 1 ชั่วโมง
* ใช้คำว่าผู้ชายคนหนึ่งเพื่อกันแก๊งเพื่อนเหี้ยมารุมเล่นมุกเมียน้อย
** พูดถึงปริมาณการโทร หนึ่งชั่วโมงนี่ปกติคือการใช้โทรศัพท์รวมทั้งเดือนละนะ
ผมรู้จักพี่คนนี้มานานมาก เพิ่งเปิดอีเมลที่เคยส่งถึงกันอย่างออฟฟิเชียล และคุยกันด้วยชื่อจริงในโหมดหน้าที่การงานสุดๆ พบว่าจดหมายลงวันที่ไว้เป็นปี 2007
แล้วเราก็โคจรผ่านกันบนโลกออนไลน์ ในยุคที่ประเทศไทยเพิ่งเล่นทวิตเตอร์กันอย่างเตาะแตะ และเฟซบุ๊กกำลังเริ่มมีคนเล่น… เล่นควิซกับอินไวต์เพื่อนเพื่อขอคะแนนเกมกันเป็นสมัยแรกๆ
เจอกันตัวๆ ตามวาระโอกาสต่างๆ เป็นบางครั้งบางคราว เราต่างก็จำกันในฐานะคาแรกเตอร์ที่แสดงออกผ่านตัวหนังสือ (ที่ดูบ้าๆ บอๆ และเบาๆ) ไม่เคยคุยกันเป็นจริงเป็นจังสักที
เราเห็นความสัมพันธ์แบบเดียวกันนี้ได้เป็นเรื่องปกติใช่มะ เช่น เออ รู้จักกันผ่านทวิตเตอร์เนอะ เดาว่าแกคงเป็นคนอย่างที่ทวีตออกมาแหงๆ เลย ดังนั้นฉันขอเล่นหัวแกแบบสนิทสนมได้ทันทีโดยไม่ต้องถาม อะไรแบบนี้ (แต่ตัวจริงของแกจะเหมือนตัวอักษรหรือเปล่า ก็อีกเรื่อง เราข้ามไป เอาเฉพาะ MAD MAX นะ)
นั่นแหละ เพราะความผิวเผินนี้เอง แม้จะปักหมุดไว้แล้วว่าเออ คนนี้คือหนึ่งในคนรู้จัก ที่ต่างก็รู้สึกโอเคและแฮปปี้ที่จะติดตามอีกฝ่าย แต่นั่นก็ยังคงเป็นการ follow each other ผ่านตัวตนที่แสดงออกมาในโลกออนไลน์ ก็เท่านั้น เราเลยเคยแต่หันด้านที่ไร้สาระใส่กัน เล่นมุกอะไรต่อมิอะไรเมื่อโคจรมาเจอกัน แล้วก็จาก
ด้วยจังหวะชีวิตของเราทั้งคู่ เราก็ห่างกันไปเรื่อยๆ …จนหายไปนาน
อยู่ดีๆ วันนี้เขาทักมาว่า “อยากรู้จักเราใหม่อีกครั้ง”
เป็นประโยคที่ไม่คุ้นเคย และไม่คุ้นเคยยิ่งกว่านั้นเมื่อเขาบอกว่าขอโทรคุยสักห้านาทีนะ
ไม่ใช่ขายตรงแล้วจะเป็นอะไรได้วะแบบนี้ ประกันชีวิตเหรอ
เปล่าเลย เขาทำแบบประโยคที่ใส่เครื่องหมายคำพูดจริงๆ Continue reading ยินดีที่ได้รู้จักกันอีกครั้ง
ไม่เกี่ยวกับสภาพสังคมการเมืองความเหลื่อมล้ำอะไร มีแต่เรื่องตัวเองล้วนๆ โอเคนะ
ถ้าตัวเองแก่ตายตามอายุขัยที่ 70 ปี ปีที่ผ่านมานี้ การได้ครอบครองความ 35 นั้นถือว่าเป็นจุดสูงสุดของพาราโบลาแล้ว ต่อไปนี้จะได้เตรียมตัวเข้าสู่ความร่วงโรยเสียที
อันนั้นเป็นแค่ตัวเลข แต่กับร่างกายของตัวเองจริงๆ ต้องถือว่าสุขภาพมาถึงจุดที่เริ่มเห็นบั๊กโผล่ตรงนั้นที ตรงนี้ที นับตั้งแต่ความอ้วนที่ปรากฏตัวและยิ้มหยันตัวเองอยู่หน้ากระจกเงา ส่วนน้ำหนัก (ถึงเขาจะบอกกันว่าอย่าไปสนใจน้ำหนัก ให้ดูตัวเองดีกว่า แต่มันก็เป็นค่าที่เห็นแบบประจักษ์ตาน่ะนะ) กระโดดขึ้นมาแตะ 80 เคยสูงสุดที่ 82 แล้วก็รู้สึกว่าเหี้ยมาก ไม่ได้แล้ว ปล่อยไว้แบบนี้กูไขมันอุดหลอดเลือดหัวใจระเบิด สมองชัตดาวน์เข้าในเร็ววันแน่
ไหนๆ ก็รู้ตัวว่าตัวเองเริ่มย่างเท้าเข้าสู่วัยที่ควรใส่ใจเรื่องสังขาร จึงเริ่มตระหนักว่า ไอ้ที่เคยบอกตัวเองว่าจะออกกำลังกายในไตรมาสสุดท้ายนั้น ปีศาจแห่งพันธสัญญาเริ่มมาแสยะยิ้มทวงหนี้กูแล้ว
เมื่อกี้เลยไปวิ่งๆ เดินๆ มาอีกหอบนึง แคลที่ลดไปมีค่าเท่ากับหมูกระทะที่กินไปเมื่อวานนี้เพียง 3 ชิ้น ไอ้สัส Continue reading ปีดี
ไม่รู้จะเรียกว่าการรีวิวดีไหม แต่อยากจดเอาไว้ว่าที่พักสี่แห่งนี้เราประทับใจหรือไม่ยังไง
ตั้งแต่มีลูกเล็กๆ ครอบครัวผมก็มีเทรนด์สุดฮิตอย่างนึงคือพาลูกไปโร้ดทริปตามจังหวัดต่างๆ (ส่วนใหญ่จะไม่ไกลกรุงเทพฯ นัก) เพื่อหาที่เที่ยวที่พักใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับเด็กสักหน่อย บางครั้งก็เป็นโรงแรม บางทีก็รีสอร์ต ถูกบ้างแพงบ้าง ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง คละๆ กันไป
ทำไปทำมาก็ลงความเห็นตรงกันว่า ที่พักที่เราชอบนั้นไม่ใช่แนวๆ โรงแรมสำเร็จรูป ที่ไปถึงจอดรถเช็กอิน มีล็อบบี้ไว้ต้อนรับยิ้มแย้ม ขึ้นลิฟต์เอี่ยมๆ ไปถึงห้องแตะคีย์การ์ดแล้วเสียบให้แอร์ทำงาน ตื่นมาแล้วลงไปกินข้าว มีไข่ดาว ไส้กรอก เบคอน ไข่กระทะอะไรแบบนี้
แต่ไอ้ที่ชอบกลับเป็นรีสอร์ตที่มีจุดร่วมคือ เป็นบ้านที่วางตัวหลบอยู่ใต้สุมทุมพุ่มไม้
ถึงจะชอบบ้านไม้ แต่ผมก็ไม่ได้ชอบแบบคันทรี่ๆ สักเท่าไหร่ (นึกภาพบ้านไม้ที่ย้อมไม้เป็นสีน้ำตาลเข้ม มีไม้ที่ผ่ามายังไงก็แปะผนังหรือราวบันไดไปยังงั้น มีเขาควายกลางบ้านอะไรแบบนั้น) แต่ชอบแบบที่ผ่านการออกแบบด้วยวิธีคิดแบบสถาปนิกหน่อย หั่นเป็นชิ้นเนี้ยบๆ โครงสร้างเป็นเหล็กหรือปูนก็ยังได้ ถ้าทั้งหมดทำให้เข้าไปพักอาศัยแล้วรู้สึกอุ่นใจ สบายใจ และมีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ให้รู้สึกรัก
เออ พอพิมพ์มาถึงตรงนี้ก็ นึกออกแล้ว เราใช้คำว่า “น่ารัก” ก็คงจะได้ — ผมชอบบ้านน่ารักๆ ที่แอบอยู่หลังต้นไม้ร่มๆ
งั้นเริ่มเลยละกัน (คาดว่าจะยาว)
บ้านสวนจันทิตา
– อุทัยธานี –
Facebook: bansuanchantita
เป็นโฮมสเตย์ (จริงๆ ก็คือรีสอร์ตนั่นแหละ ตามกฎหมายบอกว่าถ้าห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง ก็โอเคสามารถเรียกเป็นโฮมสเตย์ได้) เรือนไม้ยกพื้นสูงแบบบ้านทรงไทย แต่หน้าตาโมเดิร์นเก๋ไก๋ แต่ละหลังถูกจัดวางเชื่อมหากันด้วยลานไม้ขนาดใหญ่
เรือนหมู่แบบโมเดิร์นทุกหลังวางผังลัดเลี้ยวตามต้นประดู่อายุประมาณ 30 ปี ที่เจ้าของปลูกไว้ในเนื้อที่ประมาณครึ่งไร่ สัมภาษณ์มาได้ความว่า ตอนสร้างมีนโยบายว่าจะไม่ตัดเลย ก็เลยได้แปลนบ้านที่มีระยะเสาแปลกหน่อย คือประมาณ 2.70 เมตรมั้ง ตัวบ้านถึงจะแทรกเข้าไปตามช่องว่างระหว่างต้นไม้ได้
ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือการออกแบบโดยสถาปนิกจาก “สตูดิโอมิติ” เนื่องจากมันมีดีเทลสนุกสนานมาก จึงได้ลงหนังสือ-นิตยสารแนวอออกแบบบ้านนั่นนี่มากมาย ได้รับเสียงชื่นชมมหาศาล มีเด็กสถาปัตย์แวะเวียนมาพักและดูงานกันเป็นจำนวนมาก จนเจ้าของต้องกั้นบริเวณไว้ให้ผู้เข้าพักได้มีความเป็นส่วนตัวงี้
ผมไปที่นี่ครั้งแรกตอนเขาเพิ่งสร้างเสร็จได้ 8 เดือน และประทับใจจนต้องพาชาวแก๊งนัดเยไปเยือนซ้ำอีกครั้ง (นัดเย เป็นชื่อแก๊งเพื่อนๆ ชาวฟอนต์และชาวอื่นๆ ที่สามัคคีกันเที่ยว เยเย้เย้ผ่านกรุ๊ปไลน์ ไม่ได้ไปเพื่อเยกันจริงๆ นะ เอ๊ะหรือมีก็ไม่รู้)
เกริ่นแค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยลงดีเทล
.
บ้านในหมง
– ระนอง –
Facebook: bannaimong
หมงแปลว่าป่า บ้านในหมงก็คือบ้านในป่า ไม่ใช่บ้านกลางเมืองที่เป็นหมู่บ้านจัดสรร
เป็นที่พักที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (คืออยู่ในช่วงเบต้า – เบต้ามานานแล้วด้วย) ทำเลซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็กๆ ร่มรื่นๆ ที่พอขับโผล่ออกมาดันเจอถนนใหญ่ มีเซเว่น ปั๊มน้ำมัน บิ๊กซี! และโรงหนัง! แต่พอหันกลับเข้าซอยปั๊บ กลายเป็นป่า! #ระนองนี่มันระนองจริงๆ
ผมได้รับคำชวนจากแก๊งนัดเยเหมือนเดิม ว่ามีอะไรแบบนี้อยู่ที่ระนอง เลยจัดทริปล่วงหน้ากันยาวมาก เพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่ตั๋วเครื่องบินถูกหน่อย (บินไประนองแพ้งแพง)
พอวาร์ปไปถึงที่พัก ปรากฏว่าเราเจอลำธารตื้นๆ คั่นตรงทางเข้าที่พักที่ไม่มีแม้แต่ป้ายชื่อ มีแต่บ้านไม้บ้างปูนบ้าง (สวยบ้างไม่สวยบ้าง 555) ซ่อนตัวอยู่หลังแมกไม้และสายน้ำไหลเย็น ยิ่งพอฝนตกปั๊บ ก็จะเป็นโหมดชุ่มฉ่ำน่าสบายโคตรๆ
ความเจ๋งคือเวลาเลี้ยวรถเข้าไปเนี่ย เราต้องขับข้ามฝายลำธารที่น้ำลึกประมาณคืบใช่มะ แต่พออยู่ๆ ไป กลางคืนฝนตกหนัก น้ำล้นฝาย พอรุ่งเช้า ขับข้ามออกมาไม่ได้!
แต่ลำธารที่โอบล้อมรอบที่พักนี่แหละครับที่เป็นพระเอกของที่นี่ รวมถึงบ้านไม้หลังที่ผมไปกลิ้งมา นั่นเป็นนางเอก (นางเอกมีหลายหลัง) เพราะมันสวยแบบบ้านไม้สมัยใหม่ และเก็บรายละเอียดของงานออกแบบได้พิถีพิถันดีจัง
เสียดายที่ตอนไปพักไม่เจอเจ้าของ เลยไม่ได้สัมภาษณ์เรื่องแรงบันดาลใจ และคอนเซปต์การออกแบบ แต่ถึงไม่ได้คุย เอาแค่ได้ไปนอนกลิ้งมาสองคืนก็พบว่า ประทับใจมากว่ะ ไว้ต้องไปซ้ำให้ได้!
.
บ้านไร่ไออรุณ
– ระนอง –
Facebook: baanraiiarun
เจ้านี้ดังมาก เป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการดังขนาดที่เขาเอามาทำเป็นโฆษณาก่อนหนังฉายเลยละกัน ก็เลยไม่จำเป็นต้องเล่าซ้ำ แต่เล่านิดนึงละกันเดี๋ยวหาว่าเอาเปรียบ
จุดขายคือเจ้าของเป็นสถาปนิกที่กลับไปพัฒนาสวนที่บ้านตัวเอง ทีแรกก็ปลูกผักออร์แกนิก ออกแบบนั่นนี่จนได้บ้านพักหลังเล็กๆ หลายๆ หลังกระจายตัวอยู่ในสวน แล้วเปิดให้คนมาเช่า ส่วนด้านหน้าทีแรกก็ขายผักที่ “แม่” (คุณแม่เรียกตัวเองว่าแบบนี้กับแขกและลูกค้าทุกคน) นำมาขาย ทำไปทำมา พอดังปั๊บ ก็เลยขยับขยาย ปรับปรุงสถานที่ด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ของเจ้าของที่เป็นสถาปนิก และฝั่งด้านหน้าก็เปิดขายอาหารและเครื่องดื่มแนวชิกๆ เก๋ๆ เหมาะแก่การโพสต์อินสตาแกรม จึงเป็นสาเหตุให้ที่นี่ได้รับการบอกต่อแพร่หลายจนดังระเบิดเถิดเทิง คิวจองแน่นเอี๊ยด
สลิ่มอย่างเราจึงไม่พลาดที่จะมาเยือนและเสพรายละเอียดให้รู้ว่ามันดีอย่างที่คาดหวังไหม
.
บ้านป่าริมธาร โฮมสเตย์
– จันทบุรี –
Facebook: บ้านป่าริมธารโฮมสเตย์
จันทบุรีเป็นจังหวัดที่ครบเครื่อง มีทั้งภูเขา แม่น้ำ น้ำตก ปากอ่าว ทะเล ป่าชายเลน วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วิถีชุมชนทั้งแบบเก๋ๆ และแบบเรียลๆ ฯลฯ ซึ่งเราจะไม่พูดถึงเพราะเราหวง 55555
ซึ่งบ้านป่าริมธารนี่แหละครับเป็นหนึ่งในของดี(แบบส่วนตัว)ของที่นี่ บ้านพักเป็นสไตล์แมนๆ คันทรี่ๆ อย่างที่บอกข้างบนเลยว่าปกติจะไม่ค่อยชอบ 555555 แต่ขอยกเว้นที่นี่ไว้ที่นึง เพราะความสวยใสไหลเย็นของลำธารหน้าบ้านมันดีจนเราหยวนให้ได้ทุกอย่าง
ไปนอนได้คืนนึงตื่นมาก็เพิ่งรู้ประวัติว่าโฮมสเตย์ (ที่จริงมันก็คือรีสอร์ตนั่นแหละ) แห่งนี้ เป็นของพ่อของพี่โป้โยคีเพลย์บอย แกมาบุกเบิกที่ริมธารนี้ไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน โดยสภาพรอบๆ เป็นลำธารใสแจ๋ว มีเกาะแก่งให้เดินเล่นและเล่นน้ำอย่างแจ๋ว รีสอร์ตรอบๆ ก็ให้ความร่วมมือ มีกติการ่วมกันในการใช้ลำน้ำแห่งนี้โดยไม่เบียดเบียนรุกราน ทำให้คงสภาพความงามและไหลเย็นเห็นตัวปลา เด็กๆ แฮปปี้กันสุดๆ
.
ต่อไปเป็นการเปรียบเทียบกันสี่แห่งเนอะ อย่าเรียกว่าเปรียบเทียบเพื่อหาคนแพ้คนชนะเลย เพราะแต่ละแห่งมันมีส่วนต่างส่วนดีคนละแบบงี้ ถือว่าจดไว้ดูเป็นข้อมูลไว้แนะนำหลอกล่อเพื่อนฝูงมาอ่านเพื่อตัดสินใจไปตามรอยละกัน
ทำเล |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
คอนเซปต์ |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
สิ่งที่ประทับใจ |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
ข้อสังเกต |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
จบการบันทึกครับ ใครผ่านมาอ่านและมีที่พักแนวนี้แนะนำช่วยบอกหน่อยนะ ตอนนี้เล็งโซนภาคเหนือไว้ เด็กๆ ที่บ้านเริ่มโตพอจะพาไปได้แล้ว ขอบคุณครับ