บ้านสวนจันทิตา / บ้านในหมง / บ้านไร่ไออรุณ / บ้านป่าริมธาร

ไม่รู้จะเรียกว่าการรีวิวดีไหม แต่อยากจดเอาไว้ว่าที่พักสี่แห่งนี้เราประทับใจหรือไม่ยังไง

เกริ่น

ตั้งแต่มีลูกเล็กๆ ครอบครัวผมก็มีเทรนด์สุดฮิตอย่างนึงคือพาลูกไปโร้ดทริปตามจังหวัดต่างๆ (ส่วนใหญ่จะไม่ไกลกรุงเทพฯ นัก) เพื่อหาที่เที่ยวที่พักใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับเด็กสักหน่อย บางครั้งก็เป็นโรงแรม บางทีก็รีสอร์ต ถูกบ้างแพงบ้าง ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง คละๆ กันไป

ทำไปทำมาก็ลงความเห็นตรงกันว่า ที่พักที่เราชอบนั้นไม่ใช่แนวๆ โรงแรมสำเร็จรูป ที่ไปถึงจอดรถเช็กอิน มีล็อบบี้ไว้ต้อนรับยิ้มแย้ม ขึ้นลิฟต์เอี่ยมๆ ไปถึงห้องแตะคีย์การ์ดแล้วเสียบให้แอร์ทำงาน ตื่นมาแล้วลงไปกินข้าว มีไข่ดาว ไส้กรอก เบคอน ไข่กระทะอะไรแบบนี้

แต่ไอ้ที่ชอบกลับเป็นรีสอร์ตที่มีจุดร่วมคือ เป็นบ้านที่วางตัวหลบอยู่ใต้สุมทุมพุ่มไม้

ถึงจะชอบบ้านไม้ แต่ผมก็ไม่ได้ชอบแบบคันทรี่ๆ สักเท่าไหร่ (นึกภาพบ้านไม้ที่ย้อมไม้เป็นสีน้ำตาลเข้ม มีไม้ที่ผ่ามายังไงก็แปะผนังหรือราวบันไดไปยังงั้น มีเขาควายกลางบ้านอะไรแบบนั้น) แต่ชอบแบบที่ผ่านการออกแบบด้วยวิธีคิดแบบสถาปนิกหน่อย หั่นเป็นชิ้นเนี้ยบๆ โครงสร้างเป็นเหล็กหรือปูนก็ยังได้ ถ้าทั้งหมดทำให้เข้าไปพักอาศัยแล้วรู้สึกอุ่นใจ สบายใจ และมีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ให้รู้สึกรัก

เออ พอพิมพ์มาถึงตรงนี้ก็ นึกออกแล้ว เราใช้คำว่า “น่ารัก” ก็คงจะได้ — ผมชอบบ้านน่ารักๆ ที่แอบอยู่หลังต้นไม้ร่มๆ

งั้นเริ่มเลยละกัน (คาดว่าจะยาว)

แนะนำที่พักน่ารัก 4 แห่ง

บ้านสวนจันทิตา

บ้านสวนจันทิตา
– อุทัยธานี –
Facebook: bansuanchantita

เป็นโฮมสเตย์ (จริงๆ ก็คือรีสอร์ตนั่นแหละ ตามกฎหมายบอกว่าถ้าห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง ก็โอเคสามารถเรียกเป็นโฮมสเตย์ได้) เรือนไม้ยกพื้นสูงแบบบ้านทรงไทย แต่หน้าตาโมเดิร์นเก๋ไก๋ แต่ละหลังถูกจัดวางเชื่อมหากันด้วยลานไม้ขนาดใหญ่

เรือนหมู่แบบโมเดิร์นทุกหลังวางผังลัดเลี้ยวตามต้นประดู่อายุประมาณ 30 ปี ที่เจ้าของปลูกไว้ในเนื้อที่ประมาณครึ่งไร่ สัมภาษณ์มาได้ความว่า ตอนสร้างมีนโยบายว่าจะไม่ตัดเลย ก็เลยได้แปลนบ้านที่มีระยะเสาแปลกหน่อย คือประมาณ 2.70 เมตรมั้ง ตัวบ้านถึงจะแทรกเข้าไปตามช่องว่างระหว่างต้นไม้ได้

ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือการออกแบบโดยสถาปนิกจาก “สตูดิโอมิติ” เนื่องจากมันมีดีเทลสนุกสนานมาก จึงได้ลงหนังสือ-นิตยสารแนวอออกแบบบ้านนั่นนี่มากมาย ได้รับเสียงชื่นชมมหาศาล มีเด็กสถาปัตย์แวะเวียนมาพักและดูงานกันเป็นจำนวนมาก จนเจ้าของต้องกั้นบริเวณไว้ให้ผู้เข้าพักได้มีความเป็นส่วนตัวงี้

ผมไปที่นี่ครั้งแรกตอนเขาเพิ่งสร้างเสร็จได้ 8 เดือน และประทับใจจนต้องพาชาวแก๊งนัดเยไปเยือนซ้ำอีกครั้ง (นัดเย เป็นชื่อแก๊งเพื่อนๆ ชาวฟอนต์และชาวอื่นๆ ที่สามัคคีกันเที่ยว เยเย้เย้ผ่านกรุ๊ปไลน์​ ไม่ได้ไปเพื่อเยกันจริงๆ นะ เอ๊ะหรือมีก็ไม่รู้)

เกริ่นแค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยลงดีเทล

.

บ้านในหมง

บ้านในหมง
– ระนอง –
Facebook: bannaimong

หมงแปลว่าป่า บ้านในหมงก็คือบ้านในป่า ไม่ใช่บ้านกลางเมืองที่เป็นหมู่บ้านจัดสรร

เป็นที่พักที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (คืออยู่ในช่วงเบต้า – เบต้ามานานแล้วด้วย) ทำเลซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็กๆ ร่มรื่นๆ ที่พอขับโผล่ออกมาดันเจอถนนใหญ่ มีเซเว่น ปั๊มน้ำมัน บิ๊กซี! และโรงหนัง! แต่พอหันกลับเข้าซอยปั๊บ กลายเป็นป่า! #ระนองนี่มันระนองจริงๆ

ผมได้รับคำชวนจากแก๊งนัดเยเหมือนเดิม ว่ามีอะไรแบบนี้อยู่ที่ระนอง เลยจัดทริปล่วงหน้ากันยาวมาก เพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่ตั๋วเครื่องบินถูกหน่อย (บินไประนองแพ้งแพง)

พอวาร์ปไปถึงที่พัก ปรากฏว่าเราเจอลำธารตื้นๆ คั่นตรงทางเข้าที่พักที่ไม่มีแม้แต่ป้ายชื่อ มีแต่บ้านไม้บ้างปูนบ้าง (สวยบ้างไม่สวยบ้าง 555) ซ่อนตัวอยู่หลังแมกไม้และสายน้ำไหลเย็น ยิ่งพอฝนตกปั๊บ ก็จะเป็นโหมดชุ่มฉ่ำน่าสบายโคตรๆ

ความเจ๋งคือเวลาเลี้ยวรถเข้าไปเนี่ย เราต้องขับข้ามฝายลำธารที่น้ำลึกประมาณคืบใช่มะ แต่พออยู่ๆ ไป กลางคืนฝนตกหนัก น้ำล้นฝาย พอรุ่งเช้า ขับข้ามออกมาไม่ได้!

แต่ลำธารที่โอบล้อมรอบที่พักนี่แหละครับที่เป็นพระเอกของที่นี่ รวมถึงบ้านไม้หลังที่ผมไปกลิ้งมา นั่นเป็นนางเอก (นางเอกมีหลายหลัง) เพราะมันสวยแบบบ้านไม้สมัยใหม่ และเก็บรายละเอียดของงานออกแบบได้พิถีพิถันดีจัง

เสียดายที่ตอนไปพักไม่เจอเจ้าของ เลยไม่ได้สัมภาษณ์เรื่องแรงบันดาลใจ และคอนเซปต์การออกแบบ แต่ถึงไม่ได้คุย เอาแค่ได้ไปนอนกลิ้งมาสองคืนก็พบว่า ประทับใจมากว่ะ ไว้ต้องไปซ้ำให้ได้!

.

บ้านไร่ไออรุณ

บ้านไร่ไออรุณ
– ระนอง –
Facebook: baanraiiarun

เจ้านี้ดังมาก เป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการดังขนาดที่เขาเอามาทำเป็นโฆษณาก่อนหนังฉายเลยละกัน ก็เลยไม่จำเป็นต้องเล่าซ้ำ แต่เล่านิดนึงละกันเดี๋ยวหาว่าเอาเปรียบ

จุดขายคือเจ้าของเป็นสถาปนิกที่กลับไปพัฒนาสวนที่บ้านตัวเอง ทีแรกก็ปลูกผักออร์แกนิก ออกแบบนั่นนี่จนได้บ้านพักหลังเล็กๆ หลายๆ หลังกระจายตัวอยู่ในสวน แล้วเปิดให้คนมาเช่า ส่วนด้านหน้าทีแรกก็ขายผักที่ “แม่” (คุณแม่เรียกตัวเองว่าแบบนี้กับแขกและลูกค้าทุกคน) นำมาขาย ทำไปทำมา พอดังปั๊บ ก็เลยขยับขยาย ปรับปรุงสถานที่ด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ของเจ้าของที่เป็นสถาปนิก และฝั่งด้านหน้าก็เปิดขายอาหารและเครื่องดื่มแนวชิกๆ เก๋ๆ เหมาะแก่การโพสต์อินสตาแกรม จึงเป็นสาเหตุให้ที่นี่ได้รับการบอกต่อแพร่หลายจนดังระเบิดเถิดเทิง คิวจองแน่นเอี๊ยด

สลิ่มอย่างเราจึงไม่พลาดที่จะมาเยือนและเสพรายละเอียดให้รู้ว่ามันดีอย่างที่คาดหวังไหม

.

บ้านป่าริมธาร

บ้านป่าริมธาร โฮมสเตย์
– จันทบุรี –
Facebook: บ้านป่าริมธารโฮมสเตย์

จันทบุรีเป็นจังหวัดที่ครบเครื่อง มีทั้งภูเขา แม่น้ำ น้ำตก ปากอ่าว ทะเล ป่าชายเลน วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วิถีชุมชนทั้งแบบเก๋ๆ และแบบเรียลๆ ฯลฯ ซึ่งเราจะไม่พูดถึงเพราะเราหวง 55555

ซึ่งบ้านป่าริมธารนี่แหละครับเป็นหนึ่งในของดี(แบบส่วนตัว)ของที่นี่ บ้านพักเป็นสไตล์แมนๆ คันทรี่ๆ อย่างที่บอกข้างบนเลยว่าปกติจะไม่ค่อยชอบ 555555 แต่ขอยกเว้นที่นี่ไว้ที่นึง เพราะความสวยใสไหลเย็นของลำธารหน้าบ้านมันดีจนเราหยวนให้ได้ทุกอย่าง

ไปนอนได้คืนนึงตื่นมาก็เพิ่งรู้ประวัติว่าโฮมสเตย์ (ที่จริงมันก็คือรีสอร์ตนั่นแหละ) แห่งนี้ เป็นของพ่อของพี่โป้โยคีเพลย์บอย แกมาบุกเบิกที่ริมธารนี้ไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน โดยสภาพรอบๆ เป็นลำธารใสแจ๋ว มีเกาะแก่งให้เดินเล่นและเล่นน้ำอย่างแจ๋ว รีสอร์ตรอบๆ ก็ให้ความร่วมมือ มีกติการ่วมกันในการใช้ลำน้ำแห่งนี้โดยไม่เบียดเบียนรุกราน ทำให้คงสภาพความงามและไหลเย็นเห็นตัวปลา เด็กๆ แฮปปี้กันสุดๆ

.

ต่อไปเป็นการเปรียบเทียบกันสี่แห่งเนอะ อย่าเรียกว่าเปรียบเทียบเพื่อหาคนแพ้คนชนะเลย เพราะแต่ละแห่งมันมีส่วนต่างส่วนดีคนละแบบงี้ ถือว่าจดไว้ดูเป็นข้อมูลไว้แนะนำหลอกล่อเพื่อนฝูงมาอ่านเพื่อตัดสินใจไปตามรอยละกัน

ทำเล

บ้านสวนจันทิตา
  • อยู่จังหวัดอุทัยธานี ขับรถแป๊บเดียวจากกรุงเทพฯ ก็ถึง ถนนดี รถไม่เยอะ
  • เป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่ใช่ทางผ่านขึ้นเหนือ ก็เลยสงบเงียบ
  • บริเวณรอบๆ เป็นลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง เขียวชอุ่มและชิลมากๆ
  • ย้ำว่าชิลมากๆ แฮปปี้มากๆ
  • ที่เที่ยวแถวนั้นมีวัดวา เมืองเล็กๆ หรือจะไปแนวป่าเขาก็เจ๋ง
บ้านในหมง
  • อยู่จังหวัดระนอง
  • มีพี่เตือนว่า อย่าขับรถมาจากกรุงฯ เลย มันไกล และทางแย่
  • เราเชื่อ เราเลยบินไปลงสนามบินระนอง (ค่าเครื่องแพงสัส) และเช่ารถต่อเพื่อขับในจังหวัด ถึงจะแพงแต่โอเคนะ
  • อยู่ในซอยใกล้บ่อน้ำร้อน ใกล้บิ๊กซี ปั๊ม โรงหนัง ฯลฯ แต่ในซอยดันเป็นป่าเขาและเรือกสวน เขียวชื้นชุ่มฉ่ำ เมฆแตะยอดเขา
บ้านไร่ไออรุณ
  • อยู่ระนอง อ่านอันตะกี้ได้ แต่ขยับมา อ.กะเปอร์ ซึ่งแถวกะเปอร์ไม่ค่อยมีอะไรนอกจากสวนและป่าเขียวๆ สะใจ
  • เออก็มีนี่หว่า สองข้างทางนั่นแหละ เสพเข้าไป แฮปปี้มาก
  • แต่ตัวบ้านไร่ไออรุณนี่จะฉีกออกมาจากตัวเมืองเยอะหน่อย ไม่มีเซเว่นหรือปั๊มใหญ่ๆ แถวนั้น เข้าร้านชำก็โอเค
  • ถนนในระนองดีแล้ว ดีมากเลย ขับสบายใจ
 บ้านป่าริมธาร
  • อยู่ทุ่งเพล จังหวัดจันทบุรี แถวทุ่งเพลจะเป็นสวนๆ ป่าๆ นะ อยู่ใกล้ภูเขา ไม่ใกล้ทะเล
  • ขับรถจากกรุงฯ สักห้าชั่วโมงได้ (บ้านเราแวะจอดบ่อย คนอื่นอาจจะไวกว่านี้แหละ)
  • รอบๆ มีรีสอร์ตอีกหลายแห่งที่ตั้งอยู่แนวลำธารเดียวกัน
  • เดินทางค่อนข้างง่าย ถนนโอเคอยู่ มีร้านของชำไม่ไกล

คอนเซปต์

บ้านสวนจันทิตา
  • ลุงป้าวัยเกษียณย้ายมาอยู่ในที่ดินที่ซื้อ และปลูกต้นไม้ไว้เมื่อสามสิบปีก่อน ทำไปทำมาเลยเปิดเป็นโฮมสเตย์ โดยจ้างสถาปนิกมาออกแบบให้
  • นโยบายคือไม่ตัดต้นไม้แสนรักที่ปลูกไว้ (ไม่นับไม้ที่เอามาทำบ้านนะ อันนั้นซื้อมาจากที่อื่น) พอเป็นแบบนี้ต้นไม้ก็เลยแสดงความรักตอบ ด้วยการโชว์ความร่มรื่นสุดขีด
  • แปลนบ้านทุกหลังเป็นเครื่องหมายบวก จัดวางตำแหน่งห้องนอนห้องน้ำและโถงบิดหมุนต่างกัน เดินดูให้ครบทุกห้องจะสนุกมาก
บ้านในหมง
  • เป็นบ้านในป่า มีลำธารตื้นๆ โอบล้อม
  • เฮ้ยเรารู้แค่นี้เอง แย่แล้วๆๆ ไม่ได้ทำการบ้านมา เขาชวนไปก็ไปตามเขา (ถ้าอยากรู้ก็ลองไปค้นดูนะครับ วันที่ไปนี่รายการบ้านและสวนก็ออกเรื่องของที่นี่พอดี ดูแล้วอยากไปมาก แต่เฮ้ย กูก็ดูอยู่ที่นี่แล้วนี่หว่า)
  • ความฝนแปดแดดสี่ของระนองนั้นช่วยทำให้สถานที่โคตรร่มรื่นชุ่มฉ่ำ สะใจมาก
บ้านไร่ไออรุณ
  • ใครที่ดูหนังโรงน่าจะเคยเห็นโฆษณาที่เล่าเรื่องสถาปนิกที่จบแล้วกลับบ้านไปทำในสิ่งที่ตนรัก ทำไร่ออร์แกนิก มีลำธารไหลผ่าน และมีผลิตภัณฑ์จากไร่ที่ทำกันเองเล็กๆ ในครอบครัว ขายให้คนที่แวะมาไรงี้
  • เนื่องจากสตอรี่นี้มันดีจังเลย ก็ดึงดูดให้คนเข้ามากันเยอะ เขาก็เลยทำร้านอาหาร มีเครื่องดื่ม ขนมไทยๆ ไว้ต้อนรับ โดยทำกันเป็นครอบครัว และหลังๆ นี้พอดังขึ้นมา ก็เลยมีพนักงานทำงานกันฟูลทีม ดูเป็นมืออาชีพ
  • รายละเอียดอื่นๆ ดูในรายการบ้านและสวน
บ้านป่าริมธาร
  • จำไม่ได้แล้วว่าใครแนะนำ แต่พอไปถึงแล้วเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นของพ่อของพี่โป้โยคีเพลย์บอย แกมีที่ดินริมลำธารนี้มานานแล้ว แล้วก็ขยับปรับปรุงเป็นรีสอร์ตหลังๆ เป็นบ้านปูน+ไม้ หลายสไตล์ แล้วแต่ว่าแขกจะเลือกพักห้องไหน
  • เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินริมธาร ผ่านการจัดการด้วยฝีมือมนุษย์มากกว่าจะเป็นป่าๆ
  • อยู่กันหลายๆ รีสอร์ตด้วยความร่วมมือกันว่าจะแชร์ลำธารและแบ่งปันกันใช้เป็นอย่างดี

สิ่งที่ประทับใจ

บ้านสวนจันทิตา
  • ลานไม้อันสุดยอด ชอบมาก ชอบมากๆ โคตรเย็นสบายจนอยากขโมยกลับบ้าน (สุดท้ายมันฝังใจจนพอสร้างบ้านใหม่เลยทำลานไม้เชื่อมตัวบ้านเข้าด้วยกันจริงๆ ขอบคุณแรงบันดาลใจ)
  • ป้าจันทิตา ดุและขี้บ่นแบบครู ส่วนลุงสาน แกอ่านอะเดย์และเวย์! (มาทักเราตอนเห็นสะพายถุงผ้าเวย์ว่ารู้จักด้วยเหรอ คุยไปคุยมาเลยเปิดหน้าที่มีเราอยู่ข้างในให้แกดู 5555)
  • เราว่าเด็กถาปัดมาถึงมาดูต้องกรี๊ดกันทุกคนแหละ เป็นโครงการที่คอนโทรลและเคารพธรรมชาติได้ดีมากๆ
บ้านในหมง
  • ลำธารด้านหน้าอันสุดยอด อยู่ดีๆ ก็มาขวางทางเข้า พอฝนตกหนัก น้ำก็จะลึกเกินลุยออก ชอบว่ะ 55555
  • ลูกอ๊อดยักษ์!
  • ตัวบ้านที่เราไปพักนั้นช่างสุดยอด ห้องน้ำก็ดี ลำธารหลังบ้านก็แจ๋ว (จำชื่อไม่ได้ ใครจะไปก็บอกว่าจองหลังใหม่ล่าสุดที่มีห้องน้ำเอาต์ดอร์ละกัน)
  • ความเขียวชุ่มฉ่ำ ของสายน้ำ ของฝน ของต้นไม้ และของหมอกที่เลียภูเขาลิบๆ
  • เน็ตโคตรแรง!
บ้านไร่ไออรุณ
  • เหมือนไปดูงานสถาปนิกที่ประยุกต์พื้นที่สวนหมาก สวนปาล์ม สวนผลไม้ แล้วสร้างบ้านไม้ยกพื้นสวมลงไป ออกแบบทางเดินไม้ไผ่ ฯลฯ ได้ถูกใจอินสตาแกรมและโลกโซเชียล
  • บ้านพักที่นี่เขาทำกันเองนะ (มีพ่อ และลูกมืออีกสองคน สร้างได้แล้ว เมพ)
  • ชอบลำธารที่ทำขึ้นมาเอง มีระบบหมุนเวียนน้ำในโครงการ (เราได้แต่คิดว่าอยากทำแบบนี้ แต่ที่นี่ทำให้ดูแล้วว่าสามารถทำได้จริงๆ)
  • คาเฟ่ด้านหน้าน่ารัก ของกินเป็นแนวๆ ขนมไทยๆ อร่อยจริง
 บ้านป่าริมธาร
  • ลำธารสวยมากกกกกกกกก เกาะแก่ง งดงามมากกกกกกกก
  • บ้านริมธารแต่ละหลังที่ออกแบบมาไม่ซ้ำกันนั่นก็ดูดี ถึงจะไม่ฮิปมาก แต่เหมือนรีสอร์ตที่แบ็กแพ็กเกอร์มาเห็นแล้วจะโอเคน่ะ เก็ตมะๆ
  • ทางเดิน (คอนกรีต) ทอดยาวร่มรื่นแทรกไปในสวนไม้ยืนต้น ดูดีเหมือนเดินในวัดป่า

ข้อสังเกต

บ้านสวนจันทิตา
  • ป้าจันทิตา (เจ้าของ) แกขี้บ่นหน่อยนะ ดูแลแขกเหมือนกันลูกหลาน 55555555 ถ้าทำใจให้โอเคก็โอเค
  • ตอนที่ผมไปนั้นไม่มีไวไฟ ไม่รู้เดี๋ยวนี้มีหรือยัง
บ้านในหมง
  • บ้านแต่ละหลังอยู่ห่างกัน กรณีไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วต้องเดินไปหลังอื่นๆ ก็ให้ระวังสัตว์เลื้อยคลานไรงี้เอานะ
  • ไม่มีอาหารนะ แต่ฝากเจ้าของซื้อเข้ามาได้
  • ระเบียงบ้านหลังที่เป็นปูนทั้งหลัง (จำชื่อไม่ได้ ที่อยู่ติดสะพาน) มีตุ๊กแกเยอะมาก
  • ทีมงานทุกคนที่เจอ พูดไทยไม่ได้นะครับ
บ้านไร่ไออรุณ
  • ที่พักแต่ละหลังและทางเดินข้ามลำห้วยเล็กๆ นั้นสงวนไว้ให้ผู้พักนะ แขกที่มาคาเฟ่ด้านหน้าก็อดเข้ามาดู ถือว่าแวะมาเพื่อกินน้ำกินหนมโดยเฉพาะ
  • ทางเดินไกลหน่อยนะ ใครลากกระเป๋าเดินทางมามีกรี๊ดแน่
  • ไม่มีน้ำอุ่น ลูกสาวผมอาบน้ำไปร้องไห้ไป 55555
  • พื้นที่ในบ้านแต่ละหลังค่อนข้างเล็กนะครับ ส่วนข้างนอกก็ยุงเยอะเชียว (อันนี้ต้องทำใจ)
  • ไม่มีไวไฟ สัญญาณมือถือ (ทรูมูฟ) แย่มาก
 บ้านป่าริมธาร
  •  เป็นที่พักที่มี “ความชิก” น้อยที่สุดในบรรดาที่พักทั้งสี่ (ก็คือเหมาะกับโลกโซเชียลในสไตล์ฮิปๆ อินสตาแกรมๆ ไรงี้ น้อยหน่อย มันจะออกแมนๆ)
  • ริมลำธารที่แยกออกมาจากสายหลักนั้นน่าจะเป็นลำธารขุดเข้ามาเอง ตลิ่งเลยเป็นปูนๆ หน่อย แต่ลำธารหลักนี่โคตรดี
  • ระบบอาหารอุดมสมบูรณ์มาก สั่งจากครัวมากินได้โอเคเลย (ไม่ได้ถือเป็นข้อเสียนะ แต่หาที่ลงไม่ได้ 555)

จบการบันทึกครับ ใครผ่านมาอ่านและมีที่พักแนวนี้แนะนำช่วยบอกหน่อยนะ ตอนนี้เล็งโซนภาคเหนือไว้ เด็กๆ ที่บ้านเริ่มโตพอจะพาไปได้แล้ว ขอบคุณครับ

รสธรรมชาติ: ร้านกาแฟกระต่ายน่ารักที่ราชบุรี

เข้าเรื่องเลย ดึกแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ทันตื่นไปส่งลูก

คืองี้ครับ ผมไปเที่ยวเพชรบุรีมา ทีนี้ระหว่างทางก็แวะไปทับแก้ว (นครปฐม) ก่อน ซึ่งเป็นเส้นทางคนละเส้นกับคนที่มุ่งหน้าจะลงเพชรบุรีหัวหินโดยปกติ (เราไปเพชรเกษมเส้นเดิม ส่วนชาวบ้านเขาไปพระรามสอง)

ด้วยนิสัยผมเป็นคนใช้ Google Maps บ่อยมากกกก (เปิดแอปนี้บ่อยกว่าเฟซบุ๊กละกัน) ชอบปักหมุดสถานที่ที่เคยไปจนรึ่มไปหมด ส่วนที่คิดอยากไปมากแต่ยังไม่สบโอกาสก็จะปักไว้อีกสี (Want to go สีเขียวๆ) และรอโอกาสที่จะได้ไปเยือนอีสีเขียวๆ นี่เข้าสักวัน

การผ่านเส้นทางที่ไม่ปกติคราวนี้จึงทำให้ได้เก็บแต้มหมุดเขียวอีกหนึ่งร้าน เป็นร้านเดียวกับที่เคยอ่านกระทู้พันทิปชื่อ “เปลี่ยนสวนหลังบ้านให้เป็นร้านกาแฟในฝันของตัวเอง” (คือตามอ่านหมวดรีโนเวตบ้านอยู่แล้วเจอ 555555) แล้วปักไว้

ตัวกระทู้ว่าด้วยการสร้างสร้านกาแฟในฝันด้วยงบประมาณอันจำกัดมากๆ คอมเมนต์ไม่ค่อยเยอะครับ แต่จุดชี้เป็นชี้ตายคือแฟนเจ้าของกระทู้น่ารักมากบรรยากาศและสถานที่ดูมีเสน่ห์มาก

คือเจ้าของกระทู้ (ต่อไปนี้จะเรียกเจ้าของร้านเลยละกัน) เป็นมนุษย์เงินเดือนน้อย แต่มีฝันไง คือบ้านพ่อแม่แฟนอยู่ที่ราชบุรีอยู่แล้ว มีที่ดินอยู่แปลงนึงที่เอาไว้เลี้ยงวัว ทำการเกษตร ถึงจะไม่ใหญ่มาก และทำเลอยูลึกสักหน่อย แต่พอใจมันรัก คิดหน้าหลังดีแล้ว จึงรื้อถางคอกวัว และถมที่ สร้างเพิง ปลูกหญ้า กลายเป็นร้านกาแฟด้วยงบประมาณไม่แพงเลย (กดอ่านกระทู้ข้างบนได้ครับ คนตอบไม่เยอะนะ แต่เราชอบบีฟอร์และอาฟเตอร์มากจนอยากไปเยือนเข้าสักที)

สิบเอ็ดโมง ท้องฟ้าแจ่มใส บ้านแบนเดินทางไปถึงพอดีตามพิกัดแผนที่ จอดรถปั๊บ เห็นป้ายชวนให้ไปเล่นกระต่าย ก็เลยเดินผ่านเคาน์เตอร์ขายกาแฟเข้าไป (อ้าว) (คือเราไม่กินกาแฟ เมียเราต่างหากที่เสพติด)

เคาน์เตอร์ขายกาแฟที่ทำง่ายๆ ใช้แผ่นเมทัลชีต มีโครงสร้างเป็นเหล็ก แปะภาพถ่ายจากฝีมือเจ้าของร้าน (เป็นตากล้องด้วย) ทั้งหมดนี้ไม่มีแอร์ ถามมาแล้วค่าใช้จ่ายมีแค่ค่าน้ำ 50 บาทต่อเดือน


คุณบุญแต่ง (เจ้าของร้าน) มาต้อนรับด้วยตัวเอง ชวนให้เด็กๆ เข้าไปเล่นกระต่ายในสวน


นี่แหละครับ ลานร่มไผ่ จัดวางในสวน สะอาดและร่มรื่นมาก ยังกะเป็นวัดป่าที่ตอนเช้าเณรและเด็กวัดมากวาดให้เรียบร้อยแล้ว

ข้างในมีครอบครัวกระต่ายอยู่หลายตัว น่ารัก เชื่องด้วย เด็กอย่างฟิน

หญ้าที่ใช้เลี้ยงกระต่ายนั้นก็ตัดมาจากข้างหลังนี่แหละครับ ดังนั้นจึงเรียกได้ว่ามีไม่อั้นจริงๆ ถึงว่าสิ กระต่ายเลยดูแฮปปี้มาก ผมถามเจ้าของร้านว่ากลางคืนกระต่ายนอนในนี้เลยหรือเปล่า น้องแกบอกว่ามีคอนโดกระต่ายไว้นอนครับ ดังนั้นสบายใจได้ เจ้าของเขาเลี้ยงและรักกระต่ายอยู่แล้ว นี่มาเปิดร้านกาแฟเลยเอามาเลี้ยงด้วยไรงี้

 

บรรยากาศบริเวณรอบๆ ร่มรื่นมากกก

เจ้าของร้านเขามีหัวในการออกแบบดีมากเลยนะ ดูอย่างห้องน้ำนี้สิ เดินข้ามสนามหญ้าจากฝั่งตะกี้มาก็เจอ วางหลบมุมอยู่เงียบๆ แต่ชอบมาก ชอบประตูไม้บานใหญ่มากเต็มผนัง ชอบหลังคาใส ชอบโถฉี่ ที่ล้างมือที่แปะไว้รอบๆ ผนัง ชอบต้นไม้ที่รายล้อม ชอบกว่าเพิงขายกาแฟข้างหน้าอีก 5555555

เออใช่ ที่ร้านจะมีมุมวาดภาพระบายสีสำหรับน้องๆ มีภาพพรินต์ใส่กระดาษมาให้วาดกันที่โต๊ะสวนไผ่ ส่วนสาวในภาพคือพรีเซนเตอร์ประจำร้าน คนเดียวกับที่ยืนลุยทุ่งปอเทืองในกระทู้นั่นแล

ช่วงเก็บตก

  • ปอเทืองจะมาตอนปลายฝนต้นหนาว เป็นฤดูของมัน
  • ผมและครอบครัวใช้เวลาอยู่ในร้านนี้นานมากๆ เล่นกระต่ายจนฟิน (ขึ้นรถหลับทันทีละกัน)
  • ภาพวาดระบายสีที่ให้เด็กเล่นนั้นไม่ได้โหลดเถื่อนมาจากเน็ต แต่ให้เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันวาดให้ เฮ้ยอันนี้ดี ชอบในความแคร์
  • เมียบอกว่ากาแฟอร่อย ของผมเป็นโก้โก้เย็น อร่อยเหมือนกัน ส่วนของทอดเล็กๆ น้อยๆ ของเด็กก็ธรรมดาทั่วไป และทั้งหมดที่ว่ามานี้ จ่ายไป 165 บาท! ถูกมาก!
  • ในกระทู้บอกว่าตั้งราคาให้ไม่แพงเพราะว่าต้องการให้ชาวบ้านแถวนี้ผ่านมาก็แวะซื้อได้สะดวกใจ
  • คือข้อเสียก็มี เช่นไม่ค่อยมีเมนูอาหารหรือของว่างอื่นๆ ให้กิน (พูดตรงๆ คือให้เสียตังค์ เราอยากเสียเงินให้คุณกว่านี้อีก แต่ไม่รู้จะซื้ออะไรดี เอาไปหยอดตู้หน้าคอกกระต่ายแทนละกัน)
  • ที่เซอร์ไพรส์คือกล้วยตาก ซื้อเพิ่มมาอีก 30 บาท แล้วดันโคตรอร่อย ไว้ไปซ้ำใหม่นะ
  • มีคนแนะนำให้ทำผัดกะเพรา อาหารตามสั่ง ฯลฯ ขาย เอออันนี้ก็แอบเชียร์อยู่เหมือนกัน หาอะไรมาขายเพิ่มเถอะๆ
  • ร้านเปิดเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าของร้านไปโพสต์กระทู้พันทิป ได้กระแสเข้ามานิดหน่อยพออยู่ได้ แต่ที่ดีจริงๆ คือสื่อท้องถิ่น (ใครอยู่ต่างจังหวัดจะเห็นสื่อแบบนี้เยอะ พวกพากินพาเที่ยวในจังหวัด มีทั้งฟรีก๊อปปี้ เว็บ เพจ กรุ๊ป ไรงี้) พอลงทีนึงคนมากันร้านแตกเลย หลังจากนั้นก็เรื่อยๆ
  • อย่างวันนี้ตอนเรากำลังร่ำลาจะกลับ ก็มีอีกครอบครัวนึงจอดรถพอดี มีพ่อ แม่ ลูกสาวที่ถือกรงกระต่ายส่วนตัวเข้ามาด้วย
  • ไหนๆ ก็ไหนๆ พอคุยติดลมแล้วก็เลยแลกเปลี่ยนกันเรื่องรายได้ พบว่ากำไรสุทธิของร้านไม่สูงเลย แต่ก็นั่นแหละ จ่ายน้อย (ค่าเช่าไม่เสีย มีจ่ายแค่อาหารเม็ดกระต่าย ค่าวัตถุดิบ และค่าน้ำ 50 บาท จบ) พอจ่ายน้อยก็เหลือเยอะ

ย้ำว่าทั้งหมดนี่ทำกันสองคนนะ เนื่องจากทุนสร้างมีจำกัดเลยทำกันแบบง่ายๆ เล็กๆ แต่ดูมีความสุขกันมาก …ที่จริงอันนี้แหละคือความพอเพียงแบบที่เราเห็นกันในโฆษณาก่อนหนังฉาย

เออแปลก พอพูดถึงโฆษณาที่ว่านี้แล้ว คนรอบตัวผมมีแต่ยี้แฮะ บอกว่ามันช่างเฟกจังเล้ย แต่เฮ้ย มันมีคนรู้จักที่ทำแบบที่ว่าจริงๆ นะ เพียงแค่เขาไม่มามัวโฆษณาตัวเองว่าพอยังงั้นเพียงยังงี้ (หรืออาจจะไม่โดนห้างร้านองค์กรเอาไปทำเป็นพรีเซนเตอร์) คือเขาทำเลย ใช้ชีวิตเป็นปกติเลย ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แถมยังแฮปปี้มากๆ ด้วย

เป็นความแฮปปี้แบบเดียวกับที่ผมเห็นจากร้านรสธรรมชาตินี่แหละ

ฝันถึงเมียน้อย

บันทึกไว้หน่อย

ในฝันคือเป็นภาพอนาคตที่บิดเบี้ยว คือลูกสองคนยังตัวเล็กๆ เท่านี้นี่แหละ เมียก็อายุเท่านี้ แต่เหตุการณ์ในฝันเหมือนแต่งงานอยู่กินกับเมียมานานกว่าโลกแห่งความจริงเป็นสิบปีเลย (ที่ลูกเมียและเราอายุเท่านี้ในฝันก็คงเพราะว่าเรายังไม่เคยจินตนาการถึงหน้าตาของครอบครัวเราในช่วงวัยที่มากกว่านี้เลย)

สิ่งที่ต่างออกไปก็คือเมียผมที่กลายเป็นคนบ้างานมากๆ มากๆ

โลกแห่งความจริง ณ พ.ศ.นี้ เมียผมก็บ้างานในระดับหนึ่ง ชอบวาร์ปไปอยู่ในงาน เหตุผลก็เพราะเรื่องเงิน เมียผมชอบเงิน แต่เราคุยกันทุกเรื่อง ย้ำว่าทุกเรื่อง อันนี้ทีแรกคิดว่าคู่อื่นเขาก็เป็นกัน แต่พอมารู้ว่าคู่เรามันไม่มีอะไรปิดบังเลย ต่างจากที่เพื่อนฝูงเป็นกัน ก็ถือว่าแปลก แปลกได้ยังไงวะ

แต่ในฝันคือเป็นการเพิ่มเลเวลไปกว่านั้นอีกหลายเท่า คือไม่สนใจกูเลย ทำงานแบบวาร์ปถาวร ไอ้ผัวก็เปลี่ยวเหี่ยวสิครับ โดยเฉพาะไอ้เรื่องอย่างว่านี่เมียในฝันปิดโหมดไปเลย

พอนานๆ เข้าก็เหมือนตัวตนถูกลบให้จืดจางลง และค่อยๆ เฟดหายไป…

อันนี้ในฝันยังวิจารณ์ตัวเองเลยครับว่ามึงออกแบบสถานการณ์ได้เห็นแก่ตัวมาก 5555

ระหว่างนั้นก็มีผู้หญิงคนนึงเข้ามาครับ

จำชื่อไม่ได้ จำหน้าไม่ได้

มันมีคำอธิบายในทางจิตวิทยาด้วยนะว่าทำไมเราจำหน้าคนที่ไม่มีอยู่จริง (นี่คือออกตัว) ในฝันไม่ได้ แน่นอนว่าคาแรกเตอร์ปูมาให้ตัวละครนี้พัฒนามาสู่ความเป็นเมียน้อยแน่นอน

แต่น้องคนนี้ต่างออกไปนะครับ คือเป็นผู้หญิงน่ารักๆ ธรรมดานี่แหละ ไม่ได้เป็นผู้หญิงแรงๆ ร้ายๆ อะไร คือมีมิติความลึก มีแบ็กกราวด์ มีครอบครัว เป็นพนักงานออฟฟิศสักตำแหน่ง (นึกภาพว่าเป็นเออี) ทำมาหากินใช้ชีวิตปกติ

ที่ไม่ปกติก็คือน้องคนนี้ได้มีโอกาสร่วมงานกันกับผม แล้วดันสารภาพว่าชอบเราเว้ย

55555555555 ไอ้สัส เขียนบทได้แบบ มึงนี่หล่อมาก มีสาวตึงมาชอบ 55555555555 โอ๊ยทำไมของจริงไม่มีงี้มั่งวะ

เนื่องจากตัวเองไม่มีความสามารถในการขยี้บทรักๆ ใคร่ๆ อะไรแบบนี้เท่าไหร่ ในฝันก็เลยสคิปข้ามไป เอาเป็นว่าตอนนี้ผมอยู่บนทางสองแพร่งที่อันตรายต่อชีวิตครอบครัวแล้วล่ะ

ทางที่ผมเลือกก็คือ บอกเมียว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น

ด้วยเชื่อว่าการคุยกันทุกเรื่องนั้นแก้ปัญหานี้หรือปัญหาใดๆ ได้ เราเลยมานั่งคุยกันในร้านข้าวริมถนนสักแห่ง

เมียทำละสายตาจากมือถือ หันมาจ้องตาและคุยกับผมจริงจัง มันเป็นใคร หน้าตาเป็นไง เกิดขึ้นนานหรือยัง (ไม่นาน) แล้วชอบเขาไหมล่ะ (เปล่า แต่น้องก็น่ารักอยู่นะ) ได้กันหรือยัง (ยัง!)

และหาทางแก้ไขปัญหา ป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทุกอย่างจบอย่างเข้าใจในระหว่างรอสั่งข้าว

พอฝันมาถึงตรงนี้ ผมรู้ตัวแล้วว่าฝัน ในฝันเลยหยิบโน้ตบุ๊กมา เปิดเว็บ เขียนบล็อก

ตั้งชื่อหัวข้อว่า “ฝันถึงเมียน้อย”

.

ป.ล.ตื่นมาในโลกแห่งความจริง แน่นอนผมเล่าความฝันนี้ให้เมียฟัง ทำไมเมียทำท่าเหมือนจะหยิบมีดวะ

ดราม่าประจำเดือนมิถุนายน 2560 ของข้าพเจ้า

  1. เราไม่เคยบ่นเรื่องงาน
  2. เราไม่เคยเล่าปัญหาดราม่าของตัวเอง

ทั้งหมดนี้เพราะต้องการสร้างภาพลักษณ์ต่อโลกโซเชียลอันฉาบฉวยว่าฉันเป็นคนตลกและอารมณ์ดี

แต่เคสนี้ขอจดไว้หน่อย

ร้านสกรีนเสื้อเล็กๆ ของผม​ (ทำลิงก์ไว้เพื่อการ SEO) เปิดให้บริการมาสิบกว่าปี ผ่านวิกฤตมาหลายๆ อย่างเล็กบ้างใหญ่บ้าง ประสบการณ์ทำให้เราค่อยๆ เติบโต แต่จะว่ายังไงก็เอาเถอะ ผมตัดสินใจยับยั้งไม่ให้เติบโตเกินไป ขี้เกียจเหนื่อย เลยทำเป็นร้านเล็กๆ แบบนี้ จะได้ลงดีเทลเองได้อย่างละเอียดทุกส่วน และมีความเป็นโฮมเมด ไอ้นี่แหละที่เขาว่ากันว่าเป็นกับดักรายได้ปานกลาง 5555

แต่เผอิ๊ญ ช่วงฝนตกฟ้าร้องฟ้าคะนองที่ผ่านมานี่แหละ เครื่องสกรีนแม่งพัง ไม่ได้พังเครื่องเดียวนะครับ คราวนี้พังทุกเครื่อง ด้วยสาเหตุต่างๆ กัน

ถ้าดูซีรีส์เดอะแฟลชจะเห็นว่าอีตอนที่เมืองของพระเอกเกิดระเบิดวิเศษตูมขึ้นมา ใครที่กำลังทำอะไรอยู่ก็จะได้รับพลังวิเศษอันนั้น เช่นพระเอกโดนฟ้าผ่าอยู่ เลยมีพลังวิ่งเร็วเหมือนสายฟ้า (มึงก็เชื่อมโยง) บางคนกินเกาเหลาหม้อไฟก็น่าจะมีพลังหม้อเป็นไฟ อะไรงี้เป็นต้น

แต่กับเรื่องจริงคือ เครื่องสกรีนที่ร้าน แม่งพัง พังแบบที่กว่าจะงมสาเหตุกันจนได้รู้ว่าสาเหตุคือการที่ไฟกระชากเนี่ย ก็ล่อไป 3 วัน

พร้อมกับออเดอร์ที่ค้างไว้อยู่ในระหว่างการสั่งอีกร้อยกว่าตัว

จากลูกค้า 8 ราย ความดราม่ามีอยู่ 8 เลเวล (อย่าให้เล่าถึงรายที่เป็นเลเวลสูงสุดละกัน)

แน่นอนว่าต้องใช้วิธีการรับมือ 8 ประการ

สิ่งที่ทำคือ เรื่องเครื่องพัง ให้เป็นหน้าที่ของพี่ชายและพี่สะใภ้ ที่ผ่านการซ่อมมาสารพัด เป็นผู้ดำเนินการซ่อมให้อย่างหามรุ่งหามค่ำ คิดว่าน่าจะใช้วิธีแบบคินดะอิจิ ที่เอาอะไหล่จากเครื่องนึงมาใส่อีกเครื่องนึง เพื่อให้ทำงานระยะสั้นได้ แล้วตัดเครื่องที่เจ๊งให้ลอสต์ไป ระหว่างนั้นให้ติดต่อดีลเลอร์ ฯลฯ (ที่จริงมีปัญหากับดีลเลอร์ที่ไม่เป็นมืออาชีพอีก แต่ไม่โฟกัสละกัน ข้ามๆๆ)

ปัจจุบันที่เขียนบล็อกนี้อยู่ สถานการณ์คือ เครื่องสกรีนยังพังเหมือนเดิม แม่ง การตัดต่อปลูกถ่ายอวัยวะไม่เห็นจะง่ายเหมือนใน Doctor K เลยวะ

โอเคแหละ ทำใจได้แล้วว่าเดี๋ยวต้องควักเงินจำนวนไม่น้อยมาทำอะไรในการนี้บ้าง ก็เอาไว้ต่อสู้กันในเฟสถัดไป

แต่เฟสนี้ซึ่งเป็นงานระยะเร่งด่วนก็คือ ต้องรับมือกับสถานการณ์ของเสื้อร้อยกว่าตัวที่มีคนจ่ายเงินเรามาแล้ว และต้องตอบสนองต่อความคาดหวังของเขาให้ได้

ผมในฐานะเจ้าของร้าน บรรจงกลั่นจดหมายขอโทษอย่างยาว อย่างละเอียด และอย่างจริงใจ (คือเกิดอะไรขึ้นก็ต้องบอกไปตามจริง) แล้วส่งให้ลูกค้าทุกคน ด้วยหัวใจระทึกและนิ้วชุ่มเหงื่อ โดยเสนอทางเลือกให้ลูกค้าคือ

1.คืนเงิน
วิธีนี้เสียลูกค้าแน่นอน แต่จบปัญหาทุกอย่างได้เร็วที่สุด (มีลูกค้า 1 เจ้าเลือกวิธีนี้)

2.คืนเงิน และให้ทางร้านแนะนำร้านอื่นให้
วิธีนี้เสียลูกค้าแหละ แต่มีทางออกให้ลูกค้าได้ใช้บริการร้านที่เรา invite ไป

3.ให้ทางร้านดำเนินการผลิตให้ โดยใช้ sub-contract
วิธีนี้ลูกค้ารอเพิ่มอีกหน่อย คือเราไม่ได้ผลิตเอง แต่ไปจ้างที่อื่นทำ แน่นอนว่าเราได้ลูกค้าเหมือนเดิม แม้จะขาดทุน แต่ก็ไม่เป็นไร สิ่งที่ต้องทำคือต้องดูแลควบคุมการผลิตกับโรงงานอื่นที่เราไม่คุ้นเคยกับระบบการดีลของเขา (ลูกค้า 7 เจ้าที่เหลือ เลือกใช้วิธีนี้ ประทับใจและขอบคุณมากๆ)

ทั้งหมดนี้ผมขอโทษและมอบคูปองแสดงความขอโทษให้กับลูกค้าทุกคน และคุยปรึกษาถามตอบ รับมือกับลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าหมากที่เราเลือกเดินนั้นถูกต้องแล้ว

เพื่อไม่ให้ลงรายละเอียดที่หยุมหยิมมากนัก เอาเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังดำเนินการคุยกับโรงงานอื่นที่สามารถผลิตให้เราได้ตามสเป็กที่ลูกค้าทั้ง 7 รายต้องการ

ตัดภาพมาตอนนี้คือ อะไรวะ! ทำไมบริการของร้านอื่นๆ มันไม่ได้มาตรฐานขนาดนี้ โอ๊ยหงุดหงิด 55555

คือเข้าใจเลยว่ามันต่างกันมากเลย ในการที่ดีลงานกับร้านเล็กๆ ที่วางระบบการทำงานมาดี และใส่ใจลูกค้ามากๆ (อันนี้กล้าอวยตัวเอง) กับร้านใหญ่ที่เครื่องจักรทันสมัย และจ้างลูกจ้างมาเป็นคนดีลกับลูกค้า

ระดับความประทับใจ ความพึงพอใจมันต่างกันมาก

สองสามวันนี้พอได้เห็นระบบการทำงาน ระบบการถามตอบ ระบบการดำเนินการในมุมของลูกค้าแล้ว ก็รู้สึกได้เลยว่างานบริการนั้นความเอาใจใส่ลูกค้าโคตรสำคัญ หรืออย่างน้อยก็รู้สึกดีว่าเฮ้ยที่ผ่านมาเราโคตรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้นั้นถูกต้องแล้ว

เครื่องพังก็ช่างกะเครื่องมันสิ ซื้อใหม่ได้ ใช้เงินแก้ปัญหา

แต่ใจนี่แหละที่ต้องไม่พัง เพราะถ้าใจพัง จะเป็นพังใจ เว็บฟังเพลงอินดี้

จำไว้.

เสาเสาเสาและโรงเลื่อย

ตอนนี้ผมทำพอดแคสต์ (=วิทยุออนไลน์) อยู่สองรายการ ชื่อ “ยูธูป” และ “เสาเสาเสา” (เออ ว่าจะเขียนเรื่องพอดแคสต์ในประเทศไทยตั้งนานแล้ว นี่ดราฟต์ไว้ยังไม่เสร็จซะที ไว้ก่อนนะๆ) ทั้งสองรายการที่ทำนั้นสังกัดอยู่ในช่อง Get Talks โดยมีฐานอยู่ในซาวด์คลาวด์และทวิตเตอร์ (เหมือนจะเป็นพวกต่อต้านจักรวรรดิเฟซบุ๊ก 5555)

ยูธูป (@youtoopna) เป็นรายการรีวิวของกินที่เอาเรื่องผีมาบังหน้า อันนี้ได้รับการตอบรับอย่างอิ่มหมีไปแล้ว เราจะข้ามไป

ส่วนเสาเสาเสา (@saosaosaona) เป็นรายการพอดแคสต์ที่คุยกันเรื่องสถาปัตยกรรม ที่พยายามจะเล่าเรื่องที่เรารู้ ให้กับคนฟังที่ไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้มาก่อน ได้ฟังกันง่ายๆ ย่อยให้ฟังง่ายๆ และเป็นกันเอง

โดยที่เอาจริงๆ แล้ว ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้เท่าไหร่ แต่เป็นคนอยากรู้ เลยส่วนใหญ่จะเป็นแผนกถามในรายการนะ ส่วนคนที่คอยตอบก็จะเป็นโบ๊ท น้ำ โอห์มซะเป็นส่วนใหญ่ โดยมีแนทเต้มานั่งถามอีกคน มีตั้งมาคอยช่วยในบางครั้ง และพี่โอเป็นที่ปรึกษาลับๆ อีกที ทำไมทีมงานมันเยอะจังวะ!

เนื่องจากทีมงานเราเยอะใช่มะ การจะนัดคนเหล่านี้ให้มานั้่งทำอะไรพร้อมกันได้นั้นช่างยากเย็นนัก ปกติเราก็เลยนัดหมายกันมานั่งอัดรายการกันสองอาทิตย์ครั้ง — อัดครั้งละสองตอน จะได้ไม่ต้องนัดกันบ่อยๆ แต่อัดทีนึงก็ล่อไปดึกดื่นเที่ยงคืนทุกที โดยที่ทั้งหมดนี้ทำเอาผลงานล้วนๆ
ยังไม่ได้คิดเรื่องเงินๆ ทองๆ เลย เหมือนมานั่งคุยกันเพื่อบำรุงสมองและหัวใจมากกว่า (แต่ถ้าวันนึงมีสปอนเซอร์ได้เราจะดีใจมาก 5555)

แต่เสาเสาเสาอีพีนี้ต่างออกไป หลังจากที่เรานัดอัดกันปกติใช่มะ ดันมีเหตุที่ทำให้ผมกระเหี้ยนกระหือรือ ไปบุกถึงบ้านของแขกรับเชิญ เพื่อขอสัมภาษณ์ในประเด็นที่ตัวเองกระหายใคร่รู้มากๆ

ไอ้ความใคร่รู้เนี่ยนั่นเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ นึกทีไรก็เสียดายว่าทำไมตอนเรียนกูไม่อยากรู้อยากเห็นนั่นนี่เหมือนอย่างทุกวันนี้วะ หรือกบาลมันเพิ่งเปิดตอนลูกสอง

นั่นแหละ เลยอยากให้ฟัง เผื่อจะชอบอย่างที่ผมชอบเนอะ เอ้า เอาคำนำไปอ่านก่อน

คุณผู้ฟังบางท่านที่โตมาพร้อมๆ กับมานีมานะและผองเพื่อน น่าจะจำฉาก “โรงเลื่อยร้าง” ซึ่งเป็นสุดยอดฉากระทึกขวัญเท่าที่เด็ก ป.6 ในยุคนั้นจะได้มีโอกาสอ่าน ภาพความทรงจำของบรรยากาศโรงเลื่อยร้าง ที่พอหมดสัมปทานก็ปิดตัวลง ปล่อยให้เถาวัลย์พันเกี่ยวและเป็นสวรรค์ของเหล่าตัวโกงในตำราเรียน… ยังคงฝังใจมาจนทุกวันนี้

ย่อหน้าตะกี้คือดักแก่ล้วนๆ

ส่วนเนื้อหาของเสาเสาเสาตอนนี้ เราไปสัมภาษณ์คุณติงลี่ แห่ง “โรงเลื่อยจักรไทยนำแสง” เกี่ยวกับการ “ทำไม้” จากท่อนซุงใหญ่ๆ ที่ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามา จนผ่านกระบวนการกลายเป็นไม้แปรรูปวัสดุก่อสร้างสุดฮิต และยังเอาไปทำนั่นนี่ได้อีกมากมาย จนเราเองก็ตกใจว่าเฮ้ย ทำได้ด้วยเหรอวะ — ได้!

นอกจากนี้แล้วยังมีสาระเรื่องราวเกี่ยวกับไม้ ทั้งชนิด คุณสมบัติ ราคา! (ใช่ เราถามราคาด้วย) แหล่งที่มา กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเทคนิคการดูแลรักษา ฯลฯ เท่าที่ความอยากรู้อยากเห็นของเสาเสาเสาจะพาคุณไปถึง

ขอให้สนุกครับ!

ก็นั่นแหละครับ เชิญฟังเสาเสาเสา หนึ่งในอีพีที่ผมชอบที่สุด “รักเธอเลื่อยไปไม้เปลี่ยนแปลง” ได้ที่นี่เลยครับ

ป.ล.
นอกนั้นที่ตัวเองรับผิดชอบในการจัดรายการเอง ก็เป็นเรื่องการซื้อบ้าน กับเรื่องสถาปัตยกรรมกับขี้… ลองกดฟังกันนะ ในเพลย์ลิสต์รายการเสาเสาเสาบน Spotify