อีกละ เขียนเรื่อง Google+ อีกละ..
Category: ทันสมัยกับเขาบ้าง
แล้วเราเป็นใครในโลกออนไลน์?
ขอเกริ่นก่อนว่า ผมเป็นพวกที่ขี้รำคาญพวกอวดรู้เหลือเกิน
เลยขอเขียนแบบนั้นดูสักครั้ง อยากรู้ว่าอีพวกนักวิเคราะห์นี่มันมองอะไรยังไงกัน 555
ถ้าขี้เกียจอ่านก็กดข้ามไปตอนอื่นๆ เพื่อหาการ์ตูนปัญญาอ่อนได้เหมือนเดิมตามสบายครับ
.
จริงๆ บล็อกตอนนี้ต้องเขียนตั้งแต่เล่น Google+ วันแรก แล้วรู้สึกแวบขึ้นมา
เพราะหลังจากหยอดรีวิวแรก(ของชาติเลยนะ)ไปนิดนึง ก็รู้สึกว่าจะต้องขยายความเพิ่มอีก
แต่ก็ดันดองจนเริ่มเปรี้ยว เลยขอเขียนภาคต่อแบบดิบๆ แบบนี้แหละครับ
ประเด็นที่อยากขยายความก็คือ ขอสำรวจตัวตนก่อนว่าเหล่าสังคมออนไลน์ที่เราสิงสถิตอยู่เนี่ย
มันรู้จักอะไรกะเรา?
Facebook: นี่กูต้องเป็นใคร
ลองสังเกตดูครับ พฤติกรรมที่เว็บสีน้ำเงินแห่งนั้นจูงใจและเอื้ออำนวยให้เราเป็น
ก็คือการบอกว่า “กูเป็นใคร” ไม่ว่าจะ ไม่ว่าจะชอบกินอะไร เที่ยวที่ไหน เล่นอะไร
นับถือใคร ชอบ รัก เกลียด เลือกพรรคไหน และมั่นใจว่าคนไทยจะมั่นใจอะไร
สิ่งเหล่านี้คืออาหารอันโอชะสำหรับเจ้าของเครือข่าย ที่ถึงเวลาแล้วเขาก็นำมาใช้หาประโยชน์
และร่ำรวยจากการรีดข้อมูลส่วนตัวของเราโดยสมัครใจ เอาไปขายโษณาซะงั้น
เราในฐานะผู้ใช้ก็ไม่ต้องไปรู้สึกระแวงหรืออะไรหรอกครับ มึงจะเอาก็เอาไป ขอให้กูได้เลี้ยงหมูก็พอ
(มีฝรั่งบอกว่า วิกิลีกส์เอาความลับมาแจกจนโดนล่า ส่วนเฟซบุ๊กได้ขึ้นปกไทมส์ทั้งที่ขายความลับเรา!)
นอกจากนั้นแล้ว ระยะเวลาที่ผ่านมา ระบบนิเวศในเฟซบุ๊กก็ดันเน่าหนอน
เพราะบรรดาบริษัทห้างร้านก็ดันระดมหลอกคนมากด Like (ฝ่านการตลาดชอบตัวเลขเยอะๆ นี้นัก)
จนข้อมูลส่วนตัวของคุณกลับกลายเป็นอะไรไม่รู้ นี่กูไปชอบบ้านจัดสรรของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
แต่พักหลังทางคุณซักกะเบิกและทีมงานก็ได้เร่งแก้ปัญหานี้ด้วยการออกกฎเหล็กมาแปดข้อแล้ว
เดี๋ยวจะรอดูว่าได้ผลแค่ไหน และสังคมอุดมโฆษณาแห่งนี้จะกลับมาสงบสุขอีกครั้งหรือไม่
Twitter: ที่จริงแล้วกูเป็นใคร
“ในทวิตเตอร์ เราปกปิดตัวตนของตัวเองได้ไม่นานหรอก” ใครหลายคนก็กล่าวแบบนี้
ซึ่งทวิตเตอร์มันก็เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ ครับ มันไม่มีอะไรให้เล่นอีกแล้วนอกจาก 140 ตัวอักษรนั่น
คุณนึกอะไร ชอบอะไร จะสร้างภาพยังไง พอทวีตไปสักพันทวีตมันก็ปกปิดตัวตนคุณไม่อยู่อยู่ดี
ด้วยระบบการ Follow ที่คุณสามารถแอบรักและติดตามความเคลื่อนไหวของคนอื่นได้
โดยเขาไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักเรา มันทำให้ทั้งเขาและคุณต่างก็แสดงความเป็นตัวเองออกมาได้
ฉะนั้นประสบการณ์การใช้งานทวิตเตอร์ของแต่ละคน จึงมีลักษณะที่ไม่เหมือนกันเลย
ดังนั้นไม่จำเป็นต้องพยายามมานั่งหานิยามแบบที่ได้ยินบ่อยๆ ว่า “คนในทวิตเตอร์เป็นคนยังไง”
เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ในสังคมไหน มีความสนใจอะไร แสตนด์จะย่อมดึงดูดแสตนด์ด้วยกันครับ
ไม่เชื่อก็ลองกดดูไทม์ไลน์ของคนที่เราไม่รู้จักเลย แล้วดูสิครับว่าคนในทวิตภพของเขาเป็นยังไง
สนุกดีนะครับ ผมเคยหลุดไปในวงการที่คุยกันแต่เรื่องปลากัด ปลาตู้ โคตรเจ๋งเลย
Google+: คนอื่นมองเรายังไง
ผมคงไม่มานั่งพูดกันแล้วนะว่ามันลอก หรือมันทำมาฆ่า Facebook หรืออะไร
เพราะภายใต้หน้าตาที่ออกจะคล้ายกันนั้น .. วิธีคิดมันคิดกลับหัวกันเลย
ความเจ๋งมันอยู่ที่ Circles ครับ
อย่างที่เขียนไว้ในตอนก่อนว่านี่แหละของเด็ด แล้วก็ไม่ได้ขยายความต่อว่ามันเด็ดยังไง วันนี้จะมาว่ากัน
ก่อนอื่นต้องแนะนำอีเจ้า Circles ให้คนที่อาจจะยังไม่ได้ลองเล่น Google+ ซะก่อน
มันคือระบบที่หน้าตาใช้ง่าย เอาไว้ให้เราจับลาก “คนรู้จัก” ลงไปอยู่ในหมวดหมู่ต่างๆ
ซึ่งมันสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางสังคมของเราพอดี ที่เวลานึกหน้าเพื่อนขึ้นมาสักคน
มันจะมีสถานะพ่วงมาด้วยเสมอ ผมก็เป็น คุณก็เป็น ไม่เชื่อลองสักสองสามสี่ห้าตัวอย่าง:
- ไอ้บิ๊ก เพื่อนสมัยเรียนมัธยม ที่ตอนนี้กลับมาเจอกันและอยู่ในบอร์ดเดียวกันด้วย อาชีพทำเว็บ
- ไอ้ตั๊ก ที่เป็นน้องมหาลัย แต่หลังๆ มันมาเที่ยวบ้านบ่อย แถมเป็นแก๊งกินที่ตามไปกินทุกที่
- ไอ้แก้ว ที่รู้จักกันตอนทำงานที่ทำงานเก่า จนตอนนี้ก็ยังมาอยู่ที่ทำงานใหม่ด้วยกัน และเป็นแก๊งหมา
- อีแชมป์ คนทำเว็บ วาดการ์ตูน เขียนหนังสือแนวจิกกัด รู้จักกันจากในเน็ตก็เพราะความจิกกัด
จนพอมาเจอตัวจริงก็พบว่าเป็นชาวลาดพร้าวเหมือนกัน - เจ๊เพชร รู้จักกันในเน็ตแถมยังไม่เคยเห็นหน้าตากันเลย รู้แต่ว่าเจ๊กวนตีนจนน่าคบมาก และชอบหมา
- ฯลฯ (รายนามบุคคลและสมาคมที่ถูกพาดพิงข้างบนนี้ ดันมีตัวตนอยู่จริงทั้งสิ้น)
เห็นไหมครับว่ามันมีบางอย่างที่กลุ่มคนที่กล่าวมาข้างต้นมีอะไรบางอย่างที่ “ทับซ้อน” กันอยู่หน่อยๆ
นั่นคือใน 1 คนอาจจะโคจรมาข้องแวะกับเราในฐานะ “สมาชิกร่วมวงการ” อะไรสักอย่าง
อาจจะเป็นวงใดวงหนึ่ง หรือมากกว่า 1 วงก็ได้ เช่นแก๊งกิน แก๊งเตะบอล แก๊งเที่ยว แก๊งเพื่อนสมัยเรียน ฯลฯ
กรุณาเปิดเพลง “เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ” ประกอบก็จะยิ่งเห็นภาพว่าวงโคจรมันมีอยู่จริง จริงๆ
ในเมื่อวงมันมี แต่เราไม่เคยแปลงมันออกมาเป็นรูปธรรมแบบจับต้องได้ซะที
จน Google+ มันคลอดออกมาพร้อมกับภาพแรกที่เราเห็นแล้วก็จะงงว่า ไอ้ Circles นี่มันเชี่ยไรวะเนี่ย
มันคือ Circles อย่างที่เห็นในภาพนั่นแหละครับ แปลเป็นไทยว่า “แวดวง” (ฟังทีแรกจั๊กจี๋มาก แต่เริ่มชินละ)
ความที่มาถึงปั๊บ เราต้องไปเคลียร์กับตัวเองก่อนว่าจะจัดความสัมพันธ์กับคนนั้นคนนี้อย่างไร
อันนี้แหละที่ทำให้วิธีคิดของ Google+ นั้น “กลับหัว” กับทั้ง Facebook และ Twitter โดยสิ้นเชิง
เพราะ Facebook และ Twitter นั้นเรียกเพื่อนเราเป็น List และไม่ถูกขับเน้นเป็นสำคัญนัก
คือจะมีสักกี่ครั้งที่คุณได้ใช้การคุยกับเพื่อนเฉพาะลิสต์ที่ว่า? นอกนั้นก็เป็นระนาบเดียวกันหมด
โอเค ใน Facebook มีระบบ Groups ที่มองคล้ายกับเว็บบอร์ดที่ถึงเวลาก็ไปสุมหัว “ในนั้น”
แต่กับ Google+ นั้นไม่ต้องเข้าไปที่ไหน แต่การพูดทุกคำออกมาจะใช้การเจาะจงว่าเราพูด “กับใคร”
ผมเลยนับถือสถาปนิกระบบตรงนี้มากว่าเขาคิดได้ไงวะ พลิกกลับหัวจากระบบที่เราชินได้ โคตรเก่งเลย
ทีนี้มาต่อกันด้วยหัวข้อที่เขียนถึงในวันนี้ ว่า “คนอื่นมองเรายังไง”
ถ้าเปรียบเทียบกับใน Facebook และ Twitter การจัดเพื่อนเข้า List นั้นเพื่อความสะดวก
แต่สำหรับ Google+ มันมีมากกว่านั้นครับ ลองสังเกตดูว่าที่ผ่านมา Google ขาดอะไร?
Google มีคลังข้อมูลที่มีปริมาณเยอะที่สุดในโลก
Google มีสารพัดโปรแกรมระดับเทพ ที่พลิกระบบการคิดจากโปรแกรมอ้วนๆ ที่เรามี ไปอยู่บนเว็บ
Google มีระบบหุ่นยนต์และอัลกอริทึมมากมายที่ใช้วัดระดับความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เก๋าที่สุดของโลก
ฉลาดที่สุดในโลกขนาดนี้ แต่กลับพลาดท่าตรงที่เสือกไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์!
เรียกได้ว่า Google สามารถ Search หาอะไรก็เจอแม่งทุกอย่าง
แต่กลับหาใจเธอไม่เจอ (ฮิ้วววว)
แต่ในที่สุด ตอนนี้พอมี Google+ ขึ้นมาปั๊บ
มันก็เริ่มจะหาใจเธอเจอแล้วครับ
ก็จากการที่หลอกใช้พวกเราในฐานะ User (ตอนนี้แค่กลุ่มเล็กๆ แต่ต่อไปก็ทั้งโลก)
ให้ระบุ Metadata ต่างๆ ที่พ่วงมากับทุกคน โดยไม่ต้องอวยสร้างภาพตัวเองแบบใน Facebook
เพราะแทนที่จะให้เราบอกใครๆ ว่าเราเป็นใคร แต่คราวนี้คนอื่นจะบอกเราเองว่ามึงเป็นใคร!
ก็ด้วย Circles นี่แหละครับ
และฐานข้อมูลมนุษย์นี่แหละครับที่กูเกิลกำลังเริ่มเปิดฉากเพื่อครอบครองต่อจากฐานข้อมูลภายนอก
แบบเดียวกับที่ไอน์สไตน์คุยกะซิกมุนด์ ฟรอยด์ ว่าตูเนี่ยรู้หมดทั้งจักรวาล แต่ไม่รู้เรื่องในสมองคน
บัดนี้ไอน์สไตน์ที่เกิดใหม่มาในคราบหุ่นยนต์ มันเริ่มรู้แล้วครับ และเฟสต่อไป มันก็จะเริ่มครองโลก
ตัดจบ!
Google+ : บวกแม่งเลย
บล็อกตอนนี้จะเขียนสั้นๆ ดูบ้าง ติดนิสัยเขียนทีไรยาวทุกที
เรื่องของเรื่องคือได้ลองเล่น Google+ แล้วครับ
สั้นๆ สำหรับคนที่ไม่รู้จักว่า Google+ มันคืออะไร:
มันคือ Facebook ยี่ห้อ Google นั่นเองครับ จบ
แต่ถ้ายาวๆ มันก็คือรวมบริการที่กูเกิลมีอย่างกระจัดกระจายเต็มไปหมดไว้เป็นก้อน
คือคงรู้สึกแล้วว่าถ้าปล่อยให้กระจายอยู่แบบนี้ รับรองตายแน่นอนครับ
เพราะคนเล่นเน็ตเดี๋ยวนี้เขาไม่ได้เข้าถึงเนื้อหาผ่านกูเกิลเป็นหลักเหมือนแต่ก่อนแล้ว
แต่เราจะเจอคลิปเพลงคันหู คลิปนั่นคลิปนี่ หรืออะไรฮาๆ ผ่านเพื่อนก่อนเสมอ
ยุคนี้จึงเป็นยุคของ Facebook ไงครับ เพราะมันสนองตัณหาของมนุษย์ขาเสือกได้ดียิ่ง
(อ้ะ ขอพ่วงเครดิตให้ Twitter ด้วยก็ได้ เพราะผมเกลียดความเยอะของ Facebook)
ในขณะที่ชาวบ้านเขา Social กันตูมตูม แต่กูเกิลเองดันจุดสังคมผู้ใช้ของตัวเองไม่ติด
Google Wave เราก็อ่านออกเสียงว่า “กูเกิลว้าเหว่” และเจ๊งไป
Google Buzz ก็มาผิดรูปผิดรอย เพราะดันเสียบเข้าไปในทุกบริการจนคนรำคาญ ก็ดับอีก
จนบิ๊กบอสของกูเกิลเองต้องออกมารำพันว่า “ที่ผ่านมาเราแพ้ Facebook ในสนามนี้แล้ว..”
แต่ก็ยังไม่ยอมครับ เพราะสาวกยังเยอะอยู่ทั่วโลก ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ได้ตายห่าจริงๆ แน่
Google+ จึงมา (อ่านรายละเอียดได้ใน Blognone ครับ)
ผมได้รับ Invite เมื่อเช้าจาก @koojane และ @icez ก็เลยกดเข้าไปเล่น
และทำตัวเหมือนสาวกท่านอื่นๆ คือเล่นมันซะทุกปุ่มทุกอย่าง ไล่มันทุกเมนู
(ค้นพบว่าพฤติกรรมร่วมของคนที่ใช้กูเกิลจะเป็นแบบเดียวกันนี้แหละครับ)
และก็เลยเปลี่ยนทัศนคติที่ว่า “แม่งแป้กแหงๆ” กลายเป็น “เฮ้ย แม่งเจ๋งว่ะ”
ต่างจาก Google Wave ที่เจ๊งไปเพราะแม้จะเจ๋งแต่นึกไม่ออกว่าจะใช้ทำอะไีรกะมัน
แต่ Google+ นี่ชัดเจนว่าใครที่วนเวียนอยู่ในโลกแห่งกูเกิลอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องเกร็งครับ
วันหนึ่งมันจะมาเยือนคุณเอง อย่างเนียนๆ แน่นอน เพราะอุปกรณ์พี่แกเยอะเหลือเกิน
ยาวละ พอๆ ขอสรุปปิดท้ายหน่อย
คือ “นิสัยของคนใช้ Google” เนี่ย จะต่างจากคนใช้ Facebook ครับ
อย่างคนใช้โทรศัพท์แอนดรอยด์ จะเห็นได้ชัดเลยว่าวิบากกรรมแรกที่เจอแน่นอน
ก็คือการนั่งเรียง Contact List ที่เคยใช้อย่างสะเปะสะปะตอนใช้ Gmail
กลายเป็นชื่อนามสกุล ใส่รูปเริปอะไรเรียบร้อย เหนื่อยคืนนึงแล้วสบายตลอดชีวิต
นี่ก็เช่นกันครับ Google+ มันมีระบบ “Circles” หรือวงเพื่อน (ไม่รู้มีภาษาไทยยังนะ)
พอเข้าไปปั๊บ ภารกิจแรกที่ต้องทำก็คือ เวลามีเพื่อนโผล่มา ก็จับมันเข้าวงก่อนเลย
แก๊งเพื่อน แก๊งที่ทำงาน แก๊งหมา แก๊งแมว แก๊งมัธยม แก๊งสาวตึง อะไรก็ว่าไป
เสร็จแล้วเวลาเราโพสต์อะไรออกไป มันจะชี้เลยว่าจะแชร์ลงวงไหน
ดูเหมือนจะยุ่งยากนะครับ แต่ที่จริงไม่เลย เพราะหน้าตาการใช้งานของมันง่ายโคตรๆ
และแนวคิดมันกลับหัวกับการรับแอดเพื่อนสะเปะสะปะใน Facebook Groups
หรือแอดก็ได้ไม่แอดก็ได้ ไม่ค่อยสนใจ อย่างระบบ Lists ใน Twitter
ซึ่งโดยส่วนตัวนิสัยผมก็เข้ากับพฤติกรรมชอบจัดระเบียบอะไรแบบนี้พอดี
ยิ่งไปโผล่ในอุปกรณ์อื่นๆ (อาทิ มือถือสารพัด) ที่ถูกวางแผนไว้อย่างดีแล้วก็ยิ่งหรูหรา
แถมการออกแบบให้ใช้ง่าย และทุกอย่างดูฉลาดยืดหยุ่นจนไม่มีข้อสงสัยในทุกๆ รายละเอียด
(เคยเจอไหมที่ใช้บางเว็บแล้วงงว่าเฮ้ยแม่งใช้ไงวะ ผมนี่แหละคนนึงที่เซ็ง Facebook มาก)
ซึ่งความง่ายโคตรๆ นี่แหละ ที่เป็นจุดขายสไตล์กูเกิลตลอดมา
อย่างที่ชอบมากก็คือไอ้ก้อนตัวเลขสีส้มๆ ที่เอาแจ้งเตือนตรงมุมจอ ที่เหมือนจะไม่มีอะไร
แต่พอกดปั๊บ เราสามารถ “ทำอะไรกับมันก็ได้” ตั้งแต่จัดเพื่อน ดูรูป อ่านหรือพิมพ์คอมเมนต์ ฯลฯ
แม่ง เหยดดดดด เหยอออออออ (ไอ้เหยอนี่คืออะไรวะ อ่านออกเสียงแล้วฟังดูดี งั้นไม่ลบ)
ดังนั้น Google+ จึงชิมแล้วถูกใจและยินดีบอกต่ออย่างชื่นชมครับ!
ป.ล.
พอได้ลองแล้วก็เลยลองทำอะไรเป็นคนแรกในประัติศาสตร์ดู
นั่นคือการวาดรูปขี้ครับ (ก็ดันมีคนมากด +1 ซะเยอะเลยนะ )
ป.อ.
ตอนนี้มันยังไม่เปิดสาธารณะ แต่ใช้ระบบขายตรง หาดาวน์ไลน์กัน
เห็นว่าเมื่อเช้าเราสามารถ Invite ต่อกันได้แหลกเลย
แต่ตะกี้เพิ่งมีประกาศปิดการ Invite ชั่วคราว เพราะสาวกคงเยอะเกินไปครับ
คิดว่าอีกไม่นานเดี๋ยวก็เปิดใหม่อีกที เพราะมันคงไม่กั๊กไว้จนแห้งตายเหมือน Wave ละ
ป.ฮ.
ลองเล่น Hangouts ในนั้นละ มันคือ Video Chat แบบกลุ่มครับ
ใช้ง่าย หน้าตาสะอาดสะอ้านสมชื่อกูเกิล และที่สำคัญคือเร็วจี๋!
แนวคิดก็เหมือนเดิมคือกดเริ่มปั๊บ แล้วก็เลือกว่าจะคุยกะเพื่อน “วง” ไหน
คิดดูละกันว่าต่อไปถ้าไอ้ Google+ นี่เกิดขึ้นมาจริงๆ รับรอง CamFrog เจ๊งแน่ๆ
(แก้ไขเพิ่ม: นางแก้ว @kejuliso ก็เป็นคนแรกของโลกที่เต้นเพลงคันหูผ่าน Hangouts ครับ)
.
//เขียนเพิ่มในบ่ายวันเดียวกัน:
ผมเชื่อเสมอว่า ของมันจะดีเมพแค่ไหน ถ้าไม่มีคนใช้ หรือต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จากที่ชิน ก็ดับ
แต่สำหรับ Google+ เนี่ยมันร้ายกาจกว่านั้นครับ เพราะมันหาทางออกให้กับปัญหาที่เคยเจอได้แล้ว
นั่นคือฤทธิ์เดชของไอ้เม็ดแจ้งเตือนสีส้มนี่ละครับ ..แม่งเล่นโผล่ทุกเว็บในเครือกูเกิลเลย!!
ดังนั้นจึงกลบจุดอ่อนของ Wave ที่ใครจะเล่นต้องปีนกระได หรือของ Buzz ที่เยอะเกินจนน่ารำคาญ
ตรงที่ว่า กูขอมีตัวตนแค่เม็ดสีส้มน่ารักในแถบสีเทาดำก็พอ ใครใคร่กดดูก็กด ใครไม่สนก็เชิญ
ตรงนี้จึงแก้ปัญหาทั้งเรื่องความเยอะและน้อยไปได้ลงตัวมากครับ มึงคิดได้ไงเนี่ยวิธีนี้
เรามาหยุดละเมิดลิขสิทธิ์กันเถอะครับ (กรี๊ด หล่อมาก)
บล็อกตอนนี้เขียนด้วยความกระแดะ
ก่อนอื่นกรุณาปรับฐานนิดนึง ให้อ่านบนพื้นฐานที่ว่า “อีนี่กระแดะ” นะครับ
คืออยากขยายความอีกหน่อยจากที่ได้ไปโผล่ในรายการ “ประกาศภาวะฉุกคิด” ช่อง TPBS เมื่อวันก่อน
อ้ะ ดูคลิป
(พวงมาลัยดอกดาวเรืองนั่นทางทีมงานเอามาถวายจริงๆ นะครับ ผมไม่ได้ใส่ไปเอง)
ส่วนตัวยังไม่ได้ดูคลิปนี้ (ใครจะไปบ้านั่งดูตัวเองวะ ไม่เห็นจะมีอะไรน่าอภิรมย์เลย)
เลยไม่รู้เหมือนกันว่าตอนถ่ายที่คุยกันไปนานๆ แล้วทางรายการจะตัดส่วนไหนออกบ้าง
แต่ประเด็นตอนคุยกันก็คือผมพยายามจะบอกอยู่เรื่องนึง คือ “ผมก็ยังใช้ของเถื่อนอยู่นะครับ”
ผมจึงไม่- และไม่ควรเป็นบุคคลตัวอย่างที่จะถูกดึงไปให้พูดว่าตัวเองนี่บริสุทธิ์สัมบูรณ์สิ้นดี
ทีนี้ถ้าถามใจจริงๆ ล่ะ?
ผมสามารถตอบได้เต็มปาก ว่าตัวเองอายทุกครั้ง ที่บอกใครๆ ว่าใช้โปรแกรมเถื่อน
ถ้าเป็นเมื่อก่อนสมัยที่ WindowsXP ออกใหม่ๆ นี่.. โอ้โห ถึงไหนถึงกัน กี่แคร็กๆ มีหมด
ก็เพราะตัวเองเป็นเด็กเนิร์ดบ้าคอม ที่ปนในหมู่เพื่อนที่เป็นมนุษย์ปกติ
แล้วก็กลายเป็นไอ้ตัวที่เวลาใครมีปัญหาเรื่องคอม เรื่องโปรแกรม ไวรัสเอยอะไรเอย
หรือแม้แต่ต้องการหาเพลง MP3 ไม่ว่าจะเป็นใหม่ๆ หรือเก่าๆ หายากฝุดๆ
ไอ้แอนจะถูกเรียกมาใช้งานหรือขอก็อปของดีที่มีอยู่ ด้วยความเต็มใจทั้งหมดเสมอมา
แต่พอมีสังคมอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นมา ไอ้คำว่า “หายาก” ก็หายไปจากสารบบครับ
เราสามารถหาสิ่งที่เคยหายากหาเย็นแม่งทุกอย่างได้ด้วยการคลิกแค่ไม่กี่ครั้ง
แรกๆ ก็รู้สึกดีใจที่ได้เจอของที่เคยหายากหลายอย่าง ก็บ้าสะสมตามประสาเด็กเนิร์ดที่ดี
ทำไปทำมา พอมันชินเข้า ก็เริ่มรู้สึกขึ้นมาแว้บนึงว่า กูทำเหี้ยอะไรอยู่วะ
เหมือนตื่นจากภวังค์ของเด็กเนิร์ดน่ะครับ นึกออกไหม
มองฮาร์ดดิสก์และกองซีดีของตัวเอง มีแต่โปรแกรมนั้น เพลงนี้ (พอดีไม่เล่นเกมไม่งั้นคงมี)
ทุกอย่างมีไว้เผื่อว่าวันนึงถ้ามีเพื่อนอยากได้ เราจะเอาไอ้ที่เตรียมไว้ไปถวายให้ถึงที่ และได้รับคำชม
จบแล้ว แค่นี้เอง วนลูป
พออยู่ในสังคมออนไลน์ไปนานๆ ได้เจอคนนู้นคนนี้ที่เขาซีเรียสกันเรื่องลิขสิทธิ์
ก็เลยซึมซับเข้ามาในหัววันละหยดสองหยด.. ว่าเออ ไอ้ที่กูทำอยู่นี่เข้าขั้นเหี้ยเลยนะ
แต่ระยะนั้นก็ยังรู้สึกว่า “มันจำเป็น” ที่จะต้องใช้ของเถื่อนเหล่านี้ ก็เรายังเรียนอยู่เลยนี่นา
แล้วไอ้โปรแกรมที่จำเป็นต้องแคร็กเนี่ย ก็ไม่มีในระบบปฏิบัติการอื่นที่เขาเห็นว่าดีงามเสียด้วย
ก็เลยใช้ต่อไป แต่มีหลืบนิดๆ ละว่าเออ นี่กู “ละเมิด” อยู่ แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะมันจำเป็น
แต่ต่อมาพอเริ่มมีกระแสของเบราว์เซอร์ที่ฟรีและดีอย่าง Firefox ปรากฏขึ้นมา
ก็ได้เห็นการรณรงค์กันยกใหญ่ของกองทัพฟรีแวร์สารพัดสารเพ
แต่ละโปรแกรมดังๆ ก็ทยอยกันคลอดออกมาเพื่อบอกโลกว่าเฮ้ย มึงใช้ของฟรีก็ได้นะ ไม่ต้องแคร็กหรอก
ตอนนั้นเด็กเนิร์ดอย่างผมเลยไปติดเว็บแจกของฟรีอย่าง filehippo.com อย่างบ้าคลั่ง
(เห็นมะ ก็ยังไม่หนีเรื่องโปรแกรมคอมพิวเตอร์อยู่ดี)
พอมารู้ตัวอีกทีผมก็เปลี่ยนใช้โปรแกรมฟรีเหล่านั้นทีละหน่อยๆ จนเต็มเครื่องแล้วครับ
หรือตัวไหนที่ไม่ฟรีก็ซื้อ ไม่ซื้อก็ได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เช่นช่วงโปรโมชันที่เขาแจก SnagIt เวอร์ชันตกรุ่นแล้วฟรีๆ ผมก็เลยโหลดมาซร้วบซะ
แล้วในคอมมูนิตี้ประจำอย่างบอร์ดฟอนต์ก็มีหนึ่งกระจู๋ที่เอาไว้คุยกันเรื่องโปรแกรมฟรีโดยเฉพาะ
(กดไปดูหน้าหลังๆ หน่อยนะครับเพราะมีมาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว ในฟอนต์เราคุยกันยาว)
รายชื่อโปรแกรมฟรีที่ใช้งานแทนของเถื่อนได้สนิท
โปรแกรมดูภาพและตกแต่งภาพเบื้องต้น (ของเถื่อน: ACDSee)
จงเปลี่ยนเป็น FSViewer หรือ Picasa เสีย
นั่นเพราะอีของเถื่อนนั้นกากและอืดมากครับ เลิกใช้ตั้งแต่มัธยมแล้ว
แถม FSViewer และ Picasa นั้นก็แจ่มจรัสจนสงสัยว่ามีเหตุผลอะไรทำให้ไม่ใช้วะ
โปรแกรมจับภาพหน้าจอ
จริงๆ มีหลายตัว แต่ที่ยุให้แฟนใช้และสร้างความกรี๊ดกร๊าดได้ทุกครั้งที่มีคนมายืมคอมเล่น
ก็คือโปรแกรม PrtScr ครับ ลองกดเข้าไปดูคลิปสาธิตได้ แล้วจะกรี๊ดลงไปแถกดิ้นแถกงอ
โปรแกรมแปลงเอกสารเป็นไฟล์ PDF (ของเถื่อน: Adobe Acrobat Pro)
ถ้าไม่ได้ทำเอกสาร PDF สุดอลังการที่ต้องทำอะไรซับซ้อน แนะนำ doPDF ครับ
เพราะแค่สั่งพรินต์แล้วเลือกเครื่องพิมพ์เป็น doPDF ก็จบละ ใช้กะภาษาไทยได้ดีด้วย
ส่วนโปรแกรมฟรีที่เอาไว้เปิดอ่าน PDF ผมยกให้ Google Chrome นี่แหละ
(เมื่อก่อนจะรัก SumatraPDF มาก แต่มันเหลืองไป พอโครมทำได้ปั๊บเลยเลิกคบทันที)
โปรแกรมพิมพ์งาน
ผมใช้ Google Docs จนชินแล้ว อันนี้ใช้ในชีวิตประจำวันมานานมาก
พอที่จะบอกได้ว่ามันสะดวกดีจริงๆ จนต้องเยลให้ 3 ครั้งหลังใช้
เอาแค่ไม่ต้องมานั่งกด Save (เป็นสิ่งที่ทุกคนเคยร้องไห้ตอนไฟดับมาแล้ว) เท่านี้ก็เปรมละครับ
ส่วนชุดโปรแกรมอื่นๆ อย่าง LibreOffice นั้นผมใช้แล้วไม่ถูกชะตา แม่งช้า
โปรแกรมดูหนังฟังเพลง
อันนี้คงคุ้นกันดี ผมใช้ KMPlayer และบางครั้งก็แว้บไป Foobar2000 แต่ไม่ค่อยชอบ
(ทุกวันนี้เลิกฟัง MP3 เถื่อนแล้ว เลยไม่ได้สนใจโปรแกรมฟังเพลงเท่าไหร่)
โปรแกรมดูฟอนต์
ผมใช้ NexusFont คู่กับ FontXplorer ครับ แนะนำอย่างยิ่งโดยเฉพาะตัวแรก สวยเกาหลีมาก
โปรแกรมทำเว็บ
เคยใช้ Dreamweaver ก็เคยสะดวกแต่พอรู้สึกละอายเลยใช้พวก Notepad แทน
จนตอนนี้มาจมอยู่กับ Notepad++ ครับ มันส่งไฟล์ขึ้น FTP ได้เลย ชอบ
(ส่วนโปรแกรม FTP ก็ใช้ FileZilla มานานละ ไม่สวยแต่ก็พอได้)
โปรแกรมกราฟิก
งานเล็กงานน้อยที่เป็นงานกราฟิก ผมยกนิ้วให้ PhotoScape ครับ
เคยเขียนบล็อกเมื่อนานมากแล้ว (เดี๋ยวซ่อมบล็อกเสร็จค่อยใส่ลิงก์) และยังยืนยันว่ามันดีจริงๆ
(ขอขี้โม้หน่อย ว่ารู้จักมาจากน้องมิตรในฟอนต์ แล้วเอามารีวิวลงบล็อกนี้จนมีคนรู้จักอีกเยอะแยะ)
ทุกวันนี้เวลาผมนั่งแต่งภาพที่ลงในเว็บเฟล ก็จะใช้ PhotoScape นี่แหละ มันทำได้ครบสุดๆ นะ
แต่ถ้าขี้เกียจมากก็ใช้โปรแกรมออนไลน์ชื่อ Pixlr Editer บนเว็บ เซฟลง Flickr ได้เลยด้วย!
ส่วนงานใหญ่ ผมยังใช้ Adobe ต่างๆ ที่เป็นของเถื่อนอยู่ครับ คือมันหาอะไรแทนไม่ได้จริงๆ
คนที่ทำงานกราฟิกจะรู้ว่ามันไม่ใช่แค่ฟีเจอร์กากๆ แต่ Photoshop มันเมพจนต้องขโมยใช้
นับดูตอนนี้ ในคอมผมมีเพียง Adobe CS5 เท่านั้นที่ยังใช้ของเถื่อนอยู่ และละอายจริงๆ ครับ
พูดเหมือนกระแดะ แต่ผมละอายจริงๆ ทั้งนี้ก็ได้เจรจาหว่านล้อมกับเมีย(ผู้ถือเงิน)สำเร็จแล้ว
ว่าอีกไม่นานเราจะซื้อของแท้ใช้กันให้ได้ มันเหลือตราบาปอยู่จุกเดียวเองนะ
ระบบปฏิบัติการ
ใช้ Windows 7 แท้จ้ะ ไอ้นี่คงดีที่สุดแล้วมั้ง (ถ้าจะซื้อโน้ตบุ๊กตัวต่อไปคงไม่ใช้แมคแล้วล่ะ)
ฯลฯ ตอนนี้นึกได้เท่านี้
นี่อาจเป็นเรื่องธรรมดาของใครหลายคนที่เข้ามาอ่าน แต่กับอีกหลายคนมันเป็นเรื่องกระแดะ
ผมตั้งใจบอกคนกลุ่มหลังว่าเฮ้ย มันทำได้จริงๆ นะ โปรแกรมมันไม่ใช่ไม่ดี แค่เราไม่ชินเท่านั้นแหละ
ดังนั้นถ้าใครยังใช้อะไรเถื่อนๆ อยู่ก็เปลี่ยนมาใช้ของแท้เถอะครับ ไม่ยากหรอก
แตต้องเริ่มละอายก่อนเท่านั้นเอง ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่นี้ ไม่ว่าจะด้วยข้ออ้างใดๆ .. “มันผิด” นะ
ป.ล.
เขียนไลไปเรื่องโปรแกรมคอมอย่างเดียวได้ไงวะเนี่ย
ทีแรกกะจะพูดเรื่องการ์ตูนเถื่อน พอดีวันนี้ทวีตคุยกับหลายๆ คนแล้วรู้สึกได้ถกเถียงกันหนุกดี
ส่วนตัวผมนั้นที่ยังเหลืออ่านออนไลน์คือเรื่อง OnePiece อยู่เรื่องเดียว นอกนั้นรอรวมเล่ม
ที่เขียนบล็อกขึ้นมาตอนนี้ก็เพื่อจะเตือนตัวเองว่าต่อไปนี้จะไม่อ่านแล้ว รอรวมเล่มอย่างเดียวละกัน
ป.อ.
การอ่านเถื่อนแล้วซื้อรวมเล่มไม่ได้ช่วยอะไรนะครับ เพราะพฤติกรรมแบบนี้ก็ยังทำลายวงการอยู่ดี
เหมือนกับพวกที่มีเงินซื้อมือถือแพงแต่โหลดแอปเถื่อน อาจจะอ้างว่า “ถ้าชอบแล้วเดี๋ยวกูก็ซื้อ”
แต่เชื่อเถอะครับว่าทุกครั้งที่คุณหนับหนุนของเถื่อน เจ้าของลิขสิทธิ์เขาไม่มีทางดีใจหรอก
ดังนั้นถ้าเมื่อใดที่คุณอ่านเถื่อนก็จงตระหนักไว้สักนิดว่า “กูกำลังละเมิดเขาอยู่”
แล้วหลังจากนั้นจะคิดได้ จะเลิกหรือจะทำต่ออะไรก็แล้วแต่ แต่ให้รู้ว่าผิด ไม่ใช่ไม่ผิด หรือมีข้ออ้างดีๆ
ส่วนมากปัญหาในบ้านเรามันเกิดจากโจรทั้งหลายต่างมีเหตุผลที่ดีที่แถจนน่าฟังทั้งนั้นแหละครับ
ป.ฮ.
เอ้อ.. แต่ผมยังเช่าการ์ตูนอ่านอยู่ว่ะ เออ อันนี้หยุดไม่ได้จริงๆ
แม่งเขียนมาตั้งนานเสือกตายตอนจบ เวรจริงกู
บันทึกรายงานสด WWDC 3310!!
ในยามที่ทุกคนกำลังพูดถึง iPhone 4 กัน
เราเลยมาเกรียนบนทวิตเตอร์กะ @tpagon และผองเพื่อนซะเลยครับ
เชิญอ่านผ่านๆ และเบือนหน้าแหนงหนีโดยพลัน..
- @iannnnn: @tpagon Nokia 3310 รุ่นใหม่นี้สามารถเล่นเกมงูได้โดยไม่ต้องใช้แฟลช โอ้วแม่แจ้ว #WWDC3310
- @tpagon: @iannnnn แถมยังมีระบบกันสะเทือน ปาหัวหมาแตกอีกด้วย #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon เหลือเชื่อ! ปาหัวหมาแตก แต่ 3310 ของเราไม่แตก! ทำตกน้ำแม่งก็ไม่เจ๊ง อุตส่าห์ทำหายเดี๋ยวก็เจอ มึงจะทนไปไหน! #WWDC3310
- @gunmano: @iannnnn รอดูโนเกียเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่สนับสนุนระบบ sms ครับ!
- @iannnnn: @gunmano โอว เทคโนโลยี SMS นี่ล้ำมากครับ สามารถส่งข้อความสั้นได้ถึง 140 ตัวอักษรในครั้งเดียว!!! #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon เท่านั้นยังไม่พอ คุณยังสามารถแต่งเพลงเสียงริงโทนเองได้ด้วย เคยลองกันแล้วใช่มะล่าาาาาา #WWDC3310
- @tpagon: @iannnnn แถมริงโทนสองสามตัวโน๊ตนั้นยังถูกพี่บอยด์เอาไปแต่งเพลงให้บุรินทร์ร้องได้ ด้วย เทพ #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon เท่านั้นยังไม่พอ มีหน้ากากจากจีนมาให้เปลี่ยนได้ตามสไตล์คุณเป็นพันๆ แบบ และมากขึ้นเรื่อยๆ (บนจอมีกราฟสูงชัน..) #WWDC3310
- @tpagon: @iannnnn ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่สูงถึง 80% ทำให้ Nokia 3310 เป็นสุดยอดแห่งสมาร์ท..(กระดากปาก)โฟนท่ีแท้จริง!! #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon @mcsc โอว ทุกคนจะได้สัมผัสการออกแบบ Wallpaper ของตัวเองด้วยการวาดทีละจุด! ถ้าวาดไม่เป็นก็โหลดใน AppStore โลด! #WWDC3310
- @ipats: @tpagon @iannnnn ด้วยเกมงูที่สุดฮิต สามารถทำให้ท่านเพลิดเพลินกับยามว่างที่ไร้ค่าของท่านได้ไร้ค่ายิ่งขึ้น #WWDC3310
- @iannnnn: พี่น้องครับ ขณะนี้แท็ก #WWDC3310 ของเรากำลังขึ้น Trending Topics ประจำถนนลาดปลาเค้าแล้ว! (ใครจะมาเกรียนแข่งกะมึ้ง)
- @tpagon: @iannnnn รูปทรงเครื่องที่สวยงามได้ถูกเผยออกมาแล้ว! พร้อมกับหน้าจอสตาร์ทอัพที่วิจิตรเกินห้ามใจ!!! http://bit.ly/cQzFii #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon นะ.. นั่นมันเครื่องที่หลุดมาจาก Gizmodo นี่นา!! #WWDC3310
- @norasama: @tpagon @iannnnn @ipats เอาบ้าง – ทางเราขอเชิญผู้ผลิตหน้ากากโทรศัพท์มือถือ พันธมิตรแนบแน่นจากจีนแดงและสำเพ็งขึ้นมาพูดต่อ #WWDC3310
- @tpagon: @iannnnn ความละเอียดหน้าจอสูงถึง 84×48 พิกเซล!! แสดงผลได้ 2 สี!!! #WWDC3310
- @iannnnn: @ipats ไม่ต้องปลูกแล้วผักเผิก มาเล่นเกมงูกัน อย่างน้อยงูก็ช่วยกำจัดศัรูพืชอย่างหนูนาได้ด้วยนะ! #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon ส่วนคุณภาพของกล้อง ไม่ต้องพูดถึง! .. บอกว่าไม่ต้องพูดไงล่ะ!!! #WWDC3310
- @ju_mp: @iannnnn มีเกมส์งูด้วย จ๊าบมาก #WWDC3310 #ร่วมด้วยช่วยเกรียน
- @thanr: #WWDC3310 by @iannnnn is bringing me to tears.
- @tpagon: @iannnnn พร้อมกันนี้ยังเสนอเวอร์ชั่นอัพเกรด Nokia3315!!! ล็อคเครื่องเองได้ด้วยถ้าเปิดทิ้งไว้! (จริงๆ) #WWDC3310
- @tpagon: @iannnnn อีเชี่ย สมัยนั้นก็เหมือนกันแหละว้า เพิ่มมาทีละจึ๋ง 3310->3330 เพิ่ม WAP มา เก็บ contact ได้ 100 เบอร์ เต่าตุ่น! #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon ทีนี้ที่สงสัยก็คือ.. หน้าตาของศาสดาลัทธิโนเกียเนี่ย มันเป็นใครวะ -_-‘ #WWDC3310
- @freeclub: กลับห้องแป้บเดียวมี tag #WWDC3310 ได้ไงว่ะ????
- @tpagon: @iannnnn มีคนมาเปรียบเทียบคู่แข่งที่สูสีกันด้วยล่ะ!! – http://bit.ly/cjWscZ ยอมไม่ได้!! #WWDC3310
- @aqua_princess: @tpagon @iannnnn บุคคล2คนนี้ได้กลายเป็นศาสดาของ 3310 ไปเรียบร้อยแล้ว #WWDC3310
- @tpagon: @iannnnn เปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจระดับยักษ์!! http://www.bluejackq.com/gallery2/3310-203.jpg #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon นี่เป็นหลักฐานชิ้นเยี่ยมที่บ่งบอกว่าโนเกียซื้อโค้กแล้ว! (หรือโค้กซื้อโนเกียเนี่ย -_-‘) #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon สิ่งที่ไอโฟนไม่มีทางสู้เราได้ก็คือขนาดของขีดแสดงสัญญาณบนหน้าจอ เรามีให้ถึง 2 ดุ้น ..ใหญ่ๆ!! #WWDC3310
- @freeclub: พบรหัสอัพเกรดประสิทธิภาพเสียง เพลงรอสายเป็นขั้นสุดยอด ถอดโค้ดง่ายๆได้ที่ http://bit.ly/bciSlJ #WWDC3310
- @tpagon: @iannnnn มีเกมแถมมาด้วยถึง 4 เกม!! ไม่ต้องซื้อเหมือนไอโฟน!! อาทิ Snake II, เกมจับคู่, เกมยานยิง!!! #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon นี่หาข้อมูลมาเยอะนะเนี่ย 555 #WWDC3310
- @tpagon: @iannnnn แฟนบอยนะ!! #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon ในบรรดาเกมเหล่านั้น คุณสามารถส่งผลคะแนนให้เพื่อนดูได้ ด้วยการหันจอไปทางเพื่อนแล้วพูดว่า “นี่ คะแนนกู” !!! #WWDC3310
- @ohohcita: @tpagon @iannnnn lol you both make me laugh with your #WWDC3310 thingy :) well done, folks!
- @tpagon: @iannnnn อีกสิบปีจะมีคนมาล้อเลียนไอโฟนอย่างที่เรากำลังทำอยู่มั้ย -_- #WWDC3310
- @tpagon: @iannnnn พร้อมกันนี้ยังมีการเปิดตัว gadget ใหม่ล่าสุดอีกด้วย!!! ภาพหลุด! – http://bit.ly/cBjltp #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon หรือว่านี่มันคือ iPage!!!! #WWDC3310
- @munkkron77: @tpagon @iannnnn มือถือเครื่องแรกในชีวิตของผมเลยนะเนี่ย #WWDC3310
- @mcsc: @tpagon @iannnnn อีกสิบปี เราจะใช้อะไรโทรหากัน :) #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon @mcsc 555 สมัยนั้นไอโฟนคงงี่เง่าสุดๆ แหละ // พอแล้วนะ เหนื่อยเสียงานเสียการมากครับ #WWDC3310
- @iannnnn: @tpagon พบกันใหม่ในงานเปิดตัวครั้งหน้า.. WWDC3315 !!!!! #WWDC3310
ป.ล.
เสียงานเสียการไปอีกคืน ตกข่าวอีกตะหาก
มัวมาทำบ้าอะไรกันอยู่เนี่ย! (เพราะอีแชมป์แท้ๆ)