!

exmark

(บันทึก)
ลูกทั้งตัวเล็กตัวใหญ่เพิ่งหลับไปตอนห้าทุ่ม
สงสารเมียที่เหนื่อยมาก ซึ่งที่จริงเราแม่งก็เหนื่อยเหมือนกันแต่ไม่ได้ครึ่งหรอก
หลังจากเดือนนี้คงหายเหนื่อย และได้มีเวลากลับมาเขียนบล็อกเยอะๆ เหมือนเดิม

[How to] หมดตูดง่ายๆ ด้วยการเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊ก

เข้าเรื่องเลยนะครับ ปั่นต้นฉบับอยู่

เมียผมคลอดลูกสาวคนที่สองเมื่อห้าวันที่ผ่านมา ก่อนคลอดก็เลยตั้งเวลาโพสต์เฟซบุ๊กในเพจร้านนลินฟ้าล่วงหน้าไว้ กะว่าเดี๋ยวตอนช่วงยุ่งๆ ให้นมลูกและพักฟื้นจากแผลผ่าตัด ก็คงไม่ได้มานั่งโพสต์ขายของประจำ

จนกระทั่งเมื่อกี้เห็นเมียเรียกให้หยิบคอมไปให้ดูหน่อย แล้วอีกสักพักก็บอกให้ช่วยดูให้หน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมโพสต์ในเฟซบุ๊กถึงมีจำนวนไลก์สูงกระโดดขนาดนี้

boosted-01

นั่นคือปกติการโพสต์จากเพจร้านนลินฟ้าจะเป็นแนวขายของรัวๆ หวังเงินล้วนๆ 55555 ไม่ได้มานั่งทักทายจ๊ะจ๋าฝนตกรถติดแบบที่วงการมาร์เก็ตติ้งเขาสั่งสอนกันมา (ประเด็นนี้เคยพูดในงาน Faceblog Talk ไปแล้ว) ดังนั้นโพสต์นึงจึงมีคนไลก์เฉลี่ยๆ 20-30 ไลก์เป็นเรื่องปกติ

แต่กับโพสต์นี้ ล่อไป 6-7,000 ในวันเดียว

แต่ตัวเลขเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เมียกรี๊ดเท่า ยอดเงินในบัญชีเราหายไปรวดเดียวเกือบ 7,000 บาท! (ตกไลก์ละบาท)

หลังจากสืบพยาน (ผู้ร้ายปากแข็งมาก ต้องค่อยๆ ตะล่อมถาม) เมียผมก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่าคงไปกดโดนในมือถือเข้า

boosted-2

อันนี้แคปหน้าจอมือถือเมียมาให้ดูนะครับ (ขออภัยเปิดโหมดถนอมสายตาไว้ จอมันเลยแดงๆ)

ให้สังเกตว่าการออกแบบที่ชาญฉลาดของซักกะเบิก ทำให้ปุ่ม Boost Post นั้นบวมเป่งน่ากดสิ้นดี ต้องบอกว่าเป่งตั้งแต่อยู่ในหน้าโพสต์ภาพหรือข้อมูลแล้วแหละครับ โดยถ้าเราโพสต์สถานะใดๆ แล้วลองกด Boost ดูสักครั้ง จะเห็นเลยว่ามันจะมีค่า default ที่เป็นการโยนเม็ดเงินเพื่อโฆษณาโพสต์นั้นๆ ให้ชาวบ้านเห็น (ใครที่ตามข่าวเฟซบุ๊กจะเห็นว่าถ้ายิ่งเราเป็นเพจใหญ่เท่าไหร่ ปริมาณการ “เห็น” โพสต์นั้นจะยิ่งริบหรี่ลง ทางเดียวที่จะให้ชาวบ้านเห็นคือจงจ่ายเงิน) ที่เลวคือ มึงออกแบบปุ่ม  Boost มาเด่นกว่าปุ่ม  Post อีก!

แล้วแถบเลื่อนด้านบนก็จะวางไว้ตรงสถานะที่พร้อมจะเสียเงินในระดับที่แพงมากทันทีนะครับ เนี่ยถ้าอยู่หน้านี้แล้วกดตุ่มใหญ่สีน้ำเงินปั๊บ “เงินหายทันทีครับ” …แถมมีข้อความกำกับด้านล่างที่แสดงความหวังดีว่า การที่มึงกดปั๊บแล้วเสียเงินปุ๊บเนี่ยนะ ถือว่ามึงอ่านข้อตกลงและยอมรับแต่โดยดีแล้วนะ เอาผิดไรไม่ได้นะ บัยนะ

จ้ะ อีห่า

โดยปกติแล้วเวลาเมียผมเลือกลงโฆษณาในสินค้าร้านตัวเอง ก็จะหยอดทีละ 2-300 บาทครับ และแยกการประเมินผลเป็นกรณีๆ ไป ซึ่งการตั้งค่าการจ่ายเงินโฆษณาบนเฟซบุ๊กนั้น ทำบนคอม (เดสก์ทอป) จะดีกว่าในมือถือ เพราะมันสามารถปรับแต่งค่าสารพัดได้ละเอียดกว่า (เฟซบุ๊กเป็นเว็บที่ประหลาดมากครับ บางทีเปิดในแอปก็มีฟีเจอร์บางอย่างงอกขึ้นมาสำหรับคนใช้แอปเท่านั้น แต่บางทีเปิดในเว็บเวอร์ชันมือถือกลับสะดวกกว่า และบางทีบนคอมก็ไม่ได้สะดวกเท่ามือถือ ฯลฯ คือวิศวกรและสถาปนิกมึงมีตั้งเยอะแยะแทบจะเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยรึเปล่าเหอะ ไหงไม่รู้จักหัดดูแลเรื่อง User Experience ให้เป็นไปในทางเดียวกันซะที ตูล่ะหน่าย)

เมื่อเมียผมเห็นเรื่องเสียเงินดังนั้น จึงรีบกด pause แคมเปญทันที จากงบที่ตั้งไว้ 19,600 บาท (โดยไม่ได้ตั้งใจ) จึงเสียจริงๆ ใน 7 ชั่วโมงแค่ไม่ถึง 7,000 บาทเท่านั้น… เฮ้อ ค่อยโล่งใจหน่อย

ซะที่ไหนเล่า!!!

เรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า

  1. เงินทองเป็นของนอกกาย
  2. ถึงกระนั้น สิ่งที่ทำให้เมียข้าพเจ้ากรี๊ดได้ มีแต่เรื่องเสียเงินเท่านั้น (ตะกี้ขอไทลินอลไปกินสองเม็ด)
  3. คิดจะใช้เฟซบุ๊ก อย่าบ่น มันให้ใช้อะไรก็ใช้ไป ด่าไปก็ไม่มีประโยชน์ ถึงจะรู้ว่าเจตนาการออกแบบของมันเหี้ยมากก็เถอะ
  4. อย่าให้เด็กเล่นโทรศัพท์และเข้าแอปมั่วๆ นะครับ อันตราย อย่างอันนี้ถ้าไม่ได้ระวังให้ดีก็หายไปเกือบสองหมื่นในวันเดียวได้เหมือนกันนะ
  5. แนะนำเดรสแฟชั่นสวยๆ จากร้านนลินฟ้าครับ ช่วยเหลือค่านมลูกและค่ากระเป๋าเมีย (ชุดที่โบว์กดไปผิดนั่นผมช่วยออกแบบด้วยนะ ใช้มือถือจากบล็อกตอนก่อนที่อวยไว้นั่นแหละวาดเอา)

จบ

พี่แอ๋วโดนผีเด็กหลอก

เนื่องจากเมียจะคลอดลูกสาวในวันมะรืนที่จะถึงนี้แล้ว แถมในโหมดงานเขียนหนังสือ อี บ.ก.กายมันก็เริ่มใช้วิธีทวงต้นฉบับแบบแอดวานซ์ขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงตัดสินใจว่าจะวาดการ์ตูนนินทาลูก (อยู่ในอีกบล็อก) และเขียนบล็อกเล่นเพื่อหนีปัญหาทั้งปวง

และนี่คือส่วนขอบล็อกหนีปัญหา ขอเขียนเร็วๆ เหมือนเดิม ไม่สละสลวยก็ขออภัยครับ

.

พี่แอ๋วเป็นแม่บ้านฟรีแลนซ์ที่มาช่วยทำงานบ้านมาปลายปีแล้วครับ (สมาชิกบ้านผมเป็นพวกสกปรกทั้งผัวทั้งเมียเลยต้องจ้างมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์) อุปนิสัยโดดเด่นของแกนอกจากจะคุยเก่งมากจนเป็นเพื่อนเล่นกับนิทานได้อย่างไหลลื่นแล้ว แกยังเป็นนักเล่นหวยตัวยง

ยิ่งแท็กทีมกับแม่ยายผมด้วยแล้ว มีเลขเด็ดที่ไหนยังไงอย่าได้พลาด มีโทรรายงานและติดตามผลกันตลอดแบบเรียลไทม์ (เป็นโซเชียลของคนเล่นหวย)

ล่าสุดช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา แกขอลาหยุดไปเฝ้าไข้พ่อที่สกลนครครับ หลังจากหยุดไปหลายวัน ก็ได้เจอแกมาจอดจักรยานหน้าบ้าน ทำหน้าตาตื่นแล้วบอกว่า “พี่โดนผีหลอกว่ะแอน”

ผมวางมือจากหน้าที่การงานตรงหน้า แล้วนั่งตั้งใจฟังทันที

แกบอกว่าพี่แกป่วยด้วยโรคคนแก่ เลยไปนอนเฝ้าที่โรงพยาบาล ซึ่งห้องพักคนไข้นั้นมีเตียงผู้ป่วยหลายเตียง และห้องน้ำติดๆ กัน 6-7 ห้อง

พอกลางดึกพี่แอ๋วปวดท้อง บรรยากาศในห้องก็มืดสนิทแบบหนังผีนี่แหละ เลยเดินไปเปิดไฟห้องน้ำแล้วปฏิบัติการกู้โลก ขณะที่แกอุ๊จอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงห้องน้ำข้างๆ ที่อยู่ติดกัน “กดชักโครก” แกมั่นใจมากว่าไม่มีใครลุกมาในยามวิกาลแบบนั้นแน่ๆ โอเค นั่นผีชัวร์ ขี้หดตดหายเป็นแบบนี้นี่เอง แกเลยรีบตัดจบธุระส่วนตัวแล้วเปิดประตูออกมา ก็พบบรรยากาศข้างนอกที่เงียบและมืดสนิทเหมือนเดิม

“เสียงท่อจากชั้นอื่นหรือเปล่า คนอยู่คอนโดเขาก็เจอกันแบบนี้” ผมแย้ง
“แต่ห้องพักคนไข้มีชั้นเดียวนะ” แกแย้งกลับ …สรุปว่าเป็นผีละกันนะ จะได้สบายใจ

นอกจากนั้นแกยังบอกอีกว่าพอแกมานอนหลับ แกฝันเห็นผีเด็กมาหาถึงเตียงด้วย! ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเรื่องผีในฝันมันไม่เร้าใจสำหรับพี่ป๋องเท่าไหร่ แล้วเราก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันอีก จนผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ คือวันนี้ พี่แอ๋วมาทำความสะอาดที่บ้านอีกครั้ง

“แอน จำเรื่องผีเด็กที่พี่ว่าได้ไหม” ผมหันไปสนใจอีกที ผีอีกแล้วเหรอพี่แอ๋ว
“จำได้ไหมหวยงวดล่าสุดออก 22” แหม จำได้สิครับ ผมกับเมียซึ่งไม่ได้สนใจเรื่องวงการหวยเลยสักนิด ก็ได้ subscribe รับทราบข่าวสารจากพี่นี่แหละ แถมงวดล่าสุดแม่ยายผมก็รับทรัพย์มาหลายบาทจากอีเลขนี้แหละ (ร้ายมาก)

“เลขเตียงพ่อพี่มันคือ 22 ว่ะ”
“เฮ้ย งั้นก็รวยเลยสิ”
“รวยอะไร พี่นะอุตส่าห์ตั้งใจจะซื้อ 22 นี่แหละ แต่ผีเด็กมันหลอกพี่”
“ยังไง” (เขียนประโยคละบรรทัดงี้ง่ายดี เดี๋ยวจำไปใช้ในหนังสือมั่งดีกว่า)
“ในฝันคือมันเปิดประตูเข้ามา ยื่นกระดาษเล็กๆ ให้ใบนึง แล้วพี่เห็นว่ามันเขียนว่า 92”
“แล้วพี่ซื้ออะไร”
“92”
“…”
“…”

เคยฟังโจ๊กคลาสสิกประมาณนี้มาก็หลายเวอร์ชัน ไม่คิดว่าจะได้เจอกับคนใกล้ชิดขนาดนี้ แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ

“แล้วตอนตีสี่ที่สะดุ้งตื่นมา พี่จะออกจากโรงบาล ก็เห็นว่ามีกระดาษใบเล็กๆ ตกคว่ำอยู่จริงๆ มันคว่ำอยู่ พี่นะขนลุกเลย เหมือนกับในฝันมาก แต่ก็โกยๆ ใส่กระเป๋าติดกลับมาเพราะคิดว่าคงเป็นขยะจะเอาไปทิ้ง แล้วก็ลืม ไม่ได้เปิดดูอีกเลยจนหวยออกนี่แหละก็เพิ่งมาเห็น”
“อย่าบอกว่าในนั้นเขียน 92 แบบที่ผีมาเข้าฝันจริงๆ นะ ถ้าใช่นี่จะสุดยอดเลย”
“เฮ้ย เหมือนกันจริงๆ แต่มันไม่ใช่เลข 92 นะ”

พี่แอ๋วเดินไปค้นๆ ในกระเป๋าสัมภารกของแก แล้วหันกลับมาให้ผมดู

.

.

.

.

.

.

.

.

.

22

มันคือเลขเตียงของพ่อแกนั่นเอง

จงบริหารเวลา

เป็นโจทย์ของช่วงเวลาหลายๆ เดือนถัดจากนี้ไปครับ

ลูกก็จะงอกมาอีกหน่อนึงในอีกเดือนนึงข้างหน้านี้ แน่นอนว่าเมียก็ต้องย้ายไปกกลูก งานค้างๆ คาๆ ก็ยังมีให้สะสางไม่รู้จักหมด ช่วงเวลาพักผ่อนที่ตั้งใจจะพักให้เป็นเรื่องเป็นราวอย่างการอ่านหนังสือก็ไม่ค่อยคืบหน้า เหล่านิตยสารเอย การ์ตูนเอย ก็กองไว้เป็นภูเขารอให้เราไปอ่าน ที่สำคัญคือตั้งใจจะเขียนหนังสือสักเล่ม (กล่าวไว้ในตอนที่แล้วจึ๋งนึง) สรุปสุดท้ายก็พอกหางหมูมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกที

แล้วที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปกับอะไรวะ

ที่จริงก็พอจะเดาได้ละ ถ้าตัดเน็ตปั๊บ อ้าวมีสามจีอีก ตัดสามจี (เสือกมีสี่จีอีก) ปิดทวิตเตอร์ กดล้างฟีดข่างรกสมองที่ตุนไว้ ฯลฯ เราน่าจะมีเวลาว่างคุณภาพๆ ไว้สะสางสิ่งต่างๆ ในย่อหน้าข้างบนให้ลุล่วงสินะ

ก็พูดแบบนี้ทุกที เวลาคุณภาพในโลกแห่งความจริงและเฉื่อยชาเหลวเป๋วของช้าพเจ้านั้นแม่งเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นแหละ ป้าล้านเคยบอกว่าคนที่ทำงานได้ในทุกสถานการณ์ นั่นแหละมืออาชีพของจริง ไม่ต้องมาอ้างเลย พออ่านประโยคนั้นเราก็ฮึกเหิมขึ้นมาได้หน่อยนึง..

ประมาณ 10 นาที แล้วก็มาเปิดไทม์ไลน์ เปิดฟีด นั่งอ่านอะไรเรื่อยเปื่อยต่อ

บัดซบเมทะนี

ป.ล.
ทีแรกกะว่าจะไปสำนักพิมพ์เพื่อคุยกับเหล่า บ.ก.ในวันพรุ่งนี้เกี่ยวกับหนังสือเล่มใหม่ ถือว่าเอาฤกษ์เอาชัยและบวงสรวงตัวเอง จุดพลุปั๊มพลังในการสร้างงานขึ้นมาสักหน่อย (กะว่าถ้าเริ่มปั๊บ มันจะมีข้ออ้างให้ตั้งใจเขียนเป็นกิจวัตรจนได้ไง) แล้วจะทยอยมาเล่าในนี้เรื่อยๆ แต่พอติดต่อนัดหมายปั๊บ ไม่มีใครว่างอยู่สำนักพิมพ์เลยจ้า อนาคตสดใส บายจ้า

พาแม่ไปแซลมอน

20140802-salmon-event

สุดท้ายคือไปตกลงกับแก๊ง บ.ก. (เอาแม่มาเป็นกันชนยังไม่ได้ผล) ว่าเออ ก็ได้วะ เดี๋ยวจะลองเอาเรื่องที่คิดไว้ว่าจะเขียนเป็นหนังสือไปคุยดูเร็วๆ นี้ ไม่รู้ว่ามีคนอ่านอยู่หรือเปล่า เพราะเราไม่ได้เป็น “นักเขียนอาชีพ” แบบที่มีกลุ่มผู้ติดตามเหนียวแน่นอย่างคนอื่นเขา (คือเห็นแฟนคลับนักเขียนแต่ละคนแล้วโอ้โห เจ๋งมาก น่ารักๆ ทั้งนั้นเลย #ประเด็น) …ทั้งที่จะว่าไปก็ออกกับสำนักพิมพ์นี้มาแล้วสองเล่มเลยนะ คือ FAIL OF THE สอง YEARS และคือปะป๊าครองพิภพ (อีแบงค์ก็บอกว่าเฮ้ย เล่มที่แล้วก็ขายได้นะพี่ — มันใช้คำว่าขายได้)

งั้นจังหวะนี้แหละ จะได้ถือโอกาสลุกขึ้นมาขยับแข้งขยับขา จับปากกาอีกครั้ง

ป.ล.

ป.อ.
ด้วยความสงสารชั้นหนังสือดองที่บ้านซึ่งรู้สึกผิดมากๆ และตั้งปณิธานไปหลายครั้งแล้วว่าถ้าไม่อ่านไอ้เล่มที่ดองไว้ให้มันพร่องๆ ซะบ้าง เราก็จะไม่ซื้ออะไรอีก แต่ไหนๆ มาถึงงานของเพื่อนฝูงแล้ว เลยตั้งใจจะซื้อแบบ max สุดแค่สองเล่มเท่านั้น ไม่มากกว่านี้เด็ดขาด ยืนเลือกอยู่นาน (โดยมี บ.ก.บันยืนกดดันข้างๆ แต่เราก็ไม่ได้ซื้อของบันเลย วะฮ่าๆๆๆ) จนในที่สุดก็ได้มาสองเล่ม เป็นแนวเกรียนๆ ทั้งคู่ และหนึ่งในนั้นก็อ่านจบอย่างรวดเร็ว คือเล่มนี้ครับ

ป.ฮ.
หนังสือแอนเล่มต่อไป ถ้าออกตุลาไม่ทันก็แถวๆ มีนาหน้านะครับ ถ้ามีนาไม่ทันก็ตุลาหน้า ถ้าไม่ทันก็..