“พี่ไม่ได้อยากมีอาณาจักร”

1.
ประโยคที่เอามาเป็นชื่อบล็อกคราวนี้ ผมจำไม่ได้ว่าที่จริงเป๊ะๆ พี่แกพูดว่าอะไร เป็นประโยคจากบทสัมภาษณ์คุณแหม่ม เจ้าของ “ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต” นวนิยายซีไรต์ปีล่าสุด (2558) ซึ่งเพิ่งประกาศผลไม่กี่วันมานี้เอง แต่บทสัมภาษณ์นี้น่าจะหลายวันแล้ว พี่แกมาในฐานะตัวเก็งของปีนี้
ชื่อรายการที่สัมภาษณ์ชื่อ Radio Read เป็นรายการวิทยุออนไลน์ผ่าน SoundCloud เพิ่งมีตอนนี้เป็นตอนแรก (ไม่รวมตอนแนะนำรายการซึ่งก็สนุกเหมือนกัน) ถ้าสนใจจงสละเวลาอันมีค่าของท่านไปฟัง

2.
พอก้าวเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่เต็มตัว (แน่ล่ะ นี่ผมก็อายุ 30 กว่าๆ จนชินกับการมีเลข 3 เป็นของตัวเองแล้ว) พบว่าแทบทุกคนจะมีเหตุผล หรือสิ่งยึดเหนี่ยว หรืออีโก้ หรืออัตตา หรืออะไรอีกล่ะ ที่มันอารมณ์ประมาณนี้ แต่สรุปได้ว่าเป็นสิ่งรองรับการกระทำของตัวเองว่า “กูคิดแบบนี้ มีอะไรไหม และนี่คือคำอธิบายชุดความคิดของกู”
ซึ่งสิ่งนี้แม้จะฟังดูงี่เงาแค่ไหนก็ตาม มันน่าสนใจว่ะ

3.
หนังสือที่ผมอ่านตอนขี้ในช่วงนี้คือ The Writer’s Secret เป็นบทสัมภาษณ์นักเขียน หรือนักอะไรต่างๆ ที่มีอาวุธคืองานเขียน (ยกตัวอย่างเช่นพี่เจ้ย และเจ้าของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ) แน่นอนต้องรวมถึงนักเขียนรุ่นเก๋าแบบที่เอ่ยชื่อแล้วคนไม่อ่านหนังสือยังรู้จักอีกหลายท่าน
ความสนุกมันอยู่ที่เราพบอัตตา-เหตุผลดังที่ว่ามาอัดแน่นอยู่เต็มเล่ม บางทีอ่านไปก็เฮ้ย อะไรของลุงวะ แต่ก็นั่นแหละ มันน่าสนใจมาก

4.
คำว่า “น่าสนใจ” นั้นอาจเป็นคำของคนแก่ก็ได้นะ คือเราไม่จำเป็นว่าต้องเห็นด้วยหรือคล้อยตาม และเช่นเดียวกัน เราไม่ต้องแสดงความรู้สึกขัดแย้ง แม้โคตรจะอยากแย้ง แต่มันคือความเคารพความคิด (หรือความคิดต่าง) ที่ก่อตัวขึ้นมาในช่วงที่สติเย็น ผมชอบความรู้สึกนี้ ผมเคารพความรู้สึกน่าสนใจนี้ เวลาเจอใครที่แม่ง ทำไมเหี้ยได้ขนาดนี้ หรือทำไมดีได้ขนาดนี้ หรือทำไมประหลาดขนาดนี้ แล้วมัน convert ออกมาเป็นคำว่า “น่าสนใจ” โดยอัตโนมัติ นั่นแหละจะเป็นตอนที่รู้สึกว่าเขาเป็นครูเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เราเคารพเขา เราอยากเรียนรู้ความดีเหี้ยประหลาดนี้ของเขา ซึ่งดี

5.
ตอนนี้รอบตัวผมมีคนรู้จักต่างทยอยเดินก้าวข้ามแกรนด์ไลน์แห่งชีวิตกันมาทีละคนสองคน หันไปวงการไหนก็ต่างเดินก้าวตามๆ กันมา สำหรับผู้หญิงเราจะได้เห็นการบ่นแบบหนึ่ง (เหี้ย กูสามสิบแล้วยังไม่มีผัวเลย) กับผู้ชายก็มักได้ยินอีกแบบ (เฮ้ยกูสามสิบแล้วทำไมชีวิตยังไม่มีอะไรเลยวะ)

6.
แต่เสียงบ่นที่น่าสนใจนั้นลอยมาอีกฝั่ง จากกลุ่มคนที่ถูกแปะป้ายว่า “ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี” ซึ่ง นับนิ้วมือดูแล้วเกินว่ะ รอบตัวผมมีคนประเภทนี้เยอะอะ ที่น่าสนใจ (ใช้คำนี้่บ่อยเกินไปแล้ว แต่มันน่าสนใจจริงๆ ถ้าผมสื่อสารถึงความน่าสนใจออกมาไม่เคลียร์ อนุญาตให้ด่าได้นะครับ) ก็คือ แต่ละคนต่างโอดโอยกันเรื่อง “Mid-life Crisis” กันทั้งนั้น ผมหูผึ่งและตั้งใจฟังทุกครั้งที่ได้เห็นคนเหล่านี้บ่น

ผมไม่ได้ติดตามชีวิตเขาเหล่านั้นตลอดเวลา (เป็นคนผิดของตัวเองที่เสือกไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ก เป็นความผิดต่อโลก ต่อสังคม ต่อเพื่อนมนุษย์ที่สิงอยู่ในนั้นเป็นหลัก) ดังนั้นการที่พอเข้าไปคุยกับลูกค้าแล้วเห็นเพื่อนที่ว่าโผล่มาบ่นเรื่องนี้ในไทม์ไลน์ให้เห็นกับตาบ่อยครั้ง จึงทึกทักตั้งข้อสังเกต เหมาเอาเองว่า กลุ่มคนที่ ปสคสรตตอยยมถ30ป. นี้ มันเคว้งว่ะ อาจจะเพราะรู้ว่าตัวเองได้ขึ้นมาโดนสปอตไลต์ฉาบทับร่างกาย หรือโดนแปะฉลากว่าเป็นคนเจ๋ง หรือรู้สึกได้เอง หรืออะไรก็ตาม ตั้งแต่ยังอายุ 20 กว่าๆ และยิ่งอยู่ในสังคมยุคปัจจุบันที่เราแปะฉลากคนกันง่ายๆ ไม่แพ้การที่ผมกำลังทำอยู่ในย่อหน้านี้นั้น

มันกดดัน

7.
ผมพยายามเรียบเรียงเรื่องนี้แล้วคุยกับเมียว่าเออ รอบตัวเรามีคนแบบนี้เยอะนะ เมียหันมาบอกว่า เตงก็เป็น ผมหันมามองตัวเอง (ก้มลงเอาคางติดร่องนม …ลองทำตูสิ #มองตัวเอง) …ยอมรับก็ได้ว่าผมก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น คือในช่วงวัย 20 กว่าปี ได้เคยทำอะไรๆ ที่มีคนพูดถึง มีผลงานออกสู่โลก ได้รับการยอมรับ ได้รับการคาดหวัง ฯลฯ หลายๆ อย่างจนตัวเองจำไม่ไหว* ถึงแม้จะเป็นแค่วงแคบๆ เท่าที่กะลาของผมจะกระดึบไปถึง แต่แคบๆ แบบนี้ก็เรียกได้แบบนั้นแล้ว

8.
แต่ทุกวันนี้ผมเรียกว่าแทบจะสลัดเชื้อแห่งนิวเจนฯ ทุกอย่างทิ้งไปทั้งหมด เป็นปริศนาที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม มานึกย้อนทีไรก็งง ยิ่งช่วงนี้ที่อยู่บ้านเป็นพ่อบ้านเลี้ยงลูกและทำงานรับใช้เมียเพียงอย่างเดียว บางทีมันก็แว้บๆ ขึ้นมาเหมือนกันว่าเอ๊ะ เมื่อก่อนเราเป็นใคร เดี๋ยวนี้เราเป็นใคร — เราเป็นใครของใคร
คือรู้แหละว่าตอนนี้ชีวิตดีมาก แต่หาข้อสรุปไม่ได้ว่าทำไมจึงดี เป็นความโอเคแบบงงๆ ประมาณว่าถ้ามีคนถามก็จะอธิบายออกไปแบบโง่มาก ทั้งที่ตอนตัดสินใจทิ้งอะไรไปแต่ละอย่าง มันต้องอาศัยความหนักแน่นทั้งนั้น เพราะนั่นคือการเลือกแบบที่เลือกแล้วไม่อยู่ในเขตเซฟโซนสักอย่าง …ตกลงมึงทำอะไร ทำเพื่ออะไร

9.
(สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านยาวๆ เราแนะนำให้อ่านข้อ 9 นี่ก็พอ อ้าว บอกช้าไปไหม) จนกระทั่งได้ฟังรายการวิทยุข้างบนนู้น และได้ยินประโยคที่เอามาทำหัวเรื่องบนนู้นนนแหละครับ ถึงได้เข้าใจ
รู้สึกว่าพิธีกรจะถามคุณแหม่มเรื่องการประสบความสำเร็จ เมื่อมีคนรู้จัก มีคนติดต่อชื่นชมและติดตาม เป็นสาวก และคาดหวังถึงผลงานที่จะทำต่อไป ว่ากดดันไหม คำตอบ (ถ้าจำไม่ผิดคือตอบทันทีด้วยซ้ำ) คือ “ไม่ พี่ไม่ได้อยากมีอาณาจักร” ซึ่งแม่ง เหี้ย โคตรใช่เลย ทุกอย่างที่ขมุกขมัวมาในร่างกายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายปี มันแตกเปรื่องในประโยคเดียว ยิ่งคุณแหม่มอธิบายว่า ปัจจัยภายนอกไม่ได้มีผลกับพี่ ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับจากผู้คน ความคาดหวัง หรืออะไรต่อมิอะไรที่ว่ามาในข้อ 7. ทั้งหมดแม่งคือปัจจัยภายนอก สิ่งที่กำหนดตัวตนของพี่ได้คือลูกผัว และต้นกระบองเพชรที่ปลูกไว้เท่านั้นเอง

10.
มีอีกคำถามคืออยากได้ซีไรต์ไหม คำตอบคืออยาก อยากได้ตังค์!

11.
ถึงผมจะไม่ได้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ ใหญ่โตอะไร อาจจะเป็นคนขี้แพ้ด้วยซ้ำ แต่คำตอบของชีวิตที่ได้มาในวัย 30+ จากรายการวิทยุที่มีผู้ฟังถึงร้อยกว่าคน! (คลิปเสียงตอนที่ 2 นี่ 51 คน) นั้นมันช่างเคลียร์หมดจดสดใส บัดนี้ผมรู้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร และยิ่งตอกย้ำความมั่นใจที่ได้วางสิ่งนั้น ลาออกจากงานโน้น ปล่อยมือสิ่งนี้ ถอดหมวกใบนั้น ถอดหัวโขนนี้ออกหมด เปลือยจนเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเดินแกว่งไข่อยู่บ้านเงียบๆ แม่งตอนนี้เคลียร์แล้ว ใสยังกะตาตั๊กแตน

12.
บางทีคนเราก็แปลก เราไขว่คว้าหาคนที่พูดอะไรออกมาสักอย่างแล้วได้ความรู้สึกว่า “เฮ้ย นี่มันกูชัดๆ” คงเพราะแบบนี้มั้งที่เดี่ยวไมโครโฟนของโน้ตอุดมถึงขายดิบขายดี

13.
และยิ่ง พ.ศ.นี้ เสียงชื่นชม คำตำหนิ การกดไลก์ หรือปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่ก่อร่างสร้างเป็นอาณาจักรขึ้นมา มันยิ่งกลายเป็นเปลือกหนาหนัก

14.
นั่นแหละมั้งที่เป็นสาเหตุให้ผมไม่สามารถทำอะไรสม่ำเสมอได้ เช่นเพจเฟซบุ๊ก ที่อัลกอริทึมของเว็บมันบังคับให้เราต้อง “ทำอะไรออกมาอย่างสม่ำเสมอ” ไม่งั้นมึงก็จมหายไป ไม่มีวันโผล่ในไทม์ไลน์ของใครอีกเลยแม้ว่าจะตั้งใจขนาดไหน (จ่ายค่าโปรโมตโพสต์มาสิ!) ดังนั้นเพจที่ทำอยู่กับเพื่อนๆ บ้าง ทำเองบ้าง แต่หือกับกฎดังกล่าว (คือโพสต์เดือนละครั้งซะเป็นส่วนใหญ่ และเป็นเรื่องที่เราสนใจจริงๆ) จึงร้างสนิท 55555 จนบางทีก็สงสัยพวกเพจคอนเซปต์ อะตัวอย่างก็เช่นพ่อบ้านใจกล้า หรือรบกวนตัดต่อภาพฯ เนี่ย แกเหนื่อยไหมวะ ที่ต้องสวมหัวโขนนี้อยู่ทุกวัน เอาน่ะถึงจะมีสปอนเซอร์เข้ามาเติมเงินให้เล่นมุกบ่อยๆ แต่การรักษาความสนุกของสิ่งที่สร้างมาจนถึงเฟสที่ต้องทำเป็นอาจิณ เพราะถ้าไม่ทำก็จะจมหายไปเนี่ย …มันยังสนุกอยู่จริงๆ ใช่ไหม

15.
สืบเนื่องจากดอกจันในข้อ 7 นั่นเป็นเหตุให้ผมเขียนบล็อกนี้ พอดีวันนี้ตื่นมาเห็นอีเมลเข้าฉบับนึง ซึ่งก็ควรจะเป็นเมลจากลูกค้าเสื้อธรรมดาๆ ที่มาสั่งสกรีนเสื้อ (โฆษณาร้านสกรีนเสื้อพร้อมแปะลิงก์) แล้วก็จากไป แต่ไม่ใช่
มันเป็นเมลอีกฉบับที่แยกออกมา และมีข้อความข้างในยาวเหยียด ผมว่าพิมพ์ใส่กระดาษ A4 คงได้สัก 3-4 หน้า และทุกบรรทัดทำให้ผมขนลุกเกรียว เจ้าของจดหมายบอกว่าผมติดตามพี่มานาน (จบครับ ผู้ชาย จบ) ขอบคุณมากๆ ที่พี่เป็นแรงบันดาลใจในเรื่องเหล่านี้ที่พี่ทำ และเริ่มไล่เรียง “สิ่งที่พี่ทำ” ย้อนไปสมัยที่ผมทำอะไรสนุกๆ เนิร์ดๆ เห่อหมอยหน่อยๆ แต่ลงรายละเอียดทุกบรรทัด ทุกประโยค ร้อยเรียงกันบรรยายถึงสิ่งที่ผมเปลี่ยนชีวิตเด็กคนหนึ่งที่เราไม่เคยเจอกัน แต่เขารู้จักและติดตามผมผ่านตัวอักษรล้วนๆ (โดยที่ผมเองก็ไม่เคยรู้) จนเขาโตเป็นผู้เป็นคนถึงวันนี้ ซึ่ง… สารภาพเลยจริงๆ ว่า 98% ของจดหมายฉบับดังกล่าว ผมลืมไปแล้วว่ากูเคยทำไอ้ที่ว่ามาด้วยเหรอวะ (คือมันนานมาแล้วจริงๆ ตั้งแต่สมัยเว็บฟอนต์แรกๆ แหละ) ที่แน่ๆ เขาเขียนมาอย่างละเอียด ด้วยไมตรีจิต ปิดท้ายด้วยคำขอบคุณ และแจ้งโอนเงินค่าสกรีนเสื้อ…

16.
บางทีอะไรเซอร์ไพรส์แบบนี้ก็เจ๋งดีนะ ถึงจะเป็นเรื่องของอดีตก็เถอะ คนที่ไม่ชอบพูดเรื่องอดีตได้ฟังคงเซ็งๆ แต่กับผมที่เป็นพวกลืมอดีตไปหมดแล้ว 555555 ได้อ่านอะไรแบบนี้มันก็เมกมายเดย์อย่างอลังการเลยครับ ส่งให้เมียอ่านเมียก็ขนลุก

คอมเมนต์

กามาผาโด้

เพิ่งเคยได้ยินใช่ไหมครับชื่อนี้ ผมก็เพิ่งเคยได้ยินเมื่อ 10 นาทีที่แล้วนี่เองเหมือนกัน

พอดีตอนเช้ามีอีเมลมาจากฝ่ายสมาชิกของอมรินทร์บุ๊กส์ที่ผมเป็นสมาชิกนิตยสารอยู่ เนื้อหาข้างในพูดถึงโครงการรับบริจาค ซื้อหนังสือ (จากอมรินทร์นั่นแหละ) ส่งไปให้กับห้องสมุดโรงเรียน




เรียน ท่านสมาชิก
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ อณัญญา
โทร. 02- 423 9999 ต่อ 6141 , 02-4239889 ต่อ 4
E-mail : ananya-r@amarin.co.th

มีเอกสารแนบเป็นไฟล์เวิร์ดด้วย

พอดีผมไม่มีเวิร์ดเลยเปิดไม่ได้ พรีวิวจับภาพในอีเมลได้อย่างเดียว เลยเมลไปบอกเขาว่าโอเค ผมเอาด้วย เหมาหมดเลยครับ แต่ไม่สะดวกกรอกเอกสาร ต้องทำยังไงบ้าง

สักพักฝ่ายสมาชิกเขาโทรมา น้ำเสียงหลั่นล้ามาก เดาว่าคงไม่ค่อยมีคนติดต่อกลับไปแบบนี้

คุยกันกับคุณอมรินทร์ ก็เลยให้เลือกว่าจะระบุโรงเรียนไหนไหม หรือจะรับเป็นหนังสือไปบริจาคเอง หรือว่าจะให้ทางสำนักพิมพ์เป็นธุระจัดส่งให้ เราก็หยอดเงินไปอย่างเดียวก็พอ

พอดีไม่มีโรงเรียนไหนเป็นพิเศษ เลยเลือกอย่างหลังไป ปลายสายหันไปปรึกษาทีมงานสักครู่ก็บอกว่า ในอมรินทร์มีคนที่จบจากโรงเรียนนี้ / หรือคนที่เคยไปบริจาคของโรงเรียนนี้อยู่คนนึง แต่เป็นโรงเรียนที่ไม่สะดวกออกเอกสารอนุโมทนาบัตรใดๆ กลับมานะคะเพราะเขาอยู่ไกล (ผมบอกไม่เป็นไร ไม่เอา)

โรงเรียนนี้ชื่อ โรงเรียน ตชด.บ้านกามาผาโด้ ลองกูเกิลดูนะคะ… ได้ครับ

มีสตอรี่ประกอบหน่อยนึงว่า โรงเรียนนี้อยู่ไกล กันดารอย่างที่เห็นในคลิปนี้ครับ ที่เคยมีไปบริจาคของน้องๆ มาก็พบว่า แค่ขนมถุงเดียวน้องมาเห็นก็ตาลุกวาว แบ่งกันกินได้ทั้งโรงเรียนแล้ว

ก้มลงมองขนมตัวเองข้างจอคอม…

เลยฝากมาบอกข้อมูลต่อว่าถ้าจะบริจาคอะไรอย่างอื่น เช่นเสื้อผ้า ขนม ฯลฯ ก็ฝากไปได้เช่นกันครับ ยังไงติดต่อตามข้อมูลข้างบนนะครับ หรือถ้าจะซื้อหนังสือบริจาคโรงเรียนที่คุณรู้จักก็ได้ครับ

ผมอินกับสิ่งนี้มากกว่าการทำบุญที่วัดประมาณ 80 ล้านเท่า

คอมเมนต์

ถ้าไม่ใช่ Note 5 ยังไงก็ไม่ใช่ Note 5 (รีวิวจากการใช้จริงรัวๆ)

คำถาม: โห ช้าจัง โน้ตห้าออกมาตั้งเป็นเดือนแล้ว ทำไมเพิ่งมาเขียน?
คำตอบ: โธ่พี่ จะไปเขียนเร็วแข่งกับชาวบ้านทำไมล่ะ ขอใช้งานจริงๆ ก่อนสิครับ

ก่อนหน้านี้ผมไปร่วมแคมเปญ “ถามให้หมด Note ตอบได้” กับเว็บ Droidsans.com โดยมีกติกาคือ ในช่วง 7 วันของแคมเปญนี้ ทางทีมงานจะระดมตอบคำถามที่มีคนสงสัยเกี่ยวกับโน้ตห้า แล้วโพสต์ลงในโซเชียลต่างๆ แล้วก็เข้าไปตอบ แต่ตอบเป็นคลิปสั้นๆ นะ นอกจากทีมพิธีกรจาก Droidsans แล้ว ผมเองก็ไปติดร่างแหแจมกะเขาด้วย เลยได้ลองจับ ลองคลำ พร้อมหาคำตอบให้กับผู้สงสัยมาทั้ง 7 วัน 7 คืน

ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ผมพอได้รู้ตื้นลึกหนาบางของมือถือรุ่นนี้ พอได้มาใช้งานจริงๆ ทำเครื่องตกพื้นจริงๆ (ตั้งแต่วันแรกเลย บัดซบ T-T) ผมจึงได้ล้วงแคะแกะเกา ปรับนั่นจูนนี่ และใช้ประโยชน์มันทุกส่วนทุกฟีเจอร์จนหนำใจ (เรียกว่าใช้จนปรุก็ว่าได้) แล้วจึงค่อยมาเล่าให้อ่านกัน ใครที่ยังลังเลหรือรอเปรียบเทียบกับมือถืออื่นๆ ก็ลองดูนะครับ แต่บล็อกนี้มีเนื้อหายาวมาก ถ้าขี้เกียจอ่านก็แนะนำให้เลื่อนๆ กวาดๆ ดูภาพ ดูหัวข้อที่สนใจก็ได้ครับ Continue reading ถ้าไม่ใช่ Note 5 ยังไงก็ไม่ใช่ Note 5 (รีวิวจากการใช้จริงรัวๆ)

คอมเมนต์

ถ้าไม่ใช่ iPhone ยังไงก็ไม่ใช่ iPhone

บล็อกไว้หน่อย กลัวสูญหายไปตามกาลเวลา

เห็นแล้วขึ้น นอนไม่หลับเลยครับ ทำไมถึงคิดแบบนี้หละ ถถถปล.เพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิดเกี่ยวกับ เจ้าของทวิตเตอร์ คนนี้ เค้าโพสท์อ้างอิงมาอีกทีนะครับ

Posted by SpecPhone on Sunday, September 20, 2015

ผมชอบมหกรรมกีฬาสีแบบนี้ครับ สนุกดี

เมื่อกี้ส่งข้อความไปหาแอดมินเพจนี้แล้วว่าไม่ต้องลบนะครับ ผมโอเค คือทีแรกก่อนแอดมินเพจนี้จะกดแก้ไขข้อความตามที่มี 1 (ในหลายร้อย) คอมเมนต์ทักมาว่านี่เขาแคปมาอีกทีนะ ไม่ได้พูดเอง แอดมินก็เข้าใจว่าผมเป็นคนเขียนจริงๆ 55555 (ที่บอกไม่ให้ลบเพราะกลัวว่าแอดมินจะเขินแล้วลบโพสต์ปลิวอะไรแบบนี้ เลยบอกเขาไว้ก่อนว่าผมโอเค)

ดังนั้นก็จะมีคนด่าทวีตนี้แบบ มึงไม่ต้องอยู่ประเทศไทยแล้ว เดี๋ยวรอดูนะ ได้มีทวีตกราบขอโทษ เปิดการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์อะไรแบบนี้ เอาๆ เอาเลย เอาที่พี่สบายใจ

และนอกจากนี้ก็ยังมีอีกสารพัดเพจและกรุ๊ปมือถือทั่วไทย ที่เซฟภาพนี้ไปปล่อยต่อและร่วมสังฆกรรมกันอย่างสนุกสนาน

อันนี้ทวีตต้นตอ

อันนี้ทวีตก่อนหน้า (ที่จริงคือทวีตต่อกัน แต่ไม่ได้กด reply ข้อความต่อเนื่องมันก็เลยไม่โยงกัน แล้วอีอันหลังมันล่อเป้ามากกว่า ก็เลยนลามไปที่อื่นง่ายกว่า)

ทีนี้ความเหี้ยก็คือ ข้อความต้นทางแม่งโดน Droidsans ลบไปแล้ว 55555555555555 อ้าว ทีนี้ก็กลายเป็นคำพูดจากกูโดยสมบูรณ์แล้วสินะ 555555555 เชี่ยยยยยย :41:

คอมเมนต์

กระต่ายตัวขาว

จะว่าไป ปีนี้ผมยังไม่ได้ซื้อซีดีเพลงเลยครับ (สาเหตุ)
เออๆ นึกได้ว่าซื้อมาแผ่นนึงแล้วก็คือเพลงสัตว์โลกน่ารัก (จำชื่อเป๊ะๆ ไม่ได้) ข้างในมีอยู่ 21 เพลง ซื้อมาให้คุณลูกสาวนี่แหละฟังเวลาอยู่ในรถ จะได้ไม่ต้องคอยจ้องการ์ตูน

ซึ่งได้ผลมากๆ ครับ กระต่ายกับเต่า หมาป่าเขี้ยวยาว อู๊ดๆ ฯลฯ ไม่ใช่แค่ลูกเท่านั้นที่ร้องวนทั้งวัน พ่อแม่แม่งก็ร้องตามไปด้วย เป็นแบบนี้มาพักใหญ่

จนผ่านไปหลายเดือน พอหมดช่วงเห่อ ทีนี้นิทานก็ไม่ได้เปิดเพลงอัลบั้มนั้นแล้วตั้งใจร้องตามทุกพยางค์เหมือนเดิมอีกต่อไป

ทีนี้ก็ต้องไปเที่ยวหาเพลงเด็กอนุบาลประมาณนี้อีก ซึ่งก็หายากหาเย็นครับ จนวันก่อนที่ลูกสองคนไม่สบาย ไปนอนโรงพยาบาล แล้วเจ๊ประกันซื้อตุ๊กตาแมวทอมที่กดตรงหูแล้วมันจะร้องเพลงได้ (โคตรล้ำ) แล้วเพลงมันเจ๋งมากครับ กระต่ายตัวขาวตาวาวกระดุ๊กกระดิ๊ก แรงซิแปรงแปรงฟัน ฯลฯ

พออ่านข้างกล่องก็มีบอกว่าลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดเป็นของบริษัท บ้านดรุณ จำกัด ก็เลยไปปรึกษากูเกิลจนเจอเว็บเขามีขายซีดีอะไรแบบนี้เต็มไปหมด แต่หาเพลงกระต่ายไม่เจอ เพราะเขาขายแยกหลายอัลบั้มมมากๆ แล้วก็มีแบบเพลงรักชาติ เพลงรักวัฒนธรรม เพลงอะไรที่เป็นแนวสะกดจิตเด็ก 555555 พอดีอยากได้แค่เพลงแนวเปิดสนุกๆ สัตว์กระโดดน่ารักอะไรแบบนี้ก็พอ

เลยส่งข้อความไปหาที่บริษัท ว่าขอซื้อไฟล์เพลงนี้เพียวๆ ได้ไหม ไม่รู้เขาจะขายไหม ขายเถอะ 55555

คอมเมนต์